ริ้วรอยร่องแก้มลึกเกิดจากอะไร? พร้อมวิธีลดเลือนให้หน้าดูอ่อนกว่าวัย
ริ้วรอยร่องแก้มลึกเกิดจากคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวเสื่อมสภาพ สามารถลดเลือนด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์และเซรั่มที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใส
ริ้วรอยร่องแก้มลึกเกิดจากคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวเสื่อมสภาพ สามารถลดเลือนด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์และเซรั่มที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใส
Key Takeaway
หลายคนเมื่ออายุเพิ่มขึ้นหรือแม้กระทั่งในวัยทำงานก็อาจเริ่มสังเกตเห็นริ้วรอยร่องแก้มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและแก่กว่าวัย ทั้งที่จริงๆ แล้วร่องแก้มเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างผิวตามธรรมชาติ การแสดงสีหน้าเป็นประจำ ไปจนถึงการสูญเสียคอลลาเจนและความยืดหยุ่นของผิว หากปล่อยทิ้งไว้ก็อาจทำให้ร่องลึกขึ้นและแก้ไขได้ยากกว่าเดิม
หลายคนจึงสงสัยว่าจะมีวิธีไหนบ้างที่ช่วยให้ร่องแก้มดูตื้นขึ้นหรือชะลอการเกิดได้ Bioderma ได้รวบรวม 7 วิธีลดร่องแก้ม ที่ทำได้จริงและเหมาะกับหลายๆ ไลฟ์สไตล์ มาให้ลองเลือกปรับใช้กัน
ก่อนจะหาวิธีลดร่องแก้ม มารู้จักสาเหตุของการเกิดริ้วรอยร่องแก้มกันก่อน เพราะเมื่อเข้าใจต้นตอปัญหา ก็จะสามารถเลือกวิธีดูแลและแก้ไขได้ตรงจุดมากขึ้น
เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังของเราจะค่อยๆ สูญเสียความยืดหยุ่นและคอลลาเจน ส่งผลให้เกิดการหย่อนคล้อยของผิวตามธรรมชาติ โดยเฉพาะบริเวณแก้มที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวลงมาตามแรงโน้มถ่วง และมารวมกันตรงตำแหน่งพังผืด (Ligament) ของร่องแก้ม จุดนี้เองที่ทำให้ร่องแก้มดูชัดและลึกขึ้นกว่าบริเวณอื่นๆ
การแสดงสีหน้าซ้ำๆ อย่างการยิ้มหรือหัวเราะ แม้จะเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่เมื่อทำบ่อยๆ จะยิ่งกระตุ้นให้กล้ามเนื้อบริเวณร่องแก้มทำงานมากเกินไป ส่งผลให้ร่องแก้มค่อยๆ ชัดขึ้นและกลายเป็นริ้วรอยลึกในที่สุด
ร่องแก้มลึกเกิดจากมลภาวะ ฝุ่น ควัน รวมถึงรังสี UV จากแสงแดด ล้วนเป็นปัจจัยภายนอกที่เร่งให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดริ้วรอยและทำให้ร่องแก้มดูลึกขึ้นในระยะยาว ดังนั้น การปกป้องผิวจากปัจจัยเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อช่วยรักษาความแข็งแรงของผิวและชะลอการเกิดร่องแก้มก่อนวัย
เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะค่อยๆ สูญเสียปริมาตรบนใบหน้า (Facial Volume Loss) ทั้งกระดูก กล้ามเนื้อ และชั้นไขมัน โดยเฉพาะบริเวณกระดูกกลางแก้มที่ยุบตัวลงอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้เกิดร่องลึกบนใบหน้า นอกจากนี้ บางคนอาจมีโครงสร้างกระดูกที่ยุบตัวมากกว่าปกติตั้งแต่กำเนิด จึงทำให้ใบหน้าดูลึกกว่าคนทั่วไป
ถ้าอยากลดริ้วรอยร่องแก้มโดยไม่พึ่งการทำหัตถการ ยังมีหลายวิธีธรรมชาติที่ช่วยได้ มาดูกันว่ามี 7 วิธีธรรมชาติอะไรบ้างที่ช่วยให้ร่องแก้มดูจางลงและผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
