เคล็ดไม่ลับ! บำรุงผิวก่อนนอนให้ฉ่ำด้วย 3 ขั้นตอนการดูแลผิวหน้า

การนอนหลับให้เพียงพอนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูสุขภาพ และผิวพรรณของเราให้ดีขึ้นได้ แต่การบำรุงผิวก่อนนอนด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะเป็นเคล็ดลับที่จะช่วยให้ผิวของเรานั้นได้รับการฟื้นฟู และได้รับการบำรุงได้อย่างเต็มที่มากขึ้น ดังนั้น ทาง Bioderma จึงจะมาแชร์เคล็ดลับในการบำรุงผิวให้ฉ่ำก่อนนอนด้วย 3 ขั้นตอนในการดูแลผิวหน้าแบบง่าย ๆ ที่สามารถทำตามได้ทุกคน

หัวข้อที่น่าสนใจ

• ขั้นตอนที่ 1 เตรียมผิวด้วยโทนเนอร์
• ขั้นตอนที่ 2 บำรุงผิวด้วยเซรั่ม
• ขั้นตอนที่ 3 ล็อกผิวให้ฉ่ำด้วยครีมบำรุง

ขั้นตอนที่ 1 เตรียมผิวด้วยโทนเนอร์

สำหรับขั้นตอนแรกในการบำรุงผิวก่อนนอน คือ การเตรียมผิวด้วยโทนเนอร์ เพื่อช่วยปรับสมดุลค่า pH บนผิว พร้อมกับช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวนั้นเปิดรับสารบำรุงในขั้นตอนต่อไปได้มากยิ่งขึ้น โดยขั้นตอนในการใช้โทนเนอร์นั้นจะต้องทำการใช้หลังจากล้างหน้าเสร็จ และควรรีบใช้โทนเนอร์ให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันการระเหยของน้ำออกจากผิว และที่สำคัญที่สุด คือ การเลือกใช้โทนเนอร์ให้เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเอง เพราะว่าคุณสมบัติของโทนเนอร์ของแต่ละสภาพผิวนั้นจะมีความแตกต่างกัน ดังนั้น ทาง Bioderma จึงจะมาแนะนำโทนเนอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละสภาพผิว ดังนี้

Sebium Lotion

Sebium Lotion เป็นทั้งโทนเนอร์ และน้ำตบที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีสภาพผิวมัน ผิวผสม และผิวเป็นสิวง่าย เพราะสามารถช่วยคงความสมดุล pH ของผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยควบคุมความมัน ช่วยกระชับรูขุมขน และช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูกระจ่างใส แลดูเรียบเนียนมากขึ้น  มาพร้อมกับ DAF^TM PATENETD COMPLEX สิทธิบัตรเฉพาะของไบโอเดอร์มาที่ช่วยลดการระคายผิว และช่วยเสริมปราการผิวให้แข็งแรงมากขึ้น

Sensibio Tonique

Sensibio Tonique เป็นโทนเนอร์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีสภาพผิวแห้ง แพ้ง่าย หรือระคายง่าย เพราะสามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้เป็นอย่างดี ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น และไม่แห้งตึง รวมถึงช่วยปลอบประโลมผิว ทำให้รู้สึกสบายผิวมากขึ้น แถมยังมี DAF^TM PATENETD COMPLEX สิทธิบัตรเฉพาะของไบโอเดอร์มาที่ช่วยลดการระคายผิว และช่วยเสริมปราการผิวให้แข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย

ขั้นตอนที่ 2 บำรุงผิวด้วยเซรั่ม

หลังจากเตรียมผิวด้วยโทนเนอร์ และผิวพร้อมรับการบำรุงแล้ว ขั้นตอนต่อไปในการบำรุงผิวก่อนนอน คือ การบำรุงผิวด้วยเซรั่ม โดยในขั้นตอนนี้จะใช้หลังจากที่โทนเนอร์บนผิวหน้ามีความหมาดแล้ว ซึ่งการใช้เซรั่มของแต่ละคนนั้นขึ้นอยู่กับว่าในช่วงนั้น ๆ ผิวมีปัญหาอะไรบ้าง เช่น ผิวไม่ชุ่มชื้น ผิวมีริ้วรอย ผิวมีรอย ฝ้า กระ หรือจุดด่างดำ เป็นต้น ดังนั้น แต่ละคนก็จะเลือกใช้เซรั่มตามปัญหาผิว แต่ถ้าหากไม่รู้จะใช้เซรั่มบำรุงผิวแบบไหนดี ก็ควรใช้เซรั่มบำรุงผิวที่ช่วยเติมน้ำให้ผิว และเสริมสร้างปรากการผิวให้แข็งแรง เพราะเมื่อผิวแข็งแรงแล้ว ก็จะทำให้ปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมาได้น้อยลง โดยเซรั่มที่สามารถช่วยเติมความชุ่มชื้น ลดการระคาย เสริมผิวให้แข็งแรง และใช้แล้วสบายผิว มีดังนี้

