ด้วยเทรนด์ผิวสวยสุขภาพดีที่กำลังมาแรง ทำให้หลายๆ คนหันมาใส่ใจใน Routine Skincare กันมากขึ้น ซึ่งหนึ่งใน Skincare ที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ คือ Moisturizer ไอเทมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และเสริมสร้างผิวให้แข็งแรง แต่ทราบหรือไม่ว่า Moisturizer นั้นมีด้วยกันหลายแบบ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล ทั้งผิวแห้ง ผิวเป็นสิวง่าย ผิวแพ้ง่าย ผิวผสม ผิวมัน และผิวขาดน้ำ การรู้จักสภาพผิวของตนเอง และเลือกใช้ Moisturizer ที่เหมาะสมนั้น จะช่วยเสริมสร้างผิวให้แข็งแรงได้อย่างดีเยี่ยม ดังนั้น ในบทความนี้จะพาไปดูวิธีการเลือก Moisturizer อย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิว เพื่อผิวที่แข็งแรง และดูสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

มอยส์เจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยเพิ่ม และกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว อีกทั้งยังเป็นเกราะป้องกันการสูญเสียน้ำในผิวอีกด้วย ถึงแม้ว่าปกติแล้วร่างกายจะมีการผลิตสารคงความชุ่มชื้นของผิวตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ด้วยมลภาวะต่างๆ ทั้งฝุ่น ควัน แสงแดด รวมไปถึงอายุที่มากขึ้น ทำให้การผลิตสารคงความชุ่มชื้นนี้ลดลง ผิวหนังจึงสูญเสียความชุ่มชื้น และไม่แข็งแรง ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ ตามมา ทั้งผิวแห้งเป็นขุย มีริ้วรอย ผิวระคายง่าย รวมถึงเกิดปัญหาผิวขาดน้ำ ซึ่งจะทำให้ผิวผลิตน้ำมันออกมามาก จนกลายเป็นปัญหาผิวมัน และเป็นสิวง่าย 

ดังนั้น เพื่อให้ผิวยังคงความชุ่มชื้น และป้องกันปัญหาผิวต่างๆ จึงต้องใช้ Moisturizer เป็นปราการป้องกัน และเสริมความแข็งแรงให้กับผิว นอกจากนี้การใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ยังช่วยเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการแต่งหน้า ทำให้เครื่องสำอางเกาะติดผิวได้ดี และอยู่ทนนานยิ่งขึ้นอีกด้วย

 

ผิวหน้ามันไม่จำเป็นต้องใช้ Moisturizer จริงหรือไม่?

หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินว่าคนที่มีผิวหน้ามัน ไม่จำเป็นต้องใช้ Moisturizer เนื่องจากคนผิวมันจะมีน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวอยู่แล้ว การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นจะยิ่งทำให้หน้ามันยิ่งขึ้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง อันที่จริงแล้ว การมองข้าม Moisturizer ไป อาจทำให้ผิวหน้ายิ่งมันมากขึ้น จากการที่ผิวไม่ได้รับการเสริมสร้างให้มีความแข็งแรง ผิวจึงเผชิญกับมลภาวะต่างๆ ได้โดยตรง และมีการสูญเสียความชุ่มชื้นของผิวจนเกิดปัญหาผิวขาดน้ำ ซึ่งจะยิ่งทำให้ผิวสร้างน้ำมันออกมามากยิ่งขึ้นกว่าเดิม 

ดังนั้นแล้วคนที่มีผิวหน้ามันก็ควรใช้ Moisturizer เพื่อให้ผิวมีเกราะป้องกันจากมลภาวะ ซึ่งจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ เป็นการคืนความสมดุล และช่วยควบคุมความมันให้กับผิว

 

เลือก Moisturizer อย่างไรให้ผิวหน้าชุ่มชื้น แข็งแรง เผยผิวสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

