11 วิธีง่ายๆ กระชับรูขุมขนบนใบหน้า ดูแลผิวให้เรียบเนียนแบบธรรมชาติ

Key Takeaway

• สาเหตุของรูขุมขนกว้างเกิดจากการผลิตน้ำมันที่มากเกินไป การขาดความชุ่มชื้น การสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและอายุที่ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น
• วิธีกระชับรูขุมขน เช่น ใช้มาสก์หน้าที่ช่วยกระชับรูขุมขน ใช้ครีมกันแดดทุกวัน ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ สครับผิวหน้าบ้าง และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
• ลดรูขุมขนกว้างด้วยสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของวิตามิน B3, A ไฮยาลูรอน และกรดซาลิไซลิก 
   

รูขุมขนกว้าง ปัญหาผิวที่หลายคนพบเจอ

รูขุมขนกว้างเกิดจากต่อมไขมันที่ขยายขนาดหรือโครงสร้างเส้นขนผิดปกติ โดยมักพบในบริเวณแก้ม จมูก หน้าผาก และบริเวณอื่นๆ สาเหตุอาจมาจากฮอร์โมน อายุ หรือปริมาณไขมันในร่างกายที่เพิ่มขึ้น ปัญหานี้สามารถทำให้เกิดปัญหาผิวอื่นๆ เช่น สิว หน้ามัน หรือรอยสิวตามมาได้ ดังนั้นการบรรเทารูขุมขนกว้างจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อช่วยลดปัญหาผิวที่ตามมา
 

อ่านเกี่ยวกับชนิดสิวต่างๆ เพิ่มเติม : สิวอักเสบขึ้นไม่หยุด ดูแลอย่างไรดี? มาหาสาเหตุและจัดการที่ต้นตอ!
 

รูขุมขนกว้างนั้นมีสาเหตุมาจากการขยายตัวของต่อมผลิตไขมันใต้ผิวหนังที่ใหญ่ขึ้นจนทำงานผิดปกติ ผลิตน้ำมันส่วนเกิน (Sebum) ออกมามากเกินความจำเป็น ทำให้ผิวหน้าแลดูมัน รูขุมขนกว้างหน้าไม่เรียบเนียน

มาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่กระตุ้นให้เกิดการขยายตัวของรูขุมขนกว้าง
 

ฮอร์โมน

ในช่วงวัยรุ่นเป็นช่วงที่ฮอร์โมนแปรปรวน ยังไม่สมดุล โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศชาย แอนโดรเจน (Androgens) หากมีการหลั่งออกมาก จะมีส่วนในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของต่อมไขมัน ทำให้รูขุมขนขยายตัวกว้างขึ้นเพื่อระบายน้ำมันส่วนเกินออกมาบนผิวหน้า
 

สภาพแวดล้อม

สภาพแวดล้อมรอบตัวมีผลต่อการขยายตัวของรูขุมขนเช่นกัน ทั้งแสงแดด อากาศร้อนจะลดความชุ่มชื้นของผิวลงไป ทำให้ผิวแห้งเสีย เป็นเหตุของรูขุมขนกว้าง รวมถึงสภาพอากาศที่เต็มไปด้วยฝุ่น ควัน สิ่งสกปรกเหล่านี้จะเข้าไปอุดตันตามรูขุมขน ทำให้รูขุมขนขยายตัวกว้างขึ้น
 

พันธุกรรม

แน่นอนว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้รูขุมขนกว้าง หนึ่งในนั้นก็คือ พันธุกรรมที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น หากคนในครอบครัวมีสภาพผิวมัน ผิวผสม ซึ่งเป็นประเภทผิวที่มีการทำงานของต่อมไขมันมากกว่าปกติ ย่อมส่งผลให้รูขุมขนขยายกว้างขึ้นเพื่อช่วยระบายน้ำมันส่วนเกินออกจากผิว และเมื่อสภาพผิวนี้ถูกส่งต่อผ่านพันธุกรรม ก็ทำให้รุ่นลูกหลานมีแนวโน้มที่จะมีรูขุมขนกว้างเช่นเดียวกัน
 

ปัญหาสิว

สิวถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้รูขุมขนดูกว้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สิวอุดตัน สิวอักเสบ หรือสิวเสี้ยน ล้วนเกิดจากการอุดตันภายในรูขุมขน ส่งผลให้รูขุมขนขยายตัวออกเพื่อรองรับสิ่งอุดตันเหล่านั้น และแม้ว่าสิวจะยุบตัวลงไปแล้ว แต่รูขุมขนที่เคยถูกขยายก็อาจไม่กระชับกลับสู่สภาพเดิม ส่งผลให้ผิวดูไม่เรียบเนียนดังที่เคยเป็น
 

การดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม

การดูแลผิวที่ไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดผิว การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ผิดวิธี หรือแม้แต่การเลือกสกินแคร์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว ล้วนส่งผลให้รูขุมขนดูกว้างขึ้นได้ เช่น หากแต่งหน้าแล้วทำความสะอาดผิวไม่หมดจด โดยไม่ใช้คลีนซิ่งและคลีนเซอร์อย่างเหมาะสม สิ่งสกปรกและเครื่องสำอางที่ตกค้างอาจก่อให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน ทำให้รูขุมขนขยายตัวขึ้นและส่งผลให้ผิวดูไม่เรียบเนียน

การทำความสะอาดผิวหน้าที่บ่อยมากเกินไป หรือทำความสะอาดผิวหน้าแบบผิดวิธี ไม่ใช่วิธีการแก้หน้ามันที่ถูกต้อง อย่างการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่รุนแรงนั้น ไม่เพียงแต่ลดโอกาสการเกิดของน้ำมันบนใบหน้าเท่านั้น แต่ยังคงทำให้ผิวแห้ง ระคายผิวมากกว่าปกติ ทำให้ผิวยิ่งผลิตน้ำมันออกมามากกว่าเดิม ทำให้เป็นสาเหตุให้เกิดหน้ามันเยิ้มระหว่างวัน เพื่อชดเชยความชุ่มชื้นที่เสียไป

เพื่อคลายทุกความกังวลใจเกี่ยวกับปัญหาผิวรูขุมขนกว้าง วันนี้ Bioderma เลยจะมาแนะนำ 11 วิธีแก้รูขุมขนกว้าง ช่วยกระชับรูขุมขน ฟื้นฟูผิวหน้าให้เรียบเนียน มีดังนี้
 

1. หมั่นทำความสะอาดใบหน้า

การทำความสะอาดหน้าให้สะอาดจะช่วลดการอุดตันในรูขุมขน ที่เป็นสาเหตุของรูขุมขนกว้างไปได้ ดังนั้นจึงหมั่นทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ด้วยน้ำสะอาด ผลิตภัณฑ์คลีนซิ่ง และคลีนเซอร์ เพื่อทำความสะอาดผิวแบบ 2 ขั้นตอน (Double cleansing)
 

2. กระชับรูขุมขนด้วยโทนเนอร์

โทนเนอร์ (Toner) เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ช่วยแก้รูขุมขนกว้างให้ดูกระชับขึ้นได้ เมื่อใช้ทันทีหลังจากทำความสะอาดผิวหน้า โดยซับเบาๆ ขณะที่ผิวยังหมาด โทนเนอร์จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างล้ำลึก เมื่อผิวได้รับความชุ่มชื้นอย่างเพียงพอ รูขุมขนจึงดูฟู กระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมเปิดรับการบำรุงจากสกินแคร์ในขั้นตอนถัดไป
 

3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

อาหารที่เรารับประทานเข้าไปก็ส่งผลต่อผิวของเราเช่นกัน ควรเลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้กับผิว ในทางเดียวกันนั้นควรเลี่ยงอาหารประเภทที่ก่อให้เกิดไขมันสะสมมากเกินไปจนไปอุดตันตามรูขุมขนได้ เช่น อาหารประเภทของทอด ของมัน ของหวาน เป็นต้น
 

4. หลีกเลี่ยงแสงแดด

แสงแดด ถือเป็นศัตรูตัวร้ายของผิว เพราะเต็มไปด้วย รังสีอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet rays) หรือรังสี UV ที่สามารถทำร้ายผิวได้อย่างล้ำลึก เมื่อผิวได้รับรังสีเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง คอลลาเจนในชั้นโครงสร้างผิวจะถูกทำลาย ส่งผลให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ขาดความกระชับ และเกิดความหย่อนคล้อย นอกจากนี้ แสงแดดยังทำให้ผิวแห้ง ระคายผิว จนกระตุ้นให้รูขุมขนขยายตัวออกเพื่อช่วยระบายความร้อน 
 

