สำหรับเทรนด์ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ คงหนี้ไม่พ้นเทรนด์ผิว Glass Skin ที่ผิวดูสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ มาทำความรู้จัก ผิวฉ่ำโกลว์ดุจกระจก หรือ Glass Skin ว่าคืออะไร อยากมีผิว Glass Skin ต้องทำอย่างไร พร้อมขั้นตอนการบำรุงด้วย Skincare ให้ผิวดูสุขภาพดีแบบ Glass Skin

Glass Skin เป็นเทรนด์ที่ได้รับอิทธิพลมาจาก Korean Skincare ของเกาหลีใต้ เป็นวิธีทําให้หน้าใสแบบเกาหลีที่นิยมแต่งหน้าให้ใบหน้ามีความฉ่ำวาว มีการเล่นแสงที่ตกกระทบลงมา ซึ่ง Glass Skin คือการดูแลผิวหน้าให้กระจ่างใส ผิวดูเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ และผิวดูมีความฉ่ำวาว พร้อมทั้งการดูแลผิวให้ห่างไกลจากสิว รอยสิว รอยแผลเป็น รอยฝ้ากระ หรือจุดด่างดำ ไปจนถึงร่องรอยร่องลึกต่างๆ เรียกได้ว่า เป็นผิวที่สวย สุขภาพดี แลดูเปล่งประกายดุจแก้วใส

ผิว Glass Skin กับผิวหน้ามัน ต่างกันอย่างไร

ในปัจจุบัน เทรนด์ความสวยแบบธรรมชาติกำลังมาแรง หลายๆ คนจึงอยากมีผิวแบบ Glass Skin เพราะช่วยให้ผิวดูสวย สุขภาพดีแบบธรรมชาติ แบบไม่ได้ปรุงแต่งอะไรมากมาย แต่ยังคงมีคนเข้าใจผิดกันอยู่ว่า ผิวแบบ Glass Skin คือผิวหน้าที่มัน แต่ความจริงแล้วผิวแบบ Glass Skin นั้นแตกต่างจากผิวมัน เพราะผิวที่มัน เกิดจากความมันบนใบหน้า ที่จะมีลักษณะเยิ้มเหมือนน้ำมัน ต่างจากผิวแบบ Glass Skin ที่จะอยู่ในลักษณะฉ่ำน้ำ ดูสุขภาพดีมากกว่า

สำหรับคนที่อยากมีผิวสวย ฉ่ำน้ำ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ มาดูวิธีเปลี่ยนผิวโทรมให้เป็นผิว Glass Skin ดูสุขภาพดีได้ ดังนี้
 

1. ล้างหน้าให้สะอาด

สำหรับขั้นตอนการดูแลผิวหน้าให้เป็น Glass Skin ขั้นตอนการล้างหน้าเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะในแต่ละวัน ผิวของเราพบเจอกับฝุ่น ควัน หรือมลพิษต่างๆ มากมาย ที่เป็นสาเหตุในการทำร้ายผิว การชะล้างสิ่งสกปรกเหล่านี้จึงสำคัญ แต่ไม่ใช่ว่าจะล้างด้วยน้ำเปล่าแค่นั้น เพราะน้ำเปล่าไม่สามารถล้างหน้าได้อย่างสะอาดหมดจดมากพอ 

ดังนั้น การล้างหน้าที่ถูกวิธีจึงควรทำได้โดยการล้างหน้าด้วยคลีนซิ่ง ที่มีทั้งแบบน้ำ แบบออยล์ แบบบาล์ม และแบบโลชั่น ต่อด้วยการล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ แต่ทั้งนี้ก็ต้องเลือกส่วนผสมให้เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง ดังนี้

  • คลีนเซอร์สำหรับผิวแห้ง ที่ควรมีส่วนผสมอย่าง Cream-based cleanser, Milk-based cleanser, Lanolin, Mineral Oil และ Petroleum Jelly 
  • คลีนเซอร์สำหรับผิวมัน ควรมีส่วนผสมอย่างกรดซาลิไซลิก (BHA) กรดไกลโคลิก (AHA) 
  • คลีนเซอร์สำหรับผิวผสม ที่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนต่อผิว สามารถกำจัดความมันส่วนเกิน และเพิ่มความชุ่มชื้นบนใบหน้า และควรเลี่ยงส่วนผสมอย่างน้ำหอม พาราเบน และแอลกอฮอล์ เป็นต้น  

