“ผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง” ปัญหาผิวที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกระคายเคืองผิว หรือข้อจำกัดในการซื้อสกินแคร์และเครื่องสำอางเนื่องจากกลัวว่าจะมีสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ แต่ผิวแพ้ส่วนผสมเฉพาะในผลิตภัณฑ์นั้นต่างกับการมีผิวแพ้ง่าย การเรียนรู้วิธีสังเกตสภาพผิวตัวเองว่าเป็นผิวแพ้ง่ายหรือไม่ จะช่วยหาวิธีบำรุงผิวให้แข็งแรงได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

 

สารบัญบทความ

สำหรับสาวๆ ที่กำลังพบปัญหาผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง เป็นรอยแดง ผดผื่นขึ้นตามบริเวณใบหน้า ซึ่งปัญหาผิวแพ้ง่ายไม่ใช่เฉพาะสาวๆ เท่านั้น แต่ปัญหาผิวแพ้ง่ายสามารถเกิดได้กับทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาผิวแพ้ง่าย เนื่องจากผิวขาดความสมดุล และเกราะป้องกันผิวถูกทำลาย ทำให้เกิดปัญหาผิวแพ้ง่ายตาม ซึ่งสามารถสังเกตอาการผิวแพ้ง่ายได้ ดังนี้ 

ผิวแพ้ง่ายคือ อะไร มีสัญญาณอย่างไรบ้าง

1. สังเกตเห็นผิวหนังมีอาการแดง เป็นผื่น

ผิวแพ้ง่ายมักเกิดอาการแดงได้ง่ายจากการกระตุ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าปกติ การที่ผิวเผชิญลมแรง หรือการถูใบหน้าอย่างรุนแรง สามารถทำให้เกิดเป็นรอยบริเวณผิวได้ง่าย เนื่องจากผิวบอบบางและขาดความสมดุล 

 

2. ผิวหนังเป็นขุยและหยาบกร้าน ไม่ชุ่มชื้น

ผิวที่แห้งกร้านจะมีจุดสังเกตที่ค่อนข้างชัดเพราะนอกจากการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ผิวแห้งมักมีอาการผิวลอกเป็นขุย มีความหยาบกร้านและไม่ชุ่มชื้น บางคนอาจจะเกิดอาการผิวแห้งหนัก ทำให้ผิวแตกและมีเลือดออกตามรอยแตกได้ สามารถเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อใช้เครื่องสำอางเพราะเครื่องสำอางมักไม่ติดหน้า ไม่ติดทน ใช้แล้วหลุดออกระหว่างวันได้ง่าย

 

3.เมื่อโดนแดดจะมีอาการระคายเคือง คัน แสบตึงผิว และผิวไหม้

โดยทั่วไปเมื่อผิวโดนแสงแดดแล้วอาจรู้สึกแสบ ร้อน แต่อาการเหล่านั้นมักหายไปหากได้หลบแดดหรือได้ประคบเย็นเพื่อบรรเทาผิว แต่สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่ายแล้วผิวอาจมีอาการระคายเคืองที่มากกว่าปกติอย่างอาการคัน รู้สึกแสบ ตึงผิว หรือผิวไหม้ร่วมด้วย ทั้งนี้หากอาการไม่รุนแรงสามารถรักษาได้ด้วยยาทา และการใช้ครีม เซรั่ม เพื่อปลอบประโลมผิวที่โดนทำร้ายจากมลภาวะในแต่ละวัน 

 

4. มีสิวง่าย มีสิวเยอะ สิวเห่อง่าย และมีอาการสิวลุกลามแดงบนผิวหน้า

การเกิดสิวในผิวแพ้ง่ายสามารถสังเกตได้จากลักษณะการเกิดสิว ถ้าหากสิวเยอะ เห่อง่าย ลุกลามแดงบนผิวหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งที่ปกติจะไม่มีสิว ไม่ว่าจะเป็น สิวอุดตัน สิวเสี้ยน สิวอักเสบ สิวไม่มีหัว หรือ สิวหัวช้าง อาจหมายถึงผิวกำลังแสดงอาการแพ้ปัจจัยภายนอกบางอย่างได้ เช่น แพ้แดด แพ้อากาศ แพ้อาหารที่รับประทานเข้าไป ในส่วนนี้จำเป็นต้องคอยสังเกตว่าพฤติกรรมประจำวัน มีอะไรที่ผิดแปลกจากเดิมหรือไม่ และสำหรับผิวที่มีผิวมันจะมีโอกาสเกิดสิวง่ายกว่าผิวแห้ง