หลังจากที่ทราบกันแล้วว่า Moisturizer มีประโยชน์ต่อผิวอย่างไรบ้าง ต่อไปมาดูวิธีการเลือก Moisturizer อย่างไรให้เหมาะสม เพิ่มความชุ่มชื้น แข็งแรง เผยผิวสุขภาพดีอย่างยั่งยืน โดยสามารถเลือกได้ตามสภาพผิว ดังนี้

ผิวแห้ง

ผู้ที่มีสภาพผิวแห้งจะสังเกตได้จากผิวที่แห้งตึงหลังจากการล้างหน้า หรือสัมผัสผิวแล้วรู้สึกหยาบกร้าน มีผิวแตกลอกเป็นขุย และอาจมีอาการคันร่วมด้วย ซึ่งเกิดจากการสูญเสียน้ำในผิว จนผิวขาดความชุ่มชื้น โดย Moisturizer ที่เหมาะกับสภาพผิวแห้งควรมีความเข้มข้นมากกว่า Moisturizer ประเภทอื่น สามารถเลือกเป็นเนื้อครีมที่มีส่วนผสมของน้ำมัน หรือเป็นเนื้อครีมบาล์ม เนื่องจากเป็นเนื้อสัมผัสที่ช่วยในการเติมความชุ่มชื้น กักเก็บน้ำในผิว และช่วยล็อกไม่ให้น้ำระเหยออกไปจากผิวได้เป็นอย่างดี ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นได้อย่างยาวนาน 

อีกทั้งควรเลือก Moisturizer ที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยเพิ่มเกราะป้องกันให้แก่ผิว เพราะสาเหตุของการมีผิวแห้งกร้านนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่เกราะป้องกันผิวถูกทำร้ายจากปัจจัยต่างๆ ทำให้เกราะผิวเปลี่ยนแปลง และทำให้ผิวอ่อนแอลง อย่าง Atoderm PP Baume ที่มีส่วนประกอบของ Vitamin PP และสารให้ความชุ่มชื้นอื่นๆ ที่ช่วยเสริมเซราไมด์ที่ปราการผิว โดยคืนไขมันที่จำเป็นต่อการทำหน้าที่ของผิว โดยหลังทาครีมจะมอบความชุ่มชื้นให้ผิวมากขึ้นถึง 90% และ Atoderm Intensive baume ที่มีส่วนประกอบเฉพาะ Lipigenium™ complex ซึ่งสามารถเสริมปราการผิว และช่วยปลอมประโลมผิวระคาย ให้ผิวรู้สึกสบายขึ้นทันทีหลังทา

ผิวเป็นสิวง่าย

ผิวเป็นสิวง่ายมักเกิดจากการที่ผิวสูญเสียน้ำ หรือได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ยารักษาสิว จนผิวมีความอ่อนแอ บอบบาง และไวต่อสิ่งกระตุ้นต่างๆ ทำให้เกิดเป็นสิวได้ง่ายขึ้น โดยสังเกตได้จากผิวหน้าที่จะมีบางส่วนที่แห้งกร้านและระคาย พร้อมทั้งมีบางส่วนบนใบหน้าที่จะมีความมันเงา และเกิดสิวด้วย นอกจากนี้ผู้ที่มีผิวเป็นสิวง่ายยังมีรูขุมขนกว้างกว่าปกติ เกิดจากการที่ไขมันจากต่อมใต้ผิวหนัง (Sebum) มีส่วนเกินมาก ส่งผลให้รูขุมขนขยายใหญ่ขึ้น ทำให้เกิดสิวหัวดำ หรือสิวอักเสบได้ 

