ครีมลดรอยสิว สำหรับการใช้ทาลดรอยดำรอยแดงที่หลงเหลือหลังจากการเกิดสิว อาจเลือกได้ค่อนข้างยากเนื่องจากครีมสำหรับลดรอยสิวมีอยู่หลากหลายในท้องตลาด แต่ละตัวอาจมีสรรพคุณช่วยลดรอยสิว เป็นครีมลบรอยสิวได้ แต่ด้วยส่วนผสมที่แตกต่างกันอาจสร้างความลำบากใจเมื่อเลือกซื้อ

แม้ว่าครีมแต้มสิวหลายตัวจะมีส่วนช่วยในการลดรอยสิวได้ ส่วนผสมบางชนิดอาจมีข้อควรระวังในการใช้งานอยู่ การศึกษาส่วนผสมของครีมแต้มสิวและสกินแคร์ที่จะใช้ร่วมกันจึงเป็นสิ่งที่ควรทำเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาผิวได้

สาเหตุของการเกิด “รอยสิว”

ก่อนเลือกครีมลดรอยสิว มาทำความเข้าใจรอยสิวแต่ละประเภทกันให้ดีก่อน เพื่อจะได้เลือกใช้ครีมลดรอยสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ รอยสิวมีอยู่สองแบบ คือ

 

รอยแดงจากสิว

รอยแดงจากสิว มักเกิดจากสิวที่มีอาการอักเสบและระคายเคือง แม้สิวจะยุบแล้วแต่อาการอักเสบอาจจะยังไม่หายในทันที มีเส้นเลือดฝอยที่ยังคั่งอยู่ในบริเวณดังกล่าว และเห็นอยู่บนผิวหนังเป็นผิวสีแดง อาจบวมนูนด้วยเล็กน้อย

หากสิวมีรอยแดง ควรหลีกเลี่ยงการแคะ แกะ บริเวณที่เคยมีสิว เพื่อให้ผิวในบริเวณดังกล่าวสามารถฟื้นฟูได้เต็มที่ ลดโอกาสการเกิดการระคายเคืองหรือการอักเสบ เลี่ยงการเกิดแผลเป็นจากสิวได้

 

รอยดำจากสิว

รอยดำจากสิว มักเกิดจากสิวที่มีอาการอักเสบและระคายเคืองมาก ส่งผลให้เซลล์ผลิตเม็ดสีใต้ผิวหนังได้รับการกระตุ้นและผลิตเม็ดสีเพิ่ม รอยดำจากสิวใช้เวลาในการรักษานานกว่ารอยแดง และหากโดนแสงแดดหรือรังสียูวีซึ่งเป็นปัจจัยในการกระตุ้นการผลิตเม็ดสี อาจก่อให้รอยดำมีสีที่เข้มขึ้นได้

นอกจากหลีกเลี่ยงรังสียูวีแล้วยังควรรักษาผิวหน้าให้แข็งแรง เพราะผิวที่บอบบางคือผิวที่เกิดการระคายเคืองได้ง่าย เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดรอยดำได้ง่ายยิ่งขึ้น และผิวบอบบางยังไวต่อแสงเป็นพิเศษ รอยดำอาจชัดกว่าเดิมได้

4 วิธีเลือกครีมลดรอยสิว ที่ช่วยลดทั้ง รอยดำ รอยแดงจากสิว

ครีมลดรอยสิวมีส่วนผสมที่ช่วยในการลดรอยสิวที่แตกต่างกัน

 

1. ครีมลดรอยสิวที่มีส่วนผสมของเรตินอล

เรตินอยด์หรือเรตินอล คือส่วนผสมที่มักจะใช้เพื่อรักษารอยดำรอยแดงจากสิว โดยสารเรตินอยด์เป็นอนุพันธุ์ของวิตามินเอ หรือเป็นวิตามินเอรูปแบบหนึ่ง และเรตินอลเป็นสารเรตินอยด์ชนิดหนึ่งซึ่งมีอยู่หลายประเภท มีความอ่อนโยนกว่าเรตินอยด์เล็กน้อย

เรตินอยด์และเรตินอลมีส่วนช่วยในการผลัดเซลล์ผิวเก่า ช่วยลดการอุดตันในรูขุมขน และหากมีเปอร์เซ็นต์ส่วนผสมที่ค่อนข้างสูงจะมีส่วนช่วยในการลดการเกิดสิวและริ้วรอย ชะลอการเสื่อมสภาพของผิวได้เมื่อใช้งานในระยะยาว

