หน้าเป็นผื่น ผิวแพ้ง่าย มีวิธีแก้และดูแลอย่างไรบ้าง

หน้าเป็นผื่นจากการที่ผิวแพ้ง่าย อีกหนึ่งปัญหาที่เลี่ยงได้ยากไม่ต่างจากปัญหาสิว เพราะผิวหน้าเป็นบริเวณที่ผิวมีความบอบบาง เพียงได้รับการกระตุ้นจากปัจจัยอื่น ๆ รอบ ๆ ตัว อย่างมลภาวะ ควัน ฝุ่น PM2.5 หรือสิ่งสกปรก ต่าง ๆ ก็อาจจะทำผิวร้ายปราการผิว ส่งผลให้ผิวแห้ง ผิวแพ้และระคายได้ง่าย 

 นอกจากนี้การเลือกใช้ สกินแคร์บำรุงผิว หากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่มีความเข้มข้นของสารบางชนิดที่สูงเกินไป  รวมถึงการสัมผัสหรือขัดถูใบหน้าบ่อย ๆ ก็อาจจะสร้างความระคายต่อผิว ทำให้ผิวแพ้ง่ายและหน้าเป็นผื่นขึ้นมาได้ 

ผื่นขึ้นหน้า คืออะไร มีลักษณะอย่างไรบ้าง

ผื่นขึ้นหน้า (Rashes) คือ ปัญหาผิวประเภทหนึ่งที่มักจะเกิดจากการอักเสบ (Inflammation) และสาเหตุจากทั้งปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอกที่ทำให้ปราการผิวถูกทำลาย จนทำให้ผิวแพ้ง่ายหรือผิวแห้งกร้านและเกิดผื่นบนใบหน้าได้ในที่สุด

อ่านต่อ : สัญญาณเตือนผิวแพ้ง่ายมีอะไรบ้าง มีวิธีฟื้นฟูอย่างไรให้ได้ผลดีที่สุด

โดยผิวหน้าเป็นผื่นนั้น มักจะมีลักษณะ ที่แตกต่างกันออกไปตามสาเหตุที่ทำให้เกิดผื่นขึ้นหน้า 

ซึ่งมีลักษณะของผื่นขึ้นหน้าที่พบได้บ่อยมีดังนี้

• หน้าเป็นผื่นเม็ดเล็ก ๆ อาจจะเป็นตุ่มผื่นเป็นปื้น หรือเป็นแถบ
• ในบางส่วนของผื่นอาจมีอาการบวมแดง หรือมีอาการคันร่วมด้วย
• ในบางกรณีมีตุ่มขึ้นหน้าหัวสีดำ ๆ หรือสีตามเนื้อผิวหนัง
• ผื่นแดง หรือผดผื่นเม็ดเล็ก ๆ

หน้าเป็นผื่น เกิดจากอะไร

การที่หน้าเป็นผื่นนั้น  สามารถเกิดได้จากทั้งปัจจัยภายในร่างกาย และปัจจัยภายนอกร่างกาย ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ผิวนั้นเกิดอาการระคายจนเกิดอาการตอบสนองเป็นผื่นเล็ก ๆ ขึ้นหน้า โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือผิวแห้ง อาจจะพบอาการผื่นขึ้นที่หน้าได้ง่ายกว่าสภาพผิวประเภทอื่น

หน้าเป็นผื่นที่เกิดจากปัจจัยภายใน

หน้าเป็นผื่นที่เกิดจากสาเหตุปัจจัยภายในร่างกาย ทำให้เมื่อถูกกระตุ้น ทำให้ระบบภายในร่างกาย รวมถึงการหลั่งของฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกายแปรปรวน โดยปัจจัยภายในร่างกายที่ส่งผล ให้ผื่นขึ้นหน้า เช่น

• กรรมพันธุ์ เป็นอาการที่ส่งต่อมาจากกรรมพันธุ์ของคนในครอบครัว โดยมักจะพบมากในเด็กทารกตั้งแต่อายุ 2 - 6 เดือน และสมาชิกในครอบครัวมักจะมีประวัติภูมิแพ้ เช่น ลมพิษ ภูมิแพ้ หอบหืด หวัดเรื้อรัง ทำให้ถ่ายทอดมาทางสายเลือด รวมถึงลักษณะของผิวที่แพ้ง่าย ผิวแห้ง หรือผิวบอบบางที่ส่งต่อมาทางพันธุกรรม
• ความเครียด โรคเครียดลงผิวนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ เพราะความเครียดนั้นส่งผลให้ระบบภายในร่างกายแปรปรวน ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันภายในร่างกายต่ำลง จนทำให้ผิวแพ้ง่าย ผิวระคาย และทำให้หน้าเป็นผื่นตามมาได้ในที่สุด  
• ผิวแพ้จากโรคบางชนิด เช่น โรคภูมิแพ้ หรือโรคผิวหนัง ที่มักส่งผลให้ผิวแพ้ง่ายและหน้าเป็นผื่นได้ โดยอาจก่อให้เกิดอาการอักเสบ ผื่นขึ้นเป็น ๆ หาย ๆ กระจายทั่วใบหน้า เป็นต้น 

