วิธีการดูแลผิว

ครีมบำรุงผิวหน้า เลือกอย่างไรดี พร้อม 4 ขั้นตอนการทาเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

การดูแลผิวหน้าถือเป็นอีกหนึ่งการดูแลตัวเองที่สำคัญในแต่ละวัน ซึ่งหนึ่งในขั้นตอนการดูแลผิวที่ขาดไม่ได้เลย คือ ครีมบำรุงผิวหน้าหรือครีมทาหน้าอย่างมอยเจอร์ไรเซอร์

การดูแลผิวหน้าถือเป็นอีกหนึ่งการดูแลตัวเองที่สำคัญในแต่ละวัน ซึ่งหนึ่งในขั้นตอนการดูแลผิวที่ขาดไม่ได้เลย คือ ครีมบำรุงผิวหน้าหรือครีมทาหน้า จึงทำให้เกิดข้อสงสัยมากมายว่า ครีมบำรุงผิวหน้าช่วยบำรุงผิวหน้าอย่างไร ประเภทของครีมบำรุงผิว ครีมทาผิวกลางวันและครีมบํารุงผิวหน้ากลางคืนต่างกันอย่างไร ใช้สลับกันได้หรือไม่ หน้าหมองคล้ำใช้อะไรดี วิธีเลือกครีมทาหน้าให้เหมาะกับสภาพผิวของเรามากที่สุด พร้อมแนะนำครีมบำรุงผิวหน้าที่ตอบโจทย์ และ 4 ขั้นตอนทาครีมบำรุงผิวหน้าอย่างไรให้เห็นผลชัดเจนที่สุด

ครีมบำรุงผิวหน้า ปัจจัยสำคัญในการดูแลผิว

ทราบหรือไม่ว่าครีมบำรุงผิวหน้า สำคัญกับการบำรุงผิวอย่างไร? ในขั้นตอนการลงสกินแคร์มักปิดท้ายด้วยการทาครีมบำรุงผิวหน้าหรือครีมทาหน้าอย่างมอยเจอร์ไรเซอร์อยู่เสมอ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีเนื้อค่อนข้างหนักและมีความเข้มข้นมากกว่าสกินแคร์ประเภทอื่น ครีมทาหน้าจึงมีทั้งสูตรสำหรับทากลางวันและกลางคืน โดยครีมบำรุงผิวหน้าสูตรกลางวันจะมีความบางเบา ซึมเข้าผิวได้ง่ายกว่า เพื่อความสบายผิวและไม่มันเยิ้มแม้เจอกับอากาศร้อนหรือแสงแดดระหว่างวัน ส่วนครีมบํารุงหน้าสูตรกลางคืนจะมีความเข้มข้นมากกว่า เพื่อการฟื้นฟูผิวขณะนอนหลับอย่างเต็มประสิทธิภาพในช่วงข้ามคืน

ผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวหรือครีมทาหน้าส่วนมากจะเน้นเรื่องของการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า โดยจะสังเกตได้ว่าเมื่อทาครีมลงบนผิวแล้ว เนื้อครีมจะยังไม่ซึมเข้าผิวทันที ต้องใช้เวลาเกลี่ยเนื้อครีมหรือเว้นช่วงให้ครีมอยู่บนผิวพักหนึ่งเพื่อให้ครีมฟื้นบำรุงผิวชั้นบน และกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิว

ครีมบำรุงผิวหน้า ต่างจากเซรั่มอย่างไร

สารออกฤทธิ์สำคัญ หรือ Active Ingredients ในครีมบำรุงผิวหน้าอาจจะมีไม่มากเท่าเซรั่ม ดังนั้นจุดประสงค์ของการใช้ครีมบำรุงผิวและเซรั่มจึงแตกต่างกัน โดยมีข้อดีคนละจุด จึงควรใช้ควบคู่กันเพื่อการดูแลผิวอย่างมีประสิทธิภาพและบูสต์ผิวให้แข็งแรงได้สูงสุด

หากมีปัญหาผิวเฉพาะจุดที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ เช่น ปัญหารอยแดง-รอยดำจากสิว ปัญหาผิวเป็นสิว ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า ควรพิจารณาการใช้เซรั่มที่ตอบโจทย์ปัญหาผิว ควบคู่กับการใช้ครีมบำรุงผิวหรือมอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว ป้องกันภาวะผิวแห้งลอกเป็นขุยจนทำให้หน้าไม่เรียบเนียน ไปจนถึงผิวขาดน้ำ ทำให้ผิวสุขภาพแข็งแรงอิ่มน้ำอยู่เสมอ