สาเหตุหลักของผิวแพ้ง่ายที่สาวๆควรรู้

สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายอาจจะสงสัยว่าสาเหตุของผิวแพ้ง่ายเกิดจากอะไรบ้าง ? ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง และอาการระคายเคือง สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสเหตุ ทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกที่าเป็นสิ่งกระตุ้นให้ผิวเกิดการระคายเคือง ซึ่งสาเหตุหลักๆของผิวแพ้ง่าย มีดังนี้ 

 

1. ระบบปกป้องผิวตามธรรมชาติอ่อนแอ

ผิวชั้นนอกจะมีปราการสำหรับกักเก็บความชุ่มชื้น ไม่ให้ผิวแห้งกร้าน และปกป้องไม่ให้สิ่งแปลกปลอมภายนอกเข้ามาทำร้ายผิวจนเกิดการระคายเคือง หากปราการดังกล่าวอ่อนแอจะส่งผลให้ผิวเกิดการระคายเคือง แสบคัน ผดผืนขึ้นได้ง่ายมากขึ้น 

 

2. การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด และความวิตกกังวล

การพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้อย่างเต็มที่ อาจทำให้ผิวไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ เกิดความแห้งกร้าน หน้าหมองคล้ำ ไม่อิ่มน้ำ ทั้งนี้ยังมีงานวิจัยที่กล่าวผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอสามารถทำให้เกิดสิวได้มากกว่า ผู้ที่นอนพักผ่อนเพียงพอ ดังนั้นควรพักผ่อนให้เพียงพอประมาณ 6 - 7 ชั่วโมงต่อวัน 

 

3. พันธุกรรมและฮอร์โมน

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนภายในร่างกายส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานหลายอย่าง หนึ่งในผลกระทบอาจเป็นสภาพผิวโดยรวมที่มีความแห้งกร้านกว่าปกติ นอกจากฮอร์โมนแล้วพันธุกรรมยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้มีผิวแห้งง่าย หากคนในครอบครัวมีประวัติผิวแพ้ง่ายจะส่งผลให้คุณมีโอกาสมีปัญหาผิวแพ้ง่ายได้เช่นเดียวกัน 

 

4. สภาพอากาศ

สภาพผิวสามารถแปรเปลี่ยนตามสภาพอากาศที่พบเจอในแต่ละวัน เช่น หากอยู่ในฤดูหนาวที่มีความชื้นในอากาศน้อย จะส่งผลผิวก็จะแห้งมากเป็นพิเศษ การที่ผิวแห้งนั้นหมายความว่าผิวของคุณขาดความสมดุลส่งผลทำให้ผิวอ่อนแอ เมื่อผิวอ่อนแอจะสามารถเกิดอาการแพ้ได้ง่ายมากกว่าปกติ ซึ่งในช่วงอากาศหนาว แนะนำให้บำรุงครีมด้วยผลิตภัณฑ์ที่มอบความชุ่มชื้น และช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น 

 

5. มลภาวะเป็นพิษต่างๆ 

ฝุ่นในอากาศ PM 2.5  สิ่งสกปรก และมลภาวะต่างๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า สามารถก่อให้เกิดการระคายเคือง อาการผิวแดง แสบคัน หรือผืนขึ้นได้ นอกจากนี้ในปัจจุบันจำเป็นต้องสวมมาร์กเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งการสวมมาร์กทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างผิวหนังและมาร์ก ที่สำคัญมาร์กยังเป็นแหล่งรวมสิ่งสกปรกที่ลอยในอากาศ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดสิว ผดผืนแพ้ บริเวณใบหน้า และคางได้ 

 

6. สกินแคร์ไม่เหมาะกับผิว

การใช้สกินแคร์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวอาจก่อให้ผิวระคายเคืองได้ เช่น หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารตึงผิวกับผิวที่มีความตึงอยู่แล้ว อาจเป็นการทำให้ผิวระคายเคืองมากกว่าบำรุงผิว ดังนั้นการเลือกครีมบำรุงผิวที่เข้ากับผิวได้จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการดูแลผิวบอบบาง ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระบุสำหรับผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ 