 

2. ขัดผิว

แม้ตามกลไกของร่างกาย ผิวจะทำการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่ตายออกไปในรูปแบบขี้ไคล และสร้างเซลล์ผิวใหม่มาเอง แต่การขัดผิวทำให้ขั้นตอนการผลัดเซลล์ผิว หรือสิ่งสกปรกที่ตกค้างบนใบหน้าออกได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งการขัดผิวยังมีข้อดีคือ ช่วยลดโอกาสการเกิดสิว ทำให้ผิวกระจ่างใส เรียบเนียน กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด อีกทั้งยังทำให้ครีม หรือสกินแคร์สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ง่ายมากขึ้น

 

3. ใช้โทนเนอร์

สำหรับขั้นตอนก่อนการบำรุงผิวให้เป็น Glass Skin ควรใช้โทนเนอร์เพื่อเตรียมผิวให้พร้อม โดยโทนเนอร์จะช่วยปรับ pH ของผิว ให้มีความสมดุลมากขึ้น ทำให้ผิวชุ่มชื้น และทำให้ครีมบำรุงซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น


 

4. ทาครีมบำรุงผิว

หลังจากทำความสะอาดใบหน้าเพื่อเตรียมการบำรุงเรียบร้อยแล้ว ต่อมาเป็นขั้นตอนการบำรุงผิวด้วยครีมบำรุงผิว แล้วถ้าอยากหน้าฉ่ําวาวควรใช้อะไร? โดยการบำรุงผิวให้หน้าฉ่ำวาวควรเริ่มตั้งแต่การลงเซรั่ม หรือครีมบำรุงที่เหมาะสมกับปัญหาผิว โดยควรมีส่วนผสม เช่น ไฮยาลูรอน เซราไมด์ วิตามินอี วิตามินซี และเรตินอยด์ เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อมาก็ลงมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ปรับผิวให้สมดุล พร้อมเพิ่มความฉ่ำ ความอิ่มน้ำให้กับผิว พร้อมลงกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ทั้งนี้ ขั้นตอนการทาครีมบำรุงผิว ควรทำเป็นประจำทุกวัน เพื่อประสิทธิภาพของการบำรุงผิว


 

5. มาสก์หน้า

การมาสก์หน้าทุกวันช่วยกู้ผิวหน้าได้ดี เพราะตัวมาสก์นั้นอุดมไปด้วยสารที่มีประโยชน์ที่จำเป็นต่อผิว โดยการมาสก์หน้าแต่ละครั้ง ควรมาสก์ตามเวลาที่กำหนด เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด และเพื่อให้ผิวเนียนนุ่ม รูขุมขนกระชับ อิ่มน้ำ เผยผิวใหม่ที่สดใสกว่าเดิม

นอกจากการบำรุงผิวภายนอกแล้ว การดูแลสุขภาพภายในให้มีสุขภาพก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะสุขภาพของร่างกายย่อมส่งผลสุขภาพของผิวภายนอกด้วย
 

พักผ่อนให้เพียงพอ 

หากต้องการให้ผิวหน้ามีลักษณะ Glass Skin การพักผ่อนให้เพียงพอ ถือว่าเป็นขั้นตอนการดูแลสุขภาพที่สำคัญ โดยควรนอนประมาณ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน และไม่ควรเข้านอนเกิน 22.00 น. เพราะถ้านอนดึก หรือนอนไม่เป็นเวลา อาจทำให้หน้าดูโทรม ใต้ตาคล้ำ ผิวขาดน้ำ ไม่ชุ่มชื้นได้ แต่ถ้าพักผ่อนอย่างเพียงพอ ตื่นมาก็ทำให้ร่างกายสดชื่น ใบหน้าดูอิ่มน้ำ และผิวก็จะสุขภาพดีตามไปด้วย
 