การใช้ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอยเป็นวิธีลดริ้วรอยร่องแก้มได้ โดยเฉพาะในวัย 30 ขึ้นไป ที่ผิวเริ่มสูญเสียความยืดหยุ่น ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยฟื้นบำรุงและปกป้องผิว เช่น คาร์โนซีน (Carnosine) และวิตามินอี ซึ่งเป็นแอนติออกซิแดนท์ทรงพลัง ปกป้องผิวจากการเสื่อมสภาพ
นอกจากนี้ Tetrapeptide-10 ช่วยเสริมความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิว โพลีฟีนอลจากเรดเซจช่วยลดการตอบสนองของผิวต่อมลภาวะ และฟูโคสโพลิเมอร์ช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายภายนอก ตัวอย่างเช่น Bioderma Defensive Serum ที่รวมคุณสมบัติทั้งหมดนี้ไว้ในหนึ่งเดียว ช่วยให้ร่องแก้มและริ้วรอยดูจางลงอย่างอ่อนโยนและมีประสิทธิภาพ
น้ำเป็นส่วนสำคัญของร่างกาย ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีและสนับสนุนการทำงานปกติของผิว โดยเฉพาะผิวชั้นนอก การดื่มน้ำอย่างเพียงพอช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและรักษาสมดุลของชั้นผิวได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าดูลดเลือนลง
การนวดหน้าช่วยลดร่องแก้มลึกและทำให้ร่องน้ำหมากดูตื้นขึ้นได้ โดยการใช้มือนวดคลึงเบาๆ บนใบหน้าเป็นประจำประมาณ 10 - 15 นาที จะกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวกระชับขึ้นและร่องแก้มดูจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ
การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารก็ช่วยลดริ้วรอยร่องแก้มได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรเน้นผักใบเขียวและผลไม้ ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี รวมถึงเกลือแร่ต่างๆ ที่ช่วยให้ผิวสดใส ชุ่มชื้น และดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ
การทาครีมกันแดดเป็นประจำเป็นวิธีลดริ้วรอยร่องแก้ม เนื่องจากรังสี UV จากแสงแดดเป็นสาเหตุหลักที่ทำลายคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยเร็วขึ้น การทาครีมกันแดดจึงช่วยปกป้องผิว ไม่ให้แสงแดดทำลายและชะลอการเกิดร่องแก้ม
สำหรับการปกป้องผิวสามารถใช้ Bioderma Photoderm XDefense Ultra-Fluid (Invisible) เนื้อบางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ ปกป้องผิวจากรังสี UVA/UVB ด้วย SPF50 PA++++ พร้อมปกป้องจากมลภาวะ ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดริ้วรอยและร่องแก้มในระยะยาว
ริ้วรอยและร่องแก้มลึกสามารถเกิดจากพฤติกรรมประจำวันของเราได้เช่นกัน โดยเฉพาะท่านอนในเวลากลางคืน บางคนชอบนอนตะแคงหรือหันไปด้านข้าง ทำให้ผิวบริเวณแก้มถูกกดทับซ้ำๆ จนอาจเกิดร่องแก้มก่อนเวลาอันควร การนอนหงายจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า พร้อมกับนอนหลับให้เพียงพอและลดความเครียด เพื่อช่วยฟื้นบำรุงเซลล์ผิวและระบบต่างๆ ของร่างกาย ทำให้ผิวแข็งแรงและยืดอายุของเซลล์ผิวให้นานขึ้น
การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย และกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนมากขึ้น ซึ่งช่วยให้ผิวหนังกระชับ ยืดหยุ่น ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ และลดริ้วรอยรวมถึงร่องแก้ม ทำให้ผิวหน้าดูเต่งตึงและมีสุขภาพดี
นอกจากการลดเลือนริ้วรอยแล้ว เรายังสามารถป้องกันไม่ให้เกิดร่องแก้มตั้งแต่เนิ่นๆ ได้ด้วยวิธีที่จะช่วยรักษาความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นของผิว