เช่น Bioderma ที่พัฒนาสูตรมาสำหรับผิวแพ้ง่ายและบอบบางโดยเฉพาะ อย่าง Bioderma Sensibio Defensive ครีมบำรุงผิวสำหรับผิวแพ้ง่าย ช่วยเสริมเกราะปราการผิวให้ผิวแข็งแรง หรือ Bioderma Sebium Sensitive ครีมบำรุงผิวสำหรับผิวแพ้ง่ายขาดน้ำ สามารถใช้ควบคู่กับยา ลดสิวได้ และ Bioderma Sebium Pore Refiner ครีมบำรุงผิวเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง ครีมสามารถช่วยกระชับรูขุมขน ลดโอกาสการเกิดสิ่งตกค้างในรูขุมขน และลดปัญหาผิวระคายเคืองได้

 

7.การรักษาทางการแพทย์บางประเภท

การรักษาทางการแพทย์อย่างการเลเซอร์ ไม่ว่าจะเป็นเลเซอร์ฝ้าหรือเลเซอร์สิว ส่งผลให้ผิวมีความบอบบางและไวต่อสิ่งรอบข้างมากขึ้นได้ นอกจากนี้การรับประทานยาบางชนิด อาจส่งผลให้ผิวบอบบาง แพ้ง่าย เกิดการระคายเคือง และไวต่อแสงมากขึ้น ซึ่งล้วนแต่เป็นผลจากการรักษาทางการแพทย์บางประเภท 

 ผลิตภัณฑ์บางตัว เช่น ครีมกันแดด เจลล้างหน้า และเครื่องสำอางอาจใส่สารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองสำหรับผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง ก่อนการซื้อสินค้าต่างๆควรดูส่วนประกอบก่อนว่ามีส่วนผสมที่ผิวแพ้ง่ายควรหลีกเลี่ยงหรือไม่

 น้ำหอมมักเป็นส่วนประกอบของสกินแคร์เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีกลิ่นหอม ชวนให้น่าใช้ แต่มีหลายคนที่แพ้ผิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมส่วนใหญ่มักแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม หรือการใช้น้ำมันหอมระเหยเพื่อเป็นกลิ่น อาจทำให้ผู้ใช้บางคนผิวแห้งหรือระคายเคืองต่อส่วนผสมดังกล่าวได้

     พาราเบนเป็นสารกันบูดที่มักพบได้ทั่วไป แต่การใช้พาราเบนในปริมาณที่มากอาจทำให้ร่างกายเกิดความระคายเคืองเนื่องจากพาราเบนส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนโดยเฉพาะผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงพาราเบนเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่าพาราเบนชนิดที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวันจะอยู่ในปริมาณที่ปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อผิว ก็ควรสังเกตผิวว่ามีการตอบสนองต่อพาราเบนอย่างไร หากมีอาการแดง เป็นผื่น ควรหยุดใช้ทันที

       สครับชนิดเม็ดมักทำมาจากส่วนผสมธรรมชาติ อย่างน้ำตาล กากกาแฟ แต่เม็ดสครับเหล่านี้ก็มีขนาดที่ใหญ่และมักมีเนื้อที่ค่อนข้างหยาบเกินไปสำหรับผิว อาจบาดผิวหรือทำให้ผิวแสบ แดงเห่อ มีผื่นคัน เป็นปฏิกิริยาตอบสนองเนื่องจากเม็ดสครับมีความระคายผิว สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย ควรพิจารณาการใช้กรด AHA BHA เพื่อผลัดเซลล์ผิวแทนการใช้เม็ดสครับได้

      วิธีทดสอบผิวแพ้ง่าย

       สำหรับผู้ที่ผิวบอบบางแพ้ง่าย การเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์อาจเป็นเรื่องยากเนื่องจากมีความกลัวแพ้ กลัวผิวถูกทำร้าย ดังนั้นการทดสอบผิวแพ้ง่ายเพื่อรู้ว่าสารใดควรหลีกเลี่ยง และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆได้อย่างสบายใจ

       