5. ไม่เข้านอนทั้งที่ยังไม่ได้ล้างเครื่องสำอางออก

ไม่ใช่เพียงสิ่งสกปรกจากฝุ่น ควันในสภาพอากาศเท่านั้น แต่เครื่องสำอางที่ตกค้างอยู่บนผิว จากการไม่ทำความสะอาดใบหน้า และทิ้งเครื่องสำอางไว้บนผิวหน้าอย่างยาวนาน จะเข้าไปอุดตันอยู่ตามรูขุมขน ดังนั้นหากแต่งหน้า ควรล้างด้วยคลีนซิ่ง และคลีนเซอร์ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกเหล่านี้ให้หลุดออกจากผิวไปได้อยากสะอาดหมดจด

อ่านเพิ่มเติม : คลีนซิ่งกับคลีนเซอร์ ต่างกันยังไง? ต้องใช้ทั้งคู่หรือไม่
 

6. ออกกำลังกายเป็นประจำและนอนหลับให้เพียงพอ

การออกกำลังกายไม่เพียงแต่ทำให้ร่างกายแข็งแรง ยังช่วยขับสารพิษและสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนผ่านเหงื่ออีกด้วย หลังจากออกกำลังกายควรพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายและผิวหน้าได้ฟื้นฟูและกลับมาแข็งแรง
 

7. การเลเซอร์กระชับรูขุมขน

เพื่อให้เห็นผลในการกระชับรูขุมขนให้เร็วขึ้น อาจจะใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ด้วย Pore Refining Laser เลเซอร์กระชับรูขุมขน โดยเลเซอร์ชนิดนี้จะมีคุณสมบัติในการกระตุ้นกระบวนการผลิตคอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin) ในชั้นผิวหนัง ให้มีจำนวนปริมาณเพียงพอ เป็นวิธีทําให้รูขุมขนเล็กลง ผิวเรียบเนียนตามมาด้วย
 

8. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่ทำให้รูขุมขนกว้าง

เครื่องสำอางบางชนิดมีส่วนผสมที่ทำร้ายผิวเช่นกัน การลดรูขุมขนบนใบหน้าจึงควรเลี่ยงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีเนื้อหนาแน่นอย่างพวกรองพื้น หรือคอนซีลเลอร์ รวมถึงเลี่ยงเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของปิโตรเลียม สารกันบูด ออยล์เบส เพราะง่ายต่อการเกิดการอุดตันในรูขุมขน ทำให้รูขุมขนกว้าง และอาจจะตามมาซึ่งปัญหาสิวต่างๆ ได้อีกด้วย

รู้จักกับชนิดสิวอื่นๆ เพื่อเติม : สิวไม่มีหัว หรือ สิวอักเสบไม่มีหัว เกิดจากอะไร มีวิธีรักษาอย่างไร

9. การทำหัตถการเพื่อกระชับรูขุมขน

หนึ่งในวิธีแก้รูขุมขนกว้างที่ได้ผลดีอีกวิธีหนึ่ง คือการใช้ความร่วมมือจากแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ ด้วยการทำหัตถการร่วมด้วย อย่างการฉีดผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เช่น การฉีดรีจูรัน (Rejuran) จาก DNA แซลมอน การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) หรือสารไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว เติมเต็มผิวให้เรียบเนียนขึ้น
 

10. ทรีตเมนต์แก้รูขุมขนกว้าง

การทำทรีตเมนต์เป็นวิธีที่ช่วยให้ผิวได้รับการบำรุงที่มีประสิทธิภาพมากกว่าการทาครีมบำรุงผิวทั่วไป โดยในทรีตเมนต์มักจะใช้ส่วนผสมที่เข้มข้น ซึ่งมีสารอาหารที่ช่วยลดรูขุมขนบนใบหน้า และบางขั้นตอนอาจใช้เครื่องมือในการส่งสารอาหารเข้าสู่ผิวเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
 

11. พอกหน้าช่วยกระชับรูขุมขน

พอกหน้าด้วยส่วนผสมธรรมชาติ เช่น โยเกิร์ตและเบกกิ้งโซดา ช่วยให้รูขุมขนเล็กลงได้ โดยไม่เพียงแต่เป็นวิธีกระชับรูขุมขนแบบธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังช่วยลดโอกาสการการเกิดสิวได้อีกด้วย เนื่องจากมีคุณสมบัติช่วยขจัดสิ่งสกปรกและลดการอุดตันของรูขุมขน