ดังนั้น ผู้ที่มีผิวเป็นสิวง่ายควรเลือก Moisturizer ที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา ความมันน้อย ซึมซับเร็ว เพื่อไม่ให้อุดตันรูขุมขน และมีสารประกอบที่ช่วยควบคุมความมันหรือลดรูขุมขนกว้าง อย่าง Sébium Sensitive ที่มีสูตรเฉพาะเพื่อให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวที่เป็นสิวง่าย ด้วยส่วนผสมของบาคูชิโอล (Bakuchiol) และ สิทธิบัตร Fluidactiv™ เป็นเทคโนโลยี Seborestore ช่วยปรับสมดุลองค์ประกอบของไขมันจากต่อมใต้ผิวหนัง (sebum) และเทคโนโลยี Inflastop complex™ ที่ช่วยปลอบประโลมสิวอักเสบ ให้ผิวชุ่มชื้น และรู้สึกสบายหลังทา หรือ  Sébium Pore refiner ที่มีส่วนผสมที่จดสิทธิบัตร Fluidactiv ™ เช่นเดียวกัน ประกอบไปด้วยกรดอะการิก (Agaric acid) ที่ช่วยให้ผิวดูกระชับ เรียบเนียน ทำให้รูขุมขนแลดูเล็กลง และผิวดูชุ่มชื้นขึ้นทันทีหลังทา

ผิวแพ้ง่าย

ผิวแพ้ง่าย คือผิวที่ไวต่อสิ่งกระตุ้นต่างๆ อาจมาจากสภาพแวดล้อม มลภาวะที่ต้องเผชิญในทุกๆ วัน หรือส่วนประกอบใน Skincare ที่อาจก่อให้เกิดการระคายผิว เช่น น้ำหอม พาราเบน แอลกอฮอล์ เป็นต้น ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายจึงควรเลือกใช้ Moisturizer ที่ไม่มีส่วนประกอบของสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายผิว ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งแบบเนื้อครีมและเนื้อเจล ที่สำคัญควรเลือก Moisturizer ที่มีความอ่อนโยน ช่วยปลอบประโลมผิว และลดการระคายผิวได้ 

แนะนำให้ใช้ครีมฟื้นบำรุงอย่าง Sensibio Defensive ที่ช่วยปลอบประโลมผิว และให้ผิวรู้สึกสบายได้ตั้งแต่หลังทาเสร็จ พร้อมด้วย DEFENSIVE TECHNOLOGY ที่ช่วยจัดการสาเหตุของผิวแพ้ง่าย ด้วยสารประกอบอย่าง Carnosine และ Vitamin E สารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ปกป้องผิวจากสิ่งกระตุ้น พร้อมด้วย Tetrapeptide-10 ที่ช่วยเสริมสร้างปราการผิวได้

 

ผิวผสม

ผิวผสม คือผิวที่มีทั้งความมัน และมีความแห้งกร้านในบางจุด ลักษณะของผิวผสมสามารถสังเกตได้จากผิวหน้าบริเวณ T-Zone (หน้าผาก จมูก และคาง) จะมีความมันมากกว่าปกติ เนื่องจากเป็นจุดที่มีต่อมไขมันมาก ส่วนบริเวณอื่นๆ ของใบหน้า เช่น แนวไรผม แก้ม กราม จะมีผิวที่แห้ง ทำให้การเลือก Moisturizer สำหรับผู้ที่มีผิวผสมอาจมีความยุ่งยากเล็กน้อย โดยแนะนำให้เลือกใช้แบบที่มีเนื้อสัมผัสครีมปกติ ไม่หนักและไม่เบาบางจนเกินไป อาจเลือกครีมที่มีส่วนผสมของน้ำ และน้ำมันในอัตราส่วนที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้ T-Zone เกิดความมันยิ่งขึ้น และเพื่อไม่ให้ส่วนอื่นๆ บนใบหน้าต้องขาดความชุ่มชื้น 

ทั้งนี้ สามารถเลือกใช้ Moisturizer 2 ชนิด โดยชนิดแรกเลือกแบบที่มีความเบาบางเพื่อทาในจุด T-Zone ส่วนอีกชนิดหนึ่งเลือกแบบที่มีความเข้มข้น เพื่อทาในจุดที่มีผิวแห้งกร้าน