การเลือกใช้ครีมที่มีเรตินอยด์ เรตินอล ควรเริ่มต้นจากผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นของสารค่อนข้างน้อยเช่น 1% เพราะเรตินอลเป็นส่วนผสมที่ค่อนข้างแรง อาจทำให้เกิดความระคายเคืองผิว ผิวแห้งลอกได้ และผิวที่บอบบางยังมีความไวต่อแสง ถ้าหากสัมผัสแสงแดดอาจเกิดการเร่งให้รอยดังกล่าวมีสีเข้มขึ้นได้ จึงควรสังเกตสภาพผิวตัวเองเมื่อใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ ว่าผิวตอบสนองต่อสารดังกล่าวอย่างไรบ้าง

 

2. ครีมลดรอยสิวที่มีส่วนผสมของวิตามินซี

วิตามินซีเป็นส่วนผสมสำหรับบำรุงผิวเพื่อความกระจ่างใสไม่หมองคล้ำ มีขายทั้งในรูปแบบของสกินแคร์อย่างน้ำตบ ครีมทาหน้า และครีมบำรุงเฉพาะจุด โดยความเข้มข้นของส่วนผสมมักอยู่ที่ 10-15% ซึ่งเป็นระดับที่ไม่ค่อยระคายเคืองผิวมากนัก เพราะถึงแม้ว่าวิตามินซีจะเป็นส่วนผสมยอดนิยม ก็ยังเป็นกรดชนิดหนึ่งที่ก่อให้เกิดความระคายเคืองผิวได้หากมีความเข้มข้นสูง

การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซีเพื่อความกระจ่างใสไร้รอยสิว จึงควรศึกษาชนิดของวิตามินซีที่ใช้ เพราะวิตามินซีแต่ละชนิดมีความเสถียรและความอ่อนโยนต่อผิวที่แตกต่างกัน รวมถึงการตอบสนองต่อน้ำและน้ำมันยังไม่เหมือนกันอีกด้วย ควรสอบถามรายละเอียดผลิตภัณฑ์ให้ถี่ถ้วนก่อนการซื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใช้ร่วมกับสกินแคร์ตัวอื่น

 

3. เลือกครีมลดรอยสิวที่มีความอ่อนโยนกับผิว

แม้ว่าการเลือกครีมลดรอยสิวที่มีความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์สูงเพื่อให้เห็นผลได้จริงจะเป็นหนึ่งในปัจจัยเพื่อเลือกซื้อครีมลดรอยสิว แต่การเลือกครีมที่มีความอ่อนโยนกับผิวก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญเพื่อการใช้ได้จริงในทุกๆวันในระยะยาวโดยไม่ก่อให้เกิดความระคายเคืองกับผิวหรือทำให้ผิวบาง

ผลิตภัณฑ์บางตัวแม้จะไม่ได้มีสรรพคุณหลักด้านการลดรอยสิว แต่อาจมีส่วนผสมที่ช่วยในการลดรอยสิวได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการบำรุงผิวไปในเวลาเดียวกัน เป็นการเสริมสร้างผิวให้แข็งแรงลดโอกาสการเกิดสิวและรอยสิวได้ในอนาคต เช่น

โทนเนอร์น้ำตบ Bioderma Sebium Lotion ซึ่งเป็นน้ำตบคุมมันสูตรสำหรับผิวเป็นสิว มีส่วนช่วยในการเติมน้ำให้ผิวมีความชุ่มชื้น และกรด BHA ที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวได้อย่างอ่อนโยนอีกด้วย และยังสามารถปรับสมดุลค่า pH ของผิวได้ จึงสามารถใช้ได้ทั้งเช้าและเย็น เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวเป็นสิว ต้องการการบำรุงผิว ลดสิว และลดรอยสิวในเวลาเดียวกัน

ครีมลดรอยสิว รอยดำ

 

4.ครีมลดรอยสิวที่มีส่วนผสมของ BHA และ AHA

กรด AHA (Alpha Hydroxy Acid) และ BHA (Beta Hydroxy Acid) เป็นกรดที่ใช้ในการช่วยผลัดเซลล์ผิว ถึงแม้ว่ากรดทั้งสองชนิดจะเป็นสารเคมี แต่ก็มีความปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อผิว และยังช่วยในกระบวนการผลัดเซลล์ผิวได้อย่างอ่อนโยนกว่าสครับธรรมชาติบางชนิดอีกด้วย

