สิวที่คอเกิดจากอะไร? รู้ทันสาเหตุ พร้อมวิธีป้องกันและรักษา

Key Takeaway

• สาเหตุที่ทำให้เกิดสิวที่คอ เช่น ความมันและเหงื่อสะสม เสื้อผ้าหรือเครื่องประดับเสียดสี ผิวสัมผัสสารระคายผิว ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหรือเส้นผมไม่เหมาะสม ความเครียด พักผ่อนไม่พอ ฮอร์โมนแปรปรวน กรรมพันธุ์
• สิวที่คอมีได้หลายประเภท ได้แก่ สิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวหัวหนอง สิวหัวช้าง และสิวผด
• วิธีการรักษาสิวที่คอ คือรักษาความสะอาดผิว หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือเสียดสี ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวเฉพาะจุด ทายาลดการอักเสบ และปรึกษาแพทย์หากสิวรุนแรงหรือไม่ดีขึ้น
• สามารถลดโอกาสการเป็นสิวที่คอได้โดยล้างทำความสะอาดผิวบริเวณคอเป็นประจำ หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือเกา เลือกเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการอุดตัน และอาบน้ำทันทีหลังเหงื่อออก

เคยเป็นไหม? อยู่ๆ สิวก็ผุดขึ้นที่คอ ทั้งเจ็บ ทั้งแดง รักษายากกว่าสิวบนใบหน้า! แม้ว่าสิวที่คอจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่หลายคนยังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง รวมถึงวิธีดูแลรักษาอย่างถูกต้อง จนทำให้สิวกลับมาเป็นซ้ำและทิ้งรอยไว้กวนใจ 

บทความนี้จะพาไปหาคำตอบตั้งแต่สาเหตุของสิว ประเภทของสิวที่พบบ่อย วิธีรักษาอย่างตรงจุด พร้อมวิธีลดโอกาสไม่ให้สิวที่คอกลับมากวนใจอีกครั้ง!

สิวที่คอคืออะไร? สัญญาณเตือนผิวที่ไม่ควรมองข้าม

สิวที่คอคือการอักเสบของต่อมไขมันและรูขุมขนบริเวณลำคอ มีลักษณะเป็นตุ่มแดง ตุ่มหนอง หรือสิวอักเสบ กดแล้วเจ็บ ต่างจากสิวบนหน้าเพราะมักเกิดจากการเสียดสี เหงื่อสะสม และการระบายอากาศไม่ดี หากละเลยอาจกลายเป็นสิวเรื้อรัง ทิ้งรอยดำหรือแผลเป็นถาวร

สาเหตุการเกิดสิวที่คอและท้ายทอยที่ควรรู้

สิวที่คอเกิดจากหลายปัจจัยที่อยู่ใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมประจำวัน สภาพแวดล้อม หรือสุขอนามัยที่ไม่เหมาะสม มาดูกันว่าปัจจัยหรือสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสิวในบริเวณนี้มีอะไรบ้าง

ความสะอาดไม่เพียงพอ

บางครั้งเราอาจใส่ใจทำความสะอาดเฉพาะใบหน้า แต่กลับละเลยบริเวณลำคอ ซึ่งเป็นอีกจุดที่สิ่งสกปรก เหงื่อ และน้ำมันสามารถสะสมได้เช่นเดียวกัน ส่งผลให้เกิดสิวที่คอได้โดยไม่รู้ตัว ดังนั้น การรักษาความสะอาดบริเวณลำคออย่างทั่วถึงจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

การเสียดสีจากเสื้อผ้าและเครื่องประดับ

สิวขึ้นหลังคอเกิดจากเสื้อผ้า เครื่องประดับ และอุปกรณ์กีฬาที่สัมผัสหรือเสียดสีกับผิวหนังบริเวณลำคอเป็นประจำ อาจทำให้เกิดการระคาย การเลือกใช้วัสดุที่นุ่ม ระบายอากาศดี และหลีกเลี่ยงการเสียดสีมากเกินไป จะช่วยลดโอกาสการเกิดสิวบริเวณนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหรือเส้นผมที่ไม่เหมาะสม