 

ผิวมัน

ลักษณะของผิวประเภทนี้จะมีผิวที่ดูมันวาว มันเยิ้ม หรือมีผิวมันระหว่างวันอย่างรวดเร็ว เกิดจากการที่ต่อมไขมันในผิวมีการผลิตน้ำมันออกมาเป็นจำนวนมาก จึงควรเลือกใช้ Moisturizer ที่มีความบางเบา ซึมเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็วอย่างเนื้อสัมผัสเจล หรือเนื้อครีม Water-Based ปราศจากน้ำมัน และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน พร้อมทั้งเลือกแบบที่มีสารควบคุมความมัน ก็จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นโดยที่ลดความมันบนใบหน้าได้ด้วย ถ้าหากเลือกใช้ Moisturizer ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน หรือมีความวาวบนผิว อาจทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน และมีโอกาสเกิดสิวตามมาได้

ผิวมันขาดน้ำ

ผิวมันขาดน้ำคือผิวที่มีความมันแต่ขาดความชุ่มชื้น โดยผิวจะมีการผลิตน้ำมันออกมาเคลือบผิวมาก แต่ภายใต้น้ำมันที่เคลือบกลับมีผิวที่แห้งกร้าน ซึ่งเมื่อผิวยิ่งแห้งก็จะยิ่งผลิตน้ำมันออกมาเคลือบมากยิ่งขึ้น กลายเป็นปัญหาหน้ามันในเวลาต่อมา ผิวมันขาดน้ำสามารถสังเกตได้จากการล้างหน้า หลังล้างหน้าเสร็จผิวจะมีความแห้งตึง และหลังจากนั้นสักพักหนึ่งจะเริ่มมีความมันเพิ่มขึ้นมา 

ดังนั้น ควรเลือกใช้ Moisturizer แบบเนื้อครีมที่มีความบางเบา และไม่มันวาวจนเกินไป รวมไปถึงเลือกแบบที่เติมความชุ่มชื้นได้ดี ช่วยกักเก็บน้ำในผิว และช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำในผิวได้ โดยแนะนำให้เลือกใช้กลุ่มผลิตภัณฑ์อย่าง คลีนซิ่งไมเซล่า วอเตอร์ Hydrabio H2O, โลชั่นโทนเนอร์ Hydrabio Tonique, และเซรั่มเข้มข้น Hydrabio Sérum ประกอบด้วยสิทธิบัตร Aquagenium ™ ที่มอบความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น และยาวนาน ช่วยปรับให้ผิวมีความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ พร้อมเสริมการทำงานกระตุ้นการผลิตอควาพอริน (Aquaporins) ซึ่งเป็นท่อส่ง และกักเก็บน้ำในผิวหนังที่จำเป็นต่อการรักษาสมดุลไว้ได้

 

ทำไมต้องเลือก Moisturizer ตามสภาพผิวหน้า

สาเหตุที่ต้องเลือก Moisturizer ตามสภาพผิวหน้านั้น เพราะแต่ละสภาพผิวมีโครงสร้างที่ไม่เหมือนกัน จึงมี มอยส์เจอร์ไรเซอร์หลากหลายรูปแบบ ที่สามารถเข้ากันได้ดีกับสภาพผิวหน้าที่แตกต่างกันไป โดยสังเกตได้จากเนื้อสัมผัสของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ หากเนื้อสัมผัสเป็นเนื้อครีม และมีความเข้มข้น จะเหมาะกับสภาพผิวแห้ง เพราะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี ส่วนเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมง่าย แห้งเร็ว จะเหมาะกับสภาพผิวมันหรือผิวเป็นสิว เพราะปราศจากความมันวาว และไม่ทำให้ผิวมันมากยิ่งขึ้น 