หลายคนอาจสงสัยว่ารูขุมขนกว้างใช้อะไรดีเพื่อช่วยกระชับรูขุมขน วันนี้เรามีส่วนผสมของครีมที่มีประสิทธิภาพเพื่อช่วยให้รูขุมขนเล็กลง ดังนี้
 

วิตามิน B3 และวิตามิน A ช่วยกระชับรูขุมขน

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามิน B3 (ไนอะซินาไมด์) และวิตามิน A (เรตินอล) สามารถช่วยกระชับรูขุมขนและลดขนาดรูขุมขนได้ เพราะวิตามิน B3 จะช่วยปรับสมดุลการผลิตน้ำมันในผิวหน้า ลดการอักเสบ และเพิ่มความชุ่มชื้น 

ส่วนวิตามิน A จะช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวออก ทำให้รูขุมขนไม่อุดตันและหดตัวเล็กลง ช่วยให้ผิวเรียบเนียนและกระชับมากขึ้น
 

กระชับรูขุมขนด้วยไฮยาลูรอน

การใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนอย่าง Hydrabio Sérum เป็นวิธีทำให้หน้าดูเนียนและรูขุมขนกระชับ เพราะช่วยเติมน้ำให้กับผิวในแต่ละวันทำให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นทันที และกระตุ้นกลไกการคืนความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิวเพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนาน เมื่อผิวมีความชุ่มชื้นและนุ่มขึ้น ผิวจะดูเต็มและกระชับมากขึ้น ซึ่งช่วยลดขนาดรูขุมขนที่เกิดจากการขาดน้ำ 

รูขุมขนกว้าง แก้ได้ด้วย Salicylic Acid 

Salicylic Acid (กรดซาลิไซลิก) คือกรดที่ได้จากการสกัดจากเปลือกของต้นวิลโลว์ (Willow bark) ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดซาลิไซลิก เช่น Sébium Serum มีคุณสมบัติในการช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก และสามารถซึมลึกเข้าสู่รูขุมขนเพื่อสลายสิ่งอุดตันที่อาจเกิดขึ้นจากไขมันและสิ่งสกปรกได้ เมื่อสิ่งอุดตันถูกขจัดออก ลดรูขุมขนบนใบหน้า และผิวจะเรียบเนียนขึ้น

ใช้ครีมกันแดดสูตรน้ำไม่ให้รูขุมขนกว้าง 

ครีมกันแดดสูตรน้ำอย่าง Photoderm Aquafluide SPF50+ (Light color) และ Photoderm Aquafluide SPF50+ (Invisible) มักมีส่วนประกอบของน้ำและสารที่ไม่ทำให้ผิวมัน เช่น ซิลิโคนหรือสารสกัดจากพืชที่ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า โดยที่ไม่ทำให้รูขุมขนขยายตัว 
 

ตัวสูตรน้ำจะซึมซาบเร็วไม่ทิ้งความมันบนผิวหน้า ซึ่งเป็นกันแดดที่ใช้แล้วไม่อุดตันช่วยลดโอกาสที่รูขุมขนจะขยายจากการอุดตัน นอกจากนี้ยังช่วยกระชับรูขุมขนโดยการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวและลดโอกาสการสูญเสียความชุ่มชื้นจากแสงแดด ซึ่งจะช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น

พฤติกรรมบางอย่างอาจทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นได้ หรือทำให้การกระชับรูขุมขนไม่เป็นผลดีเท่าที่ควร การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยลดโอกาสการเกิดรูขุมขนขยายและช่วยดูแลผิวให้กระชับได้ดียิ่งขึ้น
 

ล้างหน้าบ่อยเกินไป กระทบรูขุมขน

การล้างหน้าบ่อยเกินไปอาจทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นและสูญเสียสมดุล ซึ่งจะกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น ทำให้หน้ามันและรูขุมขนกว้างขึ้นได้ รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดสิว ดังนั้น ควรล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น โดยใช้น้ำอุณหภูมิห้องเพื่อปรับสมดุลผิวให้ดีขึ้น
 

สครับผิวผิดวิธี

แม้ว่าสครับจะช่วยผลัดเซลล์ผิวและทำให้ผิวดูขาวกระจ่างใส แต่การสครับบ่อยหรือรุนแรงเกินไปอาจทำให้ผิวบอบบางและเป็นสิวง่ายมากขึ้น การสครับหน้าบ่อยๆ อาจทำลายภูมิคุ้มกันของผิว ทำให้แบคทีเรียและสิ่งสกปรกเข้าทำลายผิวได้ง่ายขึ้น ดังนั้น ควรสครับผิวเพียงสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง และเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนเพื่อปกป้องผิวจากการระคายผิว
 