ดื่มน้ำให้เพียงพอ

ผิวหนังประกอบไปด้วยน้ำประมาณ 30% จึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย เพราะน้ำไม่ได้ทำให้ผิวชุ่มชื้นเท่านั้น แต่ยังลดโอกาสการเกิดสิว ป้องกันไม่ให้ผิวแห้ง เพราะหากผิวแห้ง การผลิตน้ำมันบนใบหน้ายิ่งมีมากขึ้น จึงทำให้ปัญหาสิวร้ายแรงขึ้นนั่นเอง โดยควรดื่มน้ำประมาณ 6-8 แก้ว หรือ 2 ลิตรต่อวัน เพื่อให้สุขภาพทั้งภายนอก และภายในทำงานได้อย่างสมดุลด้วย
 

เน้นทานผักและผลไม้

ผัก และผลไม้ก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผิวเป็น Glass Skin แลดูสวยใส ไม่แห้ง และดูสุขภาพดีตั้งแต่ภายนอกไปสู่ภายใน เพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุ วิตามิน และสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยผัก และผลไม้ที่ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี เช่น ผักใบเขียว มะเขือเทศ บรอกโคลี องุ่น ส้ม บลูเบอร์รี เป็นต้น
 

เน้นทานไขมันดีมากขึ้น

ไขมันอาจทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการเกิดโรค แต่ถ้าเป็นไขมันดีจะยิ่งช่วยให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น อ่อนนุ่ม แลดูสุขภาพดีได้ โดยอาหารที่มีไขมันดี เช่น ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล ปลาซาร์ดีน และปลาทูน่า เป็นต้น ซึ่งปลาเหล่านี้อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีส่วนช่วยลดการอักเสบ มีวิตามินอีที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยปกป้องผิวได้จากการทำลายอนุมูลอิสระ ทั้งนี้ อะโวคาโดก็ถือว่าเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยไขมันดี และประกอบไปด้วยกรดโอเลอิก ที่ช่วยลดการอักเสบได้
 

หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจทำร้ายผิว ได้อย่างไร

Glass Skin สร้างได้โดยการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมทำร้ายผิว ดังนี้

  • พักผ่อนไม่เพียงพอ
  • ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่
  • ความเครียด
  • ไม่ทาครีมกันแดด
  • ไม่ได้รักษาความสะอาดปลอกหมอน ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว
     

สรุป

Glass Skin คือผิวที่มีความกระจ่างใส ฉ่ำวาวราวกับกระจก ไม่มีริ้วรอย ใบหน้าจึงดูสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งสามารถเปลี่ยนผิวโทรมๆ ให้กลายเป็นผิวแบบ Glass Skin ได้โดยการล้างหน้าให้สะอาดด้วยคลีนซิ่ง และคลีนเซอร์ทุกครั้ง ขัดผิว สครับผิวเพื่อกำจัดเซลล์ผิวเก่าให้ออกไป หลังจากนั้ให้ใช้โทนเนอร์เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการบำรุงผิวด้วยเซรั่ม หรือครีมบำรุงผิว และควรมาสก์หน้าอย่างเป็นประจำด้วย เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับใบหน้ามากขึ้น นอกจากนี้ การดูแลสุขภาพร่างกายก็สำคัญ เพราะสุขภาพภายในย่อมส่งผลต่อสุขภาพภายนอก โดยสามารถทำได้ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะๆ เน้นทานผัก ผลไม้ และไขมันที่ดี เพื่อสุขภาพผิวพรรณที่ดี

Bioderma ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเซ็นซิบิโอ

ทำความสะอาดและบำรุงผิว

ผิวแพ้ง่าย

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเซ็นซิบิโอ (Sensibio)

Bioderma ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเซ็นซิบิโอ

อาการของผิวแพ้ง่าย มีทั้งความรู้สึกคันยุบยิบ แสบร้อน ตึงผิว ระคายผิว และรอยแดงกระจายหรือเกิดขึ้นเฉพาะจุด

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเซ็นซิบิโอ (Sensibio) คือผลิตภัณฑ์ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ  นอกจาก เซ็นซิบิโอ เอชทูโอ (Sensibio H2O) ไมเซล่า วอเตอร์ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมสำหรับทำความสะอาดผิวและเช็ดเครื่องสำอางสำหรับผิวแพ้-ระคายง่าย ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ยังรวมถึงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลผิวที่แพทย์ผิวหนังแนะนำ อย่างผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าสำหรับผิวแพ้ง่าย และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในชีวิตประจำวันที่เหมาะกับผิวของคุณ!