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายและเส้นผมบางชนิด อาจมีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการระคายต่อผิวหนังหรืออุดตันรูขุมขน จนทำให้เกิดสิวที่คอเป็นไตได้ ดังนั้นควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยน ปราศจากน้ำหอมและสารระคายเคือง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดสิวบริเวณนี้

ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ

ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง เช่น การเพิ่มของฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งกระตุ้นการผลิตน้ำมันในต่อมไขมันมากขึ้น ทำให้รูขุมขนอุดตันง่ายขึ้น ส่งผลให้เกิดสิวที่คอได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ การพักผ่อนน้อยยังทำให้ระบบภูมิคุ้มกันลดลง ทำให้ผิวหนังฟื้นฟูช้าและเพิ่มความเสี่ยงการอักเสบของสิวด้วย

ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง

ฮอร์โมนแปรปรวนโดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น ช่วงมีประจำเดือน และหญิงตั้งครรภ์ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสิวที่คอ เนื่องจากฮอร์โมนเหล่านี้กระตุ้นการผลิตน้ำมันมากขึ้น ทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดการอักเสบได้ง่ายขึ้น

กรรมพันธุ์และปัจจัยส่วนบุคคล

กรรมพันธุ์และปัจจัยส่วนบุคคลเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวที่คอได้ ถ้าคนในครอบครัวมีประวัติเป็นสิว จะเพิ่มโอกาสเกิดสิวที่คอได้ง่ายขึ้น เพราะส่งผลต่อการผลิตน้ำมันและความไวต่อการอักเสบของผิว ส่วนปัจจัยส่วนบุคคล เช่น ผิวมัน ความเครียด หรือพฤติกรรมที่สัมผัสผิวบ่อยๆ ก็สามารถกระตุ้นให้เกิดสิวที่คอได้เช่นกัน

สิวที่คอมีกี่ประเภท?

สิวที่คอมีหลายประเภทแตกต่างกันไปตามลักษณะและสาเหตุ การเข้าใจสิวที่คอแต่ละประเภทจะทำให้เราสามารถดูแลรักษาได้อย่างถูกวิธี

1. สิวผด

จริงๆ แล้วสิวผดเป็นผดผื่นชนิดหนึ่งที่แตกต่างจากสิวประเภทอื่น เพราะไม่ได้เกิดจากการอุดตันหรือการอักเสบของรูขุมขนโดยตรง แต่มักเกิดจากการโดนแสงแดด โดยเฉพาะรังสี UVA ซึ่งกระตุ้นให้เกิดผื่นเม็ดเล็กๆ คล้ายสิวหัวปิด และบางครั้งอาจมีสีแดงคล้ายสิวอักเสบ สิวผดมักพบได้บ่อยในช่วงฤดูร้อนหรือในพื้นที่ที่มีอากาศร้อน

2. สิวอุดตัน

สิวอุดตันเป็นประเภทสิวที่คอที่พบได้บ่อย เกิดจากการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ไขมัน และแบคทีเรีย แบ่งเป็นสองประเภทหลักคือสิวหัวดำหรือสิวหัวเปิด ซึ่งเกิดจากสิ่งอุดตันในรูขุมขนที่สัมผัสอากาศและเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันจนกลายเป็นสีดำ ส่วนสิวหัวขาวหรือสิวหัวปิด เป็นตุ่มนูนเล็กๆ สีขาวหรือสีผิว เกิดจากการอุดตันใต้ผิวที่ยังไม่สัมผัสอากาศ ทำให้รักษายากกว่าและเสี่ยงพัฒนาเป็นสิวอักเสบได้หากดูแลไม่เหมาะสม

3. สิวอักเสบ

สิวอักเสบที่คอมักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในรูขุมขน ทำให้เกิดการอักเสบในระดับต่างๆ ได้แก่ สิวตุ่มแดงในระยะแรก เป็นตุ่มแดงไม่มีหัวหนองและเจ็บเมื่อสัมผัส ซึ่งเกิดจากการอักเสบในชั้นผิวหนังตื้นๆ 