ซึ่งถ้าหากเลือกใช้ Moisturizer ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว อาจทำให้ผิวไม่ได้รับการบำรุงที่เพียงพอ ผิวจึงไม่แข็งแรงขึ้น ไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ตามต้องการ หรืออาจมีปัญหาผิวหน้ามากขึ้นกว่าเดิมได้ เช่น หน้ามันมากขึ้น ผิวเป็นสิวมากขึ้น เป็นต้น ดังนั้นก่อนที่จะเลือกใช้ Moisturizer ควรตรวจเช็กสภาพผิวหน้าว่ามีลักษณะแบบใด จึงจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฟื้นบำรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

 

สรุป

การใช้ Moisturizer มีความสำคัญมาก เพราะช่วยในการบำรุงผิวหน้าให้มีความชุ่มชื้น ช่วยล็อกความชุ่มชื้นในผิว และป้องกันการระคายจากสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้การใช้ Moisturizer ยังช่วยลดการเกิดริ้วรอย และเสริมความแข็งแรงให้ผิวหน้าดูสุขภาพดี อ่อนเยาว์ขึ้นอย่างยั่งยืน ด้วยเหตุนี้ Moisturizer จึงกลายเป็นไอเทมสำคัญที่ควรใช้ในทุกๆ วัน และใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้กระทั่งคนที่มีผิวมันก็สามารถใช้ได้ เพราะจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น และควบคุมความมันได้ดีขึ้น เพียงแค่เลือกใช้ Moisturizer อย่างเหมาะสมกับสภาพผิว ก็จะได้ผิวหน้าที่สุขภาพดี และแข็งแรงขึ้นในระยะยาว

Bioderma Atoderm PP Baume หลอด 200 ml

บำรุงผิวได้ทุกวัน

ผิวแห้งมาก ระคายต่อผิวแพ้ง่าย

สิทธิบัตร Ecodefensine™

Atoderm PP Baume

บำรุงผิวชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชั่วโมง

สำหรับใคร

สำหรับทุกคนในครอบครัว (เด็กอายุมากกว่า 3 ปี)

BIODERMA Sébium Sensitive ครีมบำรุงสำหรับผิวเป็นสิวง่าย ปลอบประโลม คืนความชุ่มชื้น ลดโอกาสเกิดสิว

บำรุงผิวได้ทุกวัน

ผิวเป็นสิวง่าย ผิวแพ้ง่ายและอ่อนแอเป็นสิวง่าย

เทคโนโลยี Inflastop™

Sébium Sensitive

ครีมบำรุงสำหรับผิวเป็นสิวง่าย ปลอบประโลม คืนความชุ่มชื้น ลดโอกาสเกิดสิว

สำหรับใคร

ผู้ใหญ่, วัยรุ่น

BIODERMA Sensibio Defensive ครีมฟื้นบำรุงเนื้อเบา ซึมไว ไม่อุดตัน ปลอบประโลมผิว

บำรุงผิวได้ทุกวัน

ผิวบอบบางและแพ้ง่าย

เทคโนโลยีดีเฟนซีฟ

Sensibio Defensive

ครีมฟื้นบำรุงเนื้อเบา-ซึมไว ไม่อุดตัน ปลอบประโลมผิว มีสารที่ช่วยให้ผิวแข็งแรง ต้านทานมลภาวะและสิ่งกระตุ้นที่ทำให้ผิวแพ้ง่าย

สำหรับใคร

ผู้ใหญ่, วัยรุ่น

BIODERMA Sensibio Tonique โทนเนอร์ปลอบประโลมผิว และให้ความชุ่มชื้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผิว

บำรุงผิวได้ทุกวัน

ผิวแพ้ง่ายขาดน้ำ

สิทธิบัตร Aquagenium™

Hydrabio Tonique

โลชั่นโทนเนอร์ มอบความชุ่มชื้นให้ผิวแห้งขาดน้ำ

สำหรับใคร

ผู้ใหญ่, วัยรุ่น