      1.วิธีสะกิด

      เป็นการทดสอบที่ตรวจในคราวเดียวได้มากประมาณ 40 ชนิด วิธีการทดสอบคือนำสารที่อาจเป็นสาเหตุอาการแพ้มาหยดบนผิวช่วงท้องแขนหรือช่วงหลัง และใช้เข็มสะกิดผิวบริเวณที่หยดสารเพื่อดูการตอบสนองของผิวประมาณ 15 นาที หากมีตุ่มแดง ผื่นแดง แปลว่ามีอาการแพ้ต่อสารนั้นๆ

       

      2. วิธีปิดสารทดสอบบนผิวหนัง (Patch test)

      มักใช้กับภูมิแพ้ผิวหนัง โดยมีแผ่นที่ป้ายสารที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้มาแปะผิวช่วงท้องแขนหรือแผ่นหลัง และดูการตอบสนองของผิวในเวลา 48 ชั่วโมงโดยดูแลไม่ให้ผิวบริเวณดังกล่าวโดนเหงื่อหรือน้ำ หากมีผื่นแดงแปลว่ามีอาการแพ้ต่อสารนั้นๆ

       

      3. การตัดชิ้นเนื้อจากผิวหนังส่งตรวจ

      เป็นวิธีที่ใช้ตรวจสอบเนื้อเยื่อผิวหนังที่มีความผิดปกติ เพื่อนำไปส่องกล้องจุลทรรศ์หาสาเหตุของความผิดปกติดังกล่าว

      วิธีดูแลรักษา ให้ผิวแข็งแรงไม่แพ้ง่าย

       การดูแลรักษาผิวให้แข็งแรงเป็นการรักษาปัญหาผิวแพ้ง่ายที่ต้นเหตุ การดูแลผิวอยู่เสมอจะช่วยบำรุงผิวให้มีความแข็งแรง ฟื้นฟูผิวหน้าแพ้ง่าย ลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้ได้

       

      1. ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด

      การทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดเป็นการชำระล้างสิ่งสกปรกที่อาจตกค้างอยู่ในผิว ส่วนใหญ่มักใช้คลีนซิ่ง เจลล้างหน้า หรือโฟมล้างหน้า เพื่อช่วยลดการสะสมสิ่งตกค้างในรูขุมขน ทำให้ผิวหน้ามีความสะอาดพร้อมรับการบำรุง การทำความสะอาดผิวหน้านอกจากจะช่วยให้ผิวมีความสมดุลแล้ว ยังส่วนลดโอกาสการเกิดสิว เนื่องจากสิ่งสกปรกถูกชำระล้างออกไปหมดแล้ว ไม่สามารถเกิดการอุดตันในรูขุมขนได้ 

       

      2. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

      เมื่อร่างกายพักผ่อนจะเกิดกระบวนการซ่อมแซมและฟื้นฟูส่วนที่สึกหรอ และผิวที่ได้รับการพักผ่อนนอนหลับอย่างเพียงพอจะมีความอิ่มฟู ไม่หมองคล้ำ ช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่ง ผิวดูอิ่มน้ำ โดยปกติแล้วควรนอนวันละ 6-7 ชั่วโมงต่อวัน 

       

      3. การหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าเช็ดหน้าแรงๆ

      ไม่ว่าจะใช้กระดาษชำระหรือผ้าแบบนุ่มก็ควรหลีกเลี่ยงลักษณะการถูกับใบหน้า ให้เน้นการซับผิวหน้าเบาๆ ไม่ถูไปถูมาเพราะอาจทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นได้ในระยะยาว นอกจากนี้สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางการถูหรือขัดหน้าแรงๆ ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะจะเหมือนไปกระตุ้นให้อาการแพ้มีความรุนแรงมากกว่าเดิม แนะนำให้ใช้วิธีการซับเบาๆ แทนจะดีมากกว่า 

       

      4. รักษาความชุ่มชื้นของผิว

      วิธีที่ง่ายมากที่สุดที่สามารถช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ผิว คือ การทาผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวหน้า และ เซรั่มที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้น และช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ผิวทุกวันเวลาเช้าและเย็น หรือผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งมาก ต้องการความชุ่มชื้นระหว่างวันสามารถพกสเปรย์น้ำแร่ไว้ฉีดระหว่างวัน เพื่อช่วยรักษาน้ำในผิวได้ 

       