หากดูแลไม่ถูกวิธีอาจลุกลามเป็นสิวหัวหนอง ซึ่งมีหนองสีขาวเหลืองล้อมรอบด้วยวงแดง เกิดจากการอุดตันรูขุมขนที่เต็มไปด้วยน้ำมันและเชื้อแบคทีเรีย ส่วนสิวหัวช้างเป็นสิวอักเสบขนาดใหญ่ มีตุ่มและไตแดงบวมเจ็บ มีแบคทีเรียเจริญเติบโตรวมกันภายในและเสี่ยงเกิดแผลเป็นสูง

4. สิวหัวหนอง

สิวหัวหนองที่คอมักเกิดจากการพัฒนาของสิวอุดตันที่มีการอักเสบรุนแรงกว่าสิวตุ่มแดง เมื่อสัมผัสจะรู้สึกเป็นตุ่มนูนเล็กๆ และเจ็บ ลักษณะเด่นคือมีจุดสีขาวหรือเหลืองอยู่ตรงกลาง ซึ่งก็คือหนอง โดยรอบฐานของสิวมักมีสีแดง สีชมพู หรือสีเดียวกับผิว ทั้งนี้ สิวที่คอหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจลุกลามและทิ้งรอยแผลเป็นไว้ได้

5. สิวหัวช้าง

สิวหัวช้างเป็นสิวที่มีการอักเสบรุนแรงกว่าสิวตุ่มแดง (Papule) และสิวหัวหนอง (Pustule) โดยการอักเสบจะลึกลงไปในชั้นผิวหนัง ทำให้สิวมีลักษณะเป็นก้อนตุ่มนูนขนาดใหญ่ สีชมพูแดง และเจ็บปวดมากเมื่อสัมผัส หลายครั้งสิวประเภทนี้ถูกเรียกว่าสิวตุ่มนูนขนาดใหญ่ หรือในบางคนอาจพบเป็นสิวที่คอไม่มีหัว ซึ่งรักษาได้ยากและเสี่ยงทิ้งรอยแผลเป็นถาวรหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

รวมวิธีการรักษาสิวที่คอ แบบง่ายๆ ที่ได้ผลจริง

การรู้วิธีดูแลและรักษาสิวที่คออย่างถูกต้องตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นสิ่งสำคัญ ส่วนนี้รวบรวมวิธีรักษาสิวที่คอแบบง่ายๆ แต่ได้ผลจริง ที่สามารถทำตามได้ไม่ยาก เพื่อผิวคอเนียนใส กลับมามั่นใจอีกครั้ง

ทำความสะอาดบริเวณคออย่างสม่ำเสมอ

การรักษาความสะอาดเป็นพื้นฐานสำคัญ โดยเฉพาะหลังออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออก ควรรีบอาบน้ำและทำความสะอาดผิวทันที เพราะเหงื่อและสิ่งสกปรกที่สะสมอาจกระตุ้นให้เกิดสิวได้ง่าย 

สำหรับผู้ที่มีผิวผสมไปจนถึงผิวมัน และเผชิญปัญหาสิวหรือความมันส่วนเกิน การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ โดย Bioderma Sébium มี 2 ผลิตภัณฑ์เด่นที่ช่วยดูแลผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ Sébium H2O ไมเซล่าวอเตอร์สูตรสำหรับผิวมัน ช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรก เครื่องสำอาง และควบคุมความมันส่วนเกินอย่างอ่อนโยน 

และ Sébium Gel Moussant โฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยนที่ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย สาเหตุของสิว พร้อมควบคุมความมันโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ทั้งสองสูตรช่วยให้ผิวสะอาดใสและลดโอกาสเกิดสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ใช้แผ่นแปะดูดสิว