หน้าเป็นผื่นที่เกิดจากปัจจัยภายนอก

• สภาพแวดล้อม มลภาวะ ควัน หรือ ฝุ่น PM 2.5 ถือเป็นอีกปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดอาการระคาย ทำให้ผิวแห้งกร้าน ผิวแพ้ง่าย และผื่นขึ้นหน้าได้ง่าย เช่น ผื่นแพ้ฝุ่น ผื่นแพ้อากาศ ผื่นแพ้แดด เป็นต้น 
• ผื่นแพ้แมสก์ หน้ากากอนามัยหรือผ้าปิดปากที่ใช้สำหรับปกปิดใบหน้าเพื่อป้องกันเชื้อโรคและฝุ่นละอองเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ แต่หากสวมใส่แมสก์เป็นเวลานานอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะเมื่ออากาศร้อนอาจทำให้ผื่นขึ้นหน้าได้ รวมถึงคนที่มีผิวแพ้ง่ายอาจทำให้เกิดผื่นแพ้แมสก์และการเสียดสีอาจทำให้ผิวระคายได้ง่ายด้วยเช่นกัน

• อาหารบางชนิด ในบางกรณีที่อาหารไม่สะอาด ไม่สด อาจจะส่งผลให้ระบบในร่างกายเกิดอาการแพ้ออกมาทางผิวหนัง ผดผื่นขึ้นหน้าได้  รวมถึงอาหารบางประเภทที่ผู้รับประทานบางกลุ่มเมื่อรับประทานไปแล้วอาจจะถูกกระตุ้นอาการแพ้ได้ เช่น ผลิตภัณฑ์จากนม อาหารทะเล เป็นต้น

• การรับประทานยาบางประเภท ผื่นแพ้ยาผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในผู้รับประทานบางราย แม้แต่ปริมาณยาเพียงนิดเดียวก็สามารถส่งผลต่อกลไกของร่างกาย เกิดผลต่อปฏิกิริยาทางภูมิคุ้มกันร่างกาย

• สารเคมีในสกินแคร์บางชนิด เนื่องจากสกินแคร์หรือครีมบำรุงผิวบางตัวอาจมีการผสมสารเคมีหรือสารที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ ซึ่งหากใครที่ผิวแพ้ง่ายเป็นทุนเดิมหรือไวต่อสารต่าง ๆ เหล่านี้ย่อมทำให้ผื่นขึ้นหน้าได้ง่าย หากรุนแรงอาจทำให้ผิวแดงหรือสิวเห่อขึ้นหน้าได้ 

6 ประเภทของผื่นที่ขึ้นบริเวณผิวหน้า 

ประเภทของผื่นที่ขึ้นบนผิวหน้าจะมีลัการะที่แตกต่างกันออกไปตามสาเหตุการเกิดผื่นและบริเวณที่เกิดผื่นขึ้น โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 6 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

1. ผื่นผิวหนังอักเสบบริเวณผิวมัน (Seborrheic dermatitis)

มักจะพบผื่นประเภทนี้ในบริเวณที่มีต่อมไขมันใต้ผิวหนังอยู่จำนวนมาก ทำให้มีน้ำมันส่วนเกินออกมามาก โดยเฉพาะบริเวณข้างจมูก หนังศีรษะ คิ้ว ข้างใบหู ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นปื้นแดง มีอาการคันร่วมด้วย เมื่อสัมผัสหรือเกา ผิวจะลอกออกมาเป็นขุย ๆ สีเหลือง ๆ

2. ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis)

ผู้ที่มีโรคประจำตัวอย่าง ภูมิแพ้ หอบหืด หรือความผิดปกติทางพันธุกรรมเป็นกลุ่มผู้ที่มีแนวโน้มต่อการถูกกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ เป็นผื่นแดง ๆ คันตามบริเวณขอบใบหน้า ลำคอขึ้นมาได้