กรด AHA คือกรดที่ละลายน้ำได้ ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าชั้นบน มีส่วนช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน

กรด BHA คือกรดที่ละลายน้ำมันได้ สามารถทำความสะอาดรูขุมขนที่มีน้ำมันได้เป็นอย่างดี มีส่วนช่วยในการรักษาสิว

แม้ว่ากรดทั้งสองตัวจะมีส่วนช่วยในการรักษาสิว แต่ควรระมัดระวังเรื่องความถี่ในการใช้งาน เนื่องจากแต่ละผลิตภัณฑ์จะมีความเข้มข้นของกรดที่ไม่เท่ากัน ใช้งานได้แตกต่างกัน หากไม่ระมัดระวังในการใช้อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้

เช่น ครีมบำรุงผิว Bioderma Sebium Pore Refiner เป็นครีมบำรุงผิวสำหรับผิวมัน มีส่วนผสมของ AHA และ BHA ซึ่งนอกจากจะช่วยในการผลัดเซลล์ผิวให้ผิวดูกระจ่างใสเรียบเนียนแล้ว ยังช่วยลดการระคายเคืองของผิว สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและเย็นเพื่อเป็นการดูแลผิวพร้อมลดรอยสิวได้ด้วย

ครีมลดรอยสิว รอยแดง

ขั้นตอนการทาสกินแคร์สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ร่วมกันได้หลายตัว แต่ว่ามีสารบางชนิดที่ไม่ควรใช้ร่วมกันเนื่องจากส่วนผสมบางตัวสามารถลดทอนประสิทธิภาพของกันและกันได้

อนุพันธุ์กลุ่มวิตามินเอทั้งเรตินอยด์และเรตินอลไม่ควรใช้รวมกับกรด AHA เช่นกรดไกลโคลิค เพราะทั้งคู่มีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิว หากใช้ร่วมกันอาจทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวที่มากเกินไปและระคายเคืองผิวมากกว่าบำรุง

แนะนำให้ใช้สลับวันกัน ตัวใดตัวหนึ่ง ไม่ใช้ร่วมกัน

สารกลุ่มเรตินอยด์ เรตินอล มีส่วนช่วยในการรักษาสิวด้วยการผลัดเซลล์ผิวเพื่อลดการอุดตันในรูขุมขน ซึ่งเบนโซอิลเพอร์รอกไซด์อาจลดประสิทธิภาพของเรตินอยด์บางตัวได้ จึงควรใช้แยกกันเพื่อประสิทธิภาพที่ดีกว่า

เรตินอยด์และเรตินอลเป็นสารที่มีประสิทธิภาพในสภาวะผิวที่ค่อนข้างไปทางด่าง ในขณะที่วิตามินซีเป็นสารที่จะมีประสิทธิภาพสูงบนผิวที่ค่า pH เป็นกรด ด้วยธรรมชาติของสารที่ต่างกัน หากใช้ร่วมกันจะเป็นการลดทอนประสิทธิภาพของกันและกัน

แนะนำให้ใช้วิตามินซีในช่วงเวลากลางวันเนื่องจากมีสารที่ช่วยปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอกที่อาจทำร้ายผิวได้ เช่น รังสียูวี มลภาวะฝุ่น และใช้เรตินอลในช่วงเวลากลางคืนเพราะเป็นสารที่ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด

Bioderma ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีเบี่ยม

ทำความสะอาดและบำรุงผิว

ผิวผสมถึงผิวเป็นสิวง่าย

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีเบี่ยม (Sébium)

Bioderma ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีเบี่ยม

ผิวจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เนื่องจากผิวจะมีความหนามากขึ้น มันเงา เกิดสิวอักเสบเป็นจุดมากน้อยแตกต่างกันไป และบางครั้งก็ยังคงเป็นเช่นนั้นต่อเนื่องไปจนถึงวัยผู้ใหญ่อีกด้วย

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีเบี่ยม (Sébium) เป็นผลิตภัณฑ์ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อผิวมันและเป็นสิวง่ายโดยเฉพาะ
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีเบี่ยม (Sébium) มีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลผิวที่แพทย์ผิวหนังแนะนำโดยเฉพาะ ทั้งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าสำหรับผิวมัน อย่างเจลล้างหน้าและไมเซล่า วอเตอร์ มอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวเป็นสิวง่าย และอื่นๆ อีกมากมาย เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประจำวันให้ตัวคุณเลย!