การใช้แผ่นดูดซับสิวหรือแผ่นแปะสิวเป็นวิธีที่ช่วยบรรเทาอาการอักเสบของสิวหัวหนองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแผ่นจะช่วยดูดซับหนองและของเหลวออกจากสิว ช่วยให้สิวยุบเร็วขึ้น พร้อมลดโอกาสการสัมผัสและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อเพิ่มเติม วิธีนี้เหมาะสำหรับสิวที่คอประเภทหัวหนอง แต่ไม่แนะนำสำหรับสิวอุดตันหรือสิวอักเสบที่ลึกในชั้นผิว

หากมีอาการแพ้หรือระคายผิวควรหยุดใช้ทันทีและปรึกษาแพทย์ และหากเป็นสิวที่คอที่มีการอักเสบรุนแรง ควรพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม

ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเรื่องสิว

ดูแลสิวที่คอด้วย Sébium Serum เซรั่มสำหรับผิวเป็นสิวง่าย มีริ้วรอย และรูขุมขนกว้าง ด้วยสารสำคัญ 3 กลไก Salicylic Acid, Acetyl Glucosamine และ Hyaluronic Acid พร้อมเทคโนโลยี FLUIDACTIV™ ที่ช่วยลดโอกาสเกิดอุดตัน หรือเกิดออกซิเดชันของน้ำมันในผิว ช่วยผลัดผิว เผยผิวเรียบเนียน พร้อมเติมความชุ่มชื้นและลดเลือนริ้วรอย

ส่วน Sébium Sensitive ช่วยปลอบประโลมผิว ลดโอกาสเกิดสิว ด้วยส่วนผสมของบาคูชิโอล (Bakuchiol) และสิทธิบัตร Fluidactiv™ ที่ช่วยปรับสมดุลไขมันใต้ผิวด้วยเทคโนโลยี Seborestore เสริมด้วย Inflastop complex™ ที่ช่วยลดโอกาสเกิดการอักเสบ พร้อมกลีเซอรีนที่เติมความชุ่มชื้นทันทีและยาวนาน และแป้งผสมสังกะสีควบคุมความมัน ช่วยลดโอกาสเกิดความมันเงาทำให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้น

ทายารักษาสิวเฉพาะจุด

ยารักษาสิวเฉพาะจุดเป็นวิธีที่ได้รับความนิยม โดยมีเบนโซอิล เพอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide) เป็นยาที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของสิว มีโอกาสแพ้น้อยและยังไม่ทำให้ดื้อยา Salicylic Acid หรือกรดซาลิกไซลิก (Salicylic Acid) ช่วยลดอุดตันของรูขุมขนและผลัดเซลล์ผิว ส่วนยากลุ่มเรตินอยด์เป็นสารวิตามินเอที่ช่วยลดอุดตันและอักเสบ แต่ทำให้ผิวไวต่อแสง ควรใช้ควบคู่กับครีมกันแดดเสมอ

รับประทานยารักษาสิว

ยาปรับฮอร์โมนเพื่อรักษาสิวที่คอเหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีปัญหาสิวจากฮอร์โมน โดยเฉพาะยาคุมกำเนิดที่ช่วยควบคุมฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) แต่ไม่แนะนำสำหรับผู้ชาย การใช้ยาในกลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำและสั่งจ่ายของแพทย์ หากเกิดอาการแพ้ควรหยุดใช้และพบแพทย์ทันที

วิธีป้องกันสิวที่คอ ไม่ให้กลับมากวนใจอีก

เพื่อป้องกันไม่ให้สิวที่คอกลับมาเป็นซ้ำอีก ควรดูแลและปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม ร่วมกับการรักษาความสะอาดและใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อผิวคอที่สุขภาพดีและเรียบเนียนอย่างยั่งยืน ดังนี้