ริ้วรอยร่องแก้มคือรอยย่นหรือร่องลึกที่เกิดบริเวณร่องน้ำหมากบนใบหน้า มักปรากฏชัดขึ้นตามอายุหรือจากพฤติกรรมประจำวัน เช่น การแสดงสีหน้าซ้ำๆ การนอนตะแคง และการสูญเสียความยืดหยุ่นของผิว
การลดเลือนริ้วรอยร่องแก้มสามารถทำได้ทั้งจากการดูแลภายนอกและปรับพฤติกรรมภายใน โดยใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและกระตุ้นคอลลาเจน ดื่มน้ำเพียงพอ รับประทานอาหารบำรุงผิว นวดหน้า และทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ พร้อมกับปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะช่วยให้ร่องแก้มตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียน อ่อนเยาว์ และสุขภาพดี
หลายคนมักมีคำถามเกี่ยวกับริ้วรอยร่องแก้ม ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุ วิธีป้องกัน หรือวิธีลดเลือน เพื่อให้เข้าใจและดูแลร่องแก้มได้อย่างเหมาะสม เราได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยพร้อมคำตอบไว้ในส่วนนี้แล้ว
แม้จะอายุน้อย แต่บางคนก็อาจมีริ้วรอยร่องแก้มได้ เนื่องจากหลายปัจจัย เช่น พันธุกรรม โครงสร้างกระดูกและผิวหน้า พฤติกรรมประจำวันอย่างการแสดงสีหน้าซ้ำๆ การนอนตะแคง หรือการขาดการดูแลผิวอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด และการโดนแสงแดดบ่อยๆ ก็สามารถเร่งให้ร่องแก้มปรากฏชัดขึ้นเร็วกว่าปกติ
ร่องแก้มและร่องน้ำหมาก แม้จะอยู่บริเวณใกล้กัน แต่มีความแตกต่างกันชัดเจน ร่องแก้มคือรอยย่นหรือร่องลึกที่เกิดขึ้นจากการหย่อนคล้อยของผิวและการสูญเสียคอลลาเจนตามอายุ ทำให้บริเวณแก้มดูย่นและเกิดเป็นริ้วรอย ส่วนร่องน้ำหมากคือร่องจากมุมจมูกไปยังมุมปาก เกิดจากโครงสร้างผิวและกระดูกเป็นหลัก และมักปรากฏชัดขึ้นเมื่อแสดงสีหน้า เช่น ยิ้มหรือหัวเราะ
โยคะหน้าหรือการบริหารกล้ามเนื้อบนใบหน้า สามารถช่วยลดริ้วรอยร่องแก้มได้ในระดับหนึ่ง เพราะการฝึกกล้ามเนื้อหน้าเป็นประจำจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด และส่งเสริมการผลิตคอลลาเจน ทำให้ผิวหน้าดูกระชับและยืดหยุ่นขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนเท่าการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงหรือวิธีทางการแพทย์ การทำโยคะหน้าจึงควรทำควบคู่กับการดูแลผิวและพฤติกรรมที่เหมาะสม เช่น การพักผ่อนเพียงพอ ดื่มน้ำ และปกป้องผิวจากแสงแดด
ผิวแพ้ง่าย
อาการของผิวแพ้ง่าย มีทั้งความรู้สึกคันยุบยิบ แสบร้อน ตึงผิว ระคายผิว และรอยแดงกระจายหรือเกิดขึ้นเฉพาะจุด
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเซ็นซิบิโอ (Sensibio) คือผลิตภัณฑ์ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ นอกจาก เซ็นซิบิโอ เอชทูโอ (Sensibio H2O) ไมเซล่า วอเตอร์ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมสำหรับทำความสะอาดผิวและเช็ดเครื่องสำอางสำหรับผิวแพ้-ระคายง่าย ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ยังรวมถึงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลผิวที่แพทย์ผิวหนังแนะนำ อย่างผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าสำหรับผิวแพ้ง่าย และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในชีวิตประจำวันที่เหมาะกับผิวของคุณ!