Sensibio Defensive Serum

Sensibio Defensive Serum เซรั่มบำรุงผิวที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเผชิญกับมลภาวะบ่อยครั้ง  เช่น ฝุ่น ควัน หรือแสงแดด เป็นต้น ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยบำรุงผิว และปลอบประโลมผิว ทำให้ผิวมีความอ่อนนุ่ม เกิดอาการระคายน้อยลง และสบายผิวมากขึ้น พร้อมช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวยาวนานถึง 24 ชั่วโมง ปรับผิวให้ดูสดใสมากขึ้น ริ้วรอยดูตื้นขึ้น และปกป้องผิวจากสิ่งกระตุ้นการแพ้จากภายนอก ส่งผลให้ผิว และปราการผิวมีความแข็งแรงมากขึ้น

Hydrabio Serum

Hydrabio Serum เซรั่มบำรุงผิวที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวขาดน้ำ หรือผิวแพ้ง่าย ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยเติมน้ำให้ผิว ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว แบะข่วยลดการระเหยของน้ำออกจากผิว ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น และดูสุขภาพดีได้อย่างยาวนานมากขึ้น พร้อมเสริมปราการผิวให้มีความแข็งแรง ส่งผลให้เกิดการระคายผิวได้ยากมากขึ้นด้วย

ขั้นตอนที่ 3 ล็อกผิวให้ฉ่ำด้วยครีมบำรุง

ขั้นตอนสุดท้ายในการบำรุงผิวก่อนนอน คือ การล็อกผิวให้ฉ่ำด้วยครีมบำรุง หรือที่รู้จักกันในชื่อของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ โดยครีมบำรุงนั้นจะมีเนื้อสัมผัสที่หนักกว่าโทนเนอร์ และเซรั่ม จึงสามารถช่วยล็อกความชุ่มชื้น และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งการเลือกครีมบำรุงผิวนั้นควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง เพราะว่าครีมบำรุงของแต่ละสภาพผิวนั้นจะมีเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน เช่น ครีมบำรุงของผิวแห้งจะมีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างหนัก เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และปกป้องไม่ให้ผิวแห้งกว่าเดิม แต่ครีมบำรุงของผิวมันนั้นจะมีเนื้อสัมผัสที่บางเบากว่า เพราะว่าเป็นผิวที่มีความมันอยู่แล้ว ถ้าหากเลือกใช้เนื้อสัมผัสที่หนักอาจทิ้งความเหนอะหนะ หรือความเหนียวไว้ และส่งผลให้เกิดโอกาสที่รูขุมขนอุดตันได้ เป็นต้น ดังนั้น ทาง Bioderma จึงจะมาแนะนำครีมบำรุงผิวที่เหมาะกับแต่ละสภาพผิว ดังนี้

Sebium Sensitive

Sebium Sensitive เป็นครีมบำรุงผิวที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีสภาพผิวมัน ผิวผสม ผิวเป็นสิวง่าย และผิวแพ้ง่าย ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยลดการผลิตน้ำมันในรูขุมขน ช่วยดูดซับน้ำมันส่วนเกิน ช่วยลดการอักเสบ และการระคายผิว พร้อมกับช่วยให้ความชุ่มชื้นผิวในระดับที่พอดี และช่วยเสริมสร้างปราการผิวให้แข็งแรงมากขึ้นด้วย DAF^TM PATENETD COMPLEX สิทธิบัตรเฉพาะของไบโอเดอร์มา แถมยังไม่ทิ้งความมันวาวไว้บนผิว ทาแล้วซึมไว และสามารถใช้คู่กับยาสิวได้อีกด้วย

Sensibio Defensive

Sensibio Defensive เป็นครีมบำรุงผิวที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีสภาพผิวขาดน้ำ ผิวแห้ง ผิวระคายง่าย และผิวแพ้ง่าย ด้วยคุณสมบัติในการช่วยปลอบประโลมผิว ลดการระคายที่สาเหตุ และช่วยปกป้องผิวแพ้แสงแดด มลภาวะ และสารเคมีได้ดี พร้อมช่วยเสริมปราการผิวให้แข็งแรง ฟื้นบำรุงผิวให้แข็งแรงจากภายใน และช่วยให้ผิวมีความต้านทานจากสิ่งกระตุ้นให้แพ้ได้ดีขึ้น แถมยังซึมไว และมีเนื้อสัมผัสเบาบาง ทำให้รู้สึกสบายผิว และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน

การบำรุงผิวก่อนนอนนั้นเป็นการช่วยฟื้นฟูผิวที่ต้องเผชิญกับแสงแดด และมลภาวะต่าง ๆ มาตลอดทั้งวัน โดยการบำรุงผิวก่อนนั้นหลัก ๆ นั้นจะมีทั้งหมด 3 ขั้นตอน ได้แก่ การเตรียมผิวด้วยโทนเนอร์ บำรุงผิวด้วยเซรั่ม และล็อกผิวให้ฉ่ำด้วยครีมบำรุง เพื่อให้ผิวได้รับการฟื้นฟู และการบำรุงอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ผิวมีความแข็งแรง และสามารถต้านทานต่อสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ ได้ดีขึ้น และที่สำคัญในการบำรุงผิว คือ การเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิวของเรา เพื่อให้ผิวได้รับการบำรุง และแก้ไขปัญหาผิวต่าง ๆ ที่เป็นอยู่ได้อย่างตรงจุด