• อาบน้ำทันทีหลังออกกำลังกาย ดูแลเส้นผมให้สะอาด เพราะเหงื่อค้างบนผิวเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียและสิ่งสกปรก
• หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อุดตันรูขุมขน และผลิตภัณฑ์ที่มีสารกันเสีย พาราเบน หรือน้ำหอม เพราะอาจทำให้ระคายผิวและทำให้มีโอกาสเกิดสิว
• เปลี่ยนปลอกหมอนและผ้าขนหนูบ่อยๆ ซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าขนหนู และผ้าห่มบ่อยๆ ช่วยลดโอกาสเกิดสิวที่คอได้
• หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่รัดแน่นบริเวณคอ ควรสวมเสื้อผ้าที่ไม่รัดคอและระบายอากาศได้ดี เพื่อลดการเสียดสีและการระคายผิวหนัง
• เลี่ยงการจับหรือเกาบริเวณคอ เพื่อลดโอกาสเกิดการกระตุ้นและลุกลามของสิวที่คอ
• ระวังเหงื่อและความอับชื้นบริเวณคอหรือท้ายทอย เพราะอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มีโอกาสเกิดสิวได้
• ลดความเครียดและพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันการเกิดสิวที่คอ
• ปรึกษาแพทย์ผิวหนังในกรณีเรื้อรัง หากมีสิวที่คอจำนวนมากหรือรักษาเองไม่หาย ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพราะสิวอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพอื่นที่ต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

สรุป

สิวที่คอเป็นปัญหาที่หลายคนมักมองข้าม ทั้งที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความมัน เหงื่อ การเสียดสีของเสื้อผ้า หรือผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการระคายผิว การเข้าใจประเภทของสิวที่คอจึงช่วยให้เลือกวิธีรักษาและดูแลได้อย่างถูกต้อง ทั้งการทำความสะอาด การใช้ยาเฉพาะจุด หรือปรึกษาแพทย์หากจำเป็น สิ่งสำคัญคือการลดโอกาสไม่ให้สิวกลับมา โดยดูแลผิวบริเวณคออย่างสม่ำเสมอและระมัดระวังปัจจัยกระตุ้นต่างๆ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสิวที่คอ (FAQ)

สิวที่คอเป็นปัญหาผิวที่หลายคนพบเจอได้บ่อยครั้ง แม้จะใกล้ตัวแต่ก็ยังมีความเข้าใจผิดและข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับสาเหตุและการดูแล ในส่วนนี้เราจะมาหาคำตอบเพื่อไขข้อข้องใจและเป็นแนวทางในการดูแลผิวกัน!

สิวที่คอเกิดจากอะไรบ่อยที่สุด?

สิวที่คอส่วนใหญ่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนจากหลายปัจจัย เช่น เหงื่อ สิ่งสกปรกสะสม (โดยเฉพาะหลังออกกำลังกายหรือในสภาพอากาศร้อนชื้น) การเสียดสีจากเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับ และฮอร์โมนที่แปรปรวน

สิวที่คอสามารถหายเองได้ไหม?

สิวที่คอชนิดที่ไม่รุนแรง เช่น สิวผดหรือสิวอุดตันเล็กน้อย สามารถหายเองได้เมื่อปัจจัยกระตุ้นถูกกำจัดไป เช่น เมื่ออากาศเย็นลง หรือมีการทำความสะอาดที่เหมาะสม

ทำไมสิวที่คอมักขึ้นซ้ำที่เดิม?

สิวที่คอมักขึ้นซ้ำที่เดิมได้บ่อย เนื่องจากบริเวณนั้นอาจมีต่อมไขมันที่ทำงานมากเป็นพิเศษ หรือเป็นจุดที่เกิดการเสียดสีกับเสื้อผ้า ผม หรือเครื่องประดับบ่อยๆ รวมถึงการทำความสะอาดที่ไม่ทั่วถึง

เป็นสิวที่คอบอกโรคได้ไหม?

โดยทั่วไปสิวที่คอไม่ได้บอกโรคหรือภาวะเจ็บป่วยร้ายแรงโดยตรง แต่มักเกิดจากปัจจัยเฉพาะที่ เช่น ฮอร์โมน การระคายผิว การอุดตัน หรือสุขอนามัยที่ไม่เหมาะสม