      5. หลีกเลี่ยงความเครียดและความวิตกกังวล

      นอกจากความเครียดความกังวลจะทำให้คิ้วขมวดและเกิดเป็นรอยย่นในอนาคตได้ เมื่ออายุมาขึ้นแล้ว ความเครียดยังส่งผลต่อระดับฮอร์โมนในร่างกาย ส่งผลให้ผิวมีความเครียด แห้ง หมองคล้ำ ระคายเคืองได้ง่ายกว่าปกติ ซึ่งวิธีขจัดความเครียดมีหลายวิธี ได้แก่ ออกกำลังกาย ทำกิจจกรมที่ชอบ ปลูกต้นไม้ ดูหนัง ฟังเพลง เป็นต้น 

       

      6. หลีกเลี่ยงสภาพอากาศที่ร้อนจัดหรือหนาวจัด

      สภาพแวดล้อม และอุณหภูมิส่งผลกับผิวค่อนข้างมาก หากผิวอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด อาจจะทำให้เกิดปัญหารูขุมขนอุดตัน และเกิดเป็นปัญหาสิวตามมาได้ หรือหากอยู่ในสภาพอาการที่หนาวจัดอาจส่งผลให้ผิวแห้ง แตก ลอกเป็นขุย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าสภาพอากาศมีผลต่อสภาพผิว สามารถทำให้เกิดความระคายเคืองจากอากาศที่ผิดปกติ และไวต่อสิ่งเร้ารอบตัวได้ 

      สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย การเลือกผลิตภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว หรือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญ หากเลือกผิดอาจจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองมากกว่าเดิม  จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวหนัง โดยผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายจำเป็นต้องคำนึงถึง … 

      หน้าแพ้ง่าย

      1.ทดสอบอาการแพ้ทุกครั้งก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ทุกชนิด

      ทดสอบอาการแพ้ทุกครั้งก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์หรือเครื่องสำอาง สามารถทดสอบการแพ้ได้ด้วยการลองใช้ผลิตภัณฑ์ในบริเวณที่ผิวมีความบอบบางเช่นข้อพับ หรือหลังหู เพื่อดูการตอบสนองของผิวว่ามีผื่นคัน แดง หรือเกิดสิวหรือไม่

       

      2.หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหอม สี แอลกอฮอล์ และส่วนผสมบางชนิดที่อาจทำให้มีอาการแพ้ได้ง่าย

      หลีกเลี่ยงน้ำหอม สี แอลกอฮอล์ และส่วนผสมบางชนิดที่อาจทำให้มีอาการแพ้ได้ง่าย เนื่องจากผิวแต่ละบุคคลมีความไวต่อส่วนผสมบางชนิดไม่เท่ากัน และหลายผลิตภัณฑ์มีความแรงของสารแต่ละตัวที่ต่างกัน การทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อนใช้ทุกครั้งเพื่อสังเกตถึงสารที่ร่างกายอาจแพ้ จะช่วยให้เลือกผลิตภัณฑ์และเลี่ยงสารที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายขึ้น

       

      3.ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อผลัดเซลล์ผิว หากต้องการผลัดเซลล์ผิวควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์

      ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อผลัดเซลล์ผิว หากต้องการผลัดเซลล์ผิวควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์ อย่างกรด AHA BHA แม้จะเป็นกรดที่ใช้สำหรับผลัดเซลล์ผิวได้ก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้และเป็นอันตรายต่อผิวได้สำหรับผู้ใช้บางคน การปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสอบสภาพผิวก่อนการผลัดเซลล์ผิวจึงเป็นวิธีที่แนะนำมากที่สุด เพื่อเป็นการปกป้องผิวและดูแลผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพควบคู่กัน

      สรุป

      ผิวบอบบางแพ้ง่ายอาจเป็นปัญหาผิวน่าหนักใจเพราะทำให้ผิวมีข้อจำกัดทางด้านการใช้เครื่องสำอางบางชนิด สกินแคร์บางประเภท หรือทำให้ต้องมีการดูแลผิวมากเป็นพิเศษ การเลือกผลิตภัณฑ์ที่จะมาดูแลผิวบอบบางและสร้างความแข็งแรงให้กับผิวจึงเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจมากเป็นพิเศษ