3. ผื่นแพ้สัมผัส (Allergic contact dermatitis)

อาการผื่นแพ้ มักจะมีอาการเป็นผื่นแดง คัน เกิดจากสัมผัสกับสารเคมีอย่างส่วนผสมในเครื่องสำอาง ทำให้เกิดอาการแพ้ฉับพลันขึ้นมาได้ หรืออาจจะใช้เวลา 2 สัปดาห์ - 3 เดือนถึงจะปรากฏอาการผื่นขึ้นมาได้เช่นกัน

4. ผื่นระคายสัมผัส (Irritant contact dermatitis)

อาการที่มักจะเกิดจากการที่สัมผัสกับสารเคมีที่มีฤทธิ์ก่ออาการระคายเคือง เช่น กรดวิตามิน เอ หรือกรดผลไม้ (AHA) เป็นเวลานาน ทำให้ผิวบริเวณนั้น ๆ มีอาการบวมแดง แสบร้อน ผิวแพ้ง่ายและเป็นผื่นแดงอักเสบเห็นชัดเจน

5. ผื่นสัมผัสจากสารร่วมกับแสง (Photocontact dermatitis)

แสงเป็นอีกหนึ่งตัวการร้ายกาจที่เมื่อแสงกระทบโดนกับผิว จะเกิดปฏิกิริยาขึ้นบนผิว ส่งผลให้ ผิวแพ้ง่าย ผิวแห้งกร้าน ผิวหน้าหมองคล้ำ รวมถึงสามารถก่อให้เกิดอาการผื่นแพ้ แดงขึ้นได้เช่นกัน

อ่านต่อ : วิธีแก้หน้าหมองคล้ำ ผิวโทรม รักษาอย่างตรงจุด ฟื้นฟูผิวกระจ่างใส

6. ผื่นผิวหนังอักเสบชนิด (Rosacea)

เป็นหนึ่งในอาการของโรคผิวหนังอักเสบ ที่จะมีผื่นแดง ตุ่มแดง หรือหากมีการติดเชื้อ จะนำไปสู่การเกิดตุ่มหนองขึ้นตามบริเวณใบหน้า และจมูก มักจะพบมากในผู้ที่มีผิวขาว และจะยิ่งลุกลามได้ง่าย จากการอยู่ในที่อากาศร้อนจัด หรือ การดื่มแอลกอฮอลล์ทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูง

หน้าเป็นผื่น ผิวแพ้ง่าย ผิวหน้าแห้งใช้อะไรดี 

เมื่อหน้าเป็นผื่น ผิวแพ้ง่าย ผิวหน้าแห้งจากการที่ปราการผิวอ่อนแอลงจึงควรเลือกใช้สกินแครืหรือครีมบำรุงผิวที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและแข็งแรงขึ้น เพื่อช่วยปลอบประโลมผิวหน้าเป็นผื่น ผิวแพ้ง่าย รวมถึงผิวแห้งระคายง่ายให้รู้สึกสบายและช่วยให้ผิวสามารถต้านทานต่อมลภาวะได้ดีขึ้น โดยแนะนำให้ใช้ครีมบำรุงผิวที่อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่ายอย่าง Bioderma Sensibio Defensive

ครีมบำรุงผิว Bioderma Sensibio Defensive สำหรับผิวแพ้ง่าย ผิวแห้งระคายง่าย ที่มีคุณสมบัติในการปกป้องผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่ายจากมลภาวะและสิ่งกระตุ้นต่างๆ ช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น และเสริมปราการผิวให้แข็งแรงด้วยเตตระเปปไทด์-10 ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเสริมปราการผิวแข็งแรงมากขึ้นถึง 46% หลังการใช้งานติดต่อกันเป็นเวลา 28 วัน* และช่วยปกป้องผิวจากสิ่งกระตุ้นภายนอกได้ด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์อย่างคาร์โนซีนและวิตามินอี ที่สามารถปกป้องผิวจากแสงแดด มลภาวะ และสารเคมีได้สูงถึง 75%** นอกจากนี้ยังช่วยปลอบประโลมผิวแพ้ง่ายให้เกิดความผ่อนคลาย ผิวสบายได้ด้วยเรดเสจโพลีฟีนอล ลดปัญหาผิวระคายที่สาเหตุ รักษาความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มน้ำยาวนาน 12 ชั่วโมง

* Clinical study,biomarker analysis on 10 subject,for 28 days

** in vitro test on Defensive Technology