ไม่ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์

หลายคนเข้าใจผิดว่า หากมีผิวหน้ามันเยิ้มแล้วไม่ควรทาครีมบำรุง เพราะกลัวว่าจะยิ่งทำให้หน้ามันเพิ่มขึ้น แต่จริงๆ แล้วความชุ่มชื้นและความมันเป็นสิ่งที่แตกต่างกัน แม้ว่าผิวจะมันมาก แต่ก็อาจขาดน้ำได้ 

เมื่อผิวขาดน้ำ ต่อมไขมันจะผลิตน้ำมันมากขึ้น ทำให้ผิวมันเยิ้มยิ่งขึ้น ดังนั้นใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเติมความชุ่มชื้นจึงสำคัญ ช่วยให้ผิวไม่ขาดน้ำและลดการผลิตน้ำมันที่เกินความจำเป็น
 

ไม่ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน

การไม่ทาครีมกันแดดเพราะกลัวว่าจะทำให้ผิวหน้ามันยิ่งขึ้นเป็นพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะการทาครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีที่สามารถทำร้ายผิวและกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น ซึ่งอาจทำให้หน้ามันเยิ้มกว่าเดิมได้ 

ดังนั้นควรทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง โดยเลือกสูตรที่มีเนื้อบางเบาและช่วยควบคุมความมัน เพื่อปกป้องผิวและควบคุมความมันได้ดีสำหรับผู้ที่มีผิวมันหรือผิวบอบบางเป็นสิวง่าย
 

รับประทานอาหารที่กระตุ้นให้หน้ามัน

ผู้ที่มีผิวหน้ามันควรหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจกระตุ้นให้ผิวมันยิ่งขึ้น เช่น อาหารทอด อาหารที่มีไขมันสูง ผลิตภัณฑ์จากนม น้ำตาลและของหวาน รวมถึงแป้งสาลี การบริโภคอาหารเหล่านี้มากเกินไปจะกระตุ้นให้ต่อมไขมันใต้ผิวทำงานหนักขึ้น ผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น จนอาจส่งผลให้ผิวมันเยิ้มและเกิดสิวตามมาได้
 

ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลหน้าไม่เหมาะสมกับผิว

การเลือกใช้สกินแคร์และเครื่องสำอางควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผิวของตนเอง สำหรับผู้ที่มีผิวมัน ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำมัน น้ำหอม และแอลกอฮอล์ เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายผิวและการสะสมของน้ำมันบนผิว นอกจากนี้ อย่าลืมเช็ดเครื่องสำอางออกให้หมดและล้างทำความสะอาดผิวหน้าอย่างหมดจดทุกวันก่อนนอน เพื่อลดโอกาสการอุดตันของรูขุมขนและการเกิดสิว
 

นอนหลับไม่เพียงพอ

การนอนหลับเพียงพอช่วยให้ผิวฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเอง หากนอนไม่พอจะทำให้ผิวหม่นหมอง มีรอยคล้ำใต้ตา และทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น ทำให้หน้ามัน แต่การนอนหลับเพียงพอจะทำให้ผิวกระจ่างใส ไร้ความมัน และโอกาสเกิดรอยคล้ำใต้ตา
 

ปัญหาความเครียด

อารมณ์และความเครียดเป็นปัจจัยที่ทำให้ผิวหน้ามันมากขึ้น เพราะความเครียดกระตุ้นให้ต่อมหมวกไตผลิตฮอร์โมนแอนโดรเจนมากขึ้น ส่งผลให้ต่อมไขมันใต้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้น ทำให้หน้ามันและเกิดปัญหาสิวตามมา
 

สรุป

รูขุมขนกว้างคือการที่รูขุมขนบนผิวหน้าใหญ่กว่าปกติ ทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน สาเหตุหลักได้แก่การผลิตน้ำมันมากเกินไปจากต่อมไขมัน การขาดความชุ่มชื้น อายุที่เพิ่มขึ้น หรือการอุดตันของรูขุมขนจากสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว วิธีการกระชับรูขุมขนรวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ควบคุมความมัน การผลัดเซลล์ผิว การเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และการใช้สกินแคร์ที่ช่วยกระชับผิว เช่น วิตามิน A ไนอะซินาไมด์ หรือกรดไฮยาลูโรนิก