      • Bioderma Hydrabio Serum เป็นเซรั่มที่พัฒนาสูตรมาเพื่อผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ เป็นสกินแคร์ที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ที่มีผิวแห้งตึง โดยเซรั่มจะช่วยให้ผิวมีความอิ่มน้ำ ให้ความชุ่มชื้นอย่างยั่งยืน ลดการระเหยของน้ำออกจากผิว

      ผิวแพ้ง่าย วิธีฟื้นฟูผิวแพ้ง่าย

      • Bioderma Sensibio Defensive เป็นครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับฟื้นบำรุงผิวบอบบางแพ้ง่ายให้มีความแข็งแรง ลดความระคายเคือง ปลอบประโลมผิว และปกป้องผิวจากมลภาวะภายนอกที่อาจทำร้ายผิวได้

      ผิวแพ้ง่าย ฟื้นฟูด้วย Bioderma Sensibio Defensive

      • Bioderma Sebium Sensitive เป็นครีมบำรุงผิวสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่ายและมีความมันส่วนเกิน ผู้ที่มีผิวหน้ามันสามารถใช้ครีมบำรุงสูตรนี้เพื่อปรับสมดุลความมันบนผิว และช่วยรักษาความชุ่มชื้นได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมงอีกด้วย

      ผิวแพ้ง่าย ฟื้นฟูด้วย Bioderma Sebium Sensitive

      • Bioderma Sebium Pore Refiner เป็นครีมบำรุงผิวสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่ายที่มีรูขุมขนกว้าง นอกจากจะช่วยคุมความมันส่วนเกินบนผิวแล้วยังช่วยกระชับรูขุมขนได้ รูขุมขนดูเล็กลงหลังใช้ 15 นาที ช่วยลดปัญหาสิวที่ต้นเหตุ และช่วยให้ผิวกระจ่างใสและเรียบเนียนได้

      ผิวแพ้ง่าย ฟื้นฟูด้วย Bioderma Sebium Pore Refiner

      BIODERMA Hydrabio Sérum เซรั่มเข้มข้น ให้ความชุ่มชื้น ทันทีและยาวนาน

      เซรั่ม

      ผิวแพ้ง่ายขาดน้ำ

      สิทธิบัตร Aquagenium™

      Hydrabio Sérum

      เซรั่มเข้มข้น ให้ความชุ่มชื้น ทันทีและยาวนาน

      สำหรับใคร

      ผู้ใหญ่, วัยรุ่น

      BIODERMA Sensibio Defensive ครีมฟื้นบำรุงเนื้อเบา ซึมไว ไม่อุดตัน ปลอบประโลมผิว

      บำรุงผิวได้ทุกวัน

      ผิวบอบบางและแพ้ง่าย

      เทคโนโลยีดีเฟนซีฟ

      Sensibio Defensive

      ครีมฟื้นบำรุงเนื้อเบา-ซึมไว ไม่อุดตัน ปลอบประโลมผิว มีสารที่ช่วยให้ผิวแข็งแรง ต้านทานมลภาวะและสิ่งกระตุ้นที่ทำให้ผิวแพ้ง่าย

      สำหรับใคร

      ผู้ใหญ่, วัยรุ่น

      BIODERMA Sébium Sensitive ครีมบำรุงสำหรับผิวเป็นสิวง่าย ปลอบประโลม คืนความชุ่มชื้น ลดโอกาสเกิดสิว

      บำรุงผิวได้ทุกวัน

      ผิวเป็นสิวง่าย ผิวแพ้ง่ายและอ่อนแอเป็นสิวง่าย

      เทคโนโลยี Inflastop™

      Sébium Sensitive

      ครีมบำรุงสำหรับผิวเป็นสิวง่าย ปลอบประโลม คืนความชุ่มชื้น ลดโอกาสเกิดสิว

      สำหรับใคร

      ผู้ใหญ่, วัยรุ่น

      BIODERMA Sébium Pore refiner ครีมเวชสำอางที่ช่วยจัดการปัญหารูขุมขนกว้าง

      บำรุงผิวได้ทุกวัน

      ผิวผสมถึงผิวมัน

      สิทธิบัตร Fluidactiv™

      Sébium Pore refiner

      ครีมเวชสำอางที่ช่วยจัดการปัญหารูขุมขนกว้าง

      สำหรับใคร

      ผู้ใหญ่, วัยรุ่น