ดังนั้น การบำรุงผิวอย่างถูกต้อง จะช่วยให้ผิวที่แข็งแรง และช่วยลดแนวโน้มการเกิดปัญหาผิวอีกด้วย เช่น การผลิตน้ำมันส่วนเกินเนื่องจากผิวแห้งเกินไป หรือ ผิวลอกเป็นขุยจากการใช้ผลิตภัณฑ์บางตัวโดยเฉพาะกลุ่มที่ดูแลเรื่องสิวซึ่งมักจะทำให้ผิวหน้าแห้ง การใช้ครีมบำรุงผิวหน้าสามารถช่วยเติมน้ำให้ผิวและเสริมปราการปกป้องผิวได้ ช่วยให้ผิวมีสุขภาพแข็งแรง ไม่ขาดความชุ่มชื้น ลดแนวโน้มการเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ได้ เช่น ผิวหน้าแห้งเป็นขุย ผิวหน้าดูหมองคล้ำจากการขาดน้ำ แต่งหน้าไม่ติดทนเพราะเครื่องสำอางไม่เกาะบนผิวที่แห้ง หรือปัญหาการเกิดริ้วรอย รอยเหี่ยวย่นจากผิวที่แห้งและขาดน้ำ

นอกจากการทาเซรั่มเพื่อดูแลปัญหาผิวให้ตรงจุดแล้ว การหมั่นเติมน้ำให้ผิวเองก็เป็นเรื่องสำคัญ และครีมเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลเรื่องการกักเก็บน้ำของผิว ครีมทาหน้าช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และควรใช้เป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะในคนที่มีปัญหาผิวแห้ง ครีมบำรุงผิวหน้าช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสได้จากการทำให้ผิวอิ่มน้ำนั่นเอง

การเลือกครีมบำรุงผิวหน้าตามสภาพผิว

การมีผิวที่ชุ่มชื้น ปราการผิวแข็งแรงไม่ใช่เรื่องยาก หากมีทริคการเลือกครีมบำรุงผิวหน้าให้เหมาะตามสภาพผิวของตนเอง ซึ่งมีหลักการดังนี้

สำหรับผู้ที่มีผิวปกติ

ไม่ได้มีปัญหาความแห้งหรือมันเกินไป สามารถใช้ครีมบำรุงผิวหรือครีมทาหน้าที่มีส่วนผสมหลักเป็นน้ำได้ มักมีเนื้อบางเบา ไม่เหนอะหนะ สบายผิว ช่วยรักษาสมดุลระหว่างน้ำและน้ำมันในผิวได้ดี

สำหรับผู้ที่มีผิวมัน

ควรใช้ครีมบำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมเป็นน้ำ เนื้อออกไปทางเจลใส หลีกเลี่ยงครีมทาหน้าที่มีความเข้มข้น หรือลักษณะครีมที่อาจก่อให้เกิดการอุดตันผิว โดยควรเลือกครีมบำรุงผิวที่ระบุว่าไม่อุดตันรูขุมขน เพื่อลดการเกิดสิวอุดตัน หรือการเกิดสิวเสี้ยน

สำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง

ควรใช้ครีมบำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมเป็นน้ำมัน หรือเป็นครีมบำรุงผิวที่มีเนื้อค่อนข้างหนา มีความเข้มข้นสูง สามารถเลือกครีมทาหน้าสำหรับผิวแห้งโดยตรงได้ เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มน้ำ

สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย

การเลือกครีมบํารุงผิวหน้าผิวแพ้ง่ายนั้นต้องค่อนข้างใส่ใจ และละเอียดในการเลือกผลิตภัณฑ์ โดยควรเลือกครีมบำรุงผิวที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นหลักเพื่อหลีกเลี่ยงอาการระคายหรือการแพ้ที่เกิดจากสารเคมีบางชนิดได้ ครีมบำรุงผิวหน้าที่มีส่วนประกอบจากธรรมชาติเป็นหลักมักทำมาจาก คาโมมายล์ น้ำผึ้ง ว่านหางจระเข้ หรือสมุนไพรอื่นๆ ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าให้แข็งแรงและปราศจากสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อผิวได้

สำหรับผู้ที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่หรือผิวแก่กว่าวัย

ควรเลือกครีมบำรุงผิวที่ช่วยเรื่องการต้านอนุมูลอิสระเพื่อลดแนวโน้มการเกิดรอยเหี่ยวย่น หรือเลือกครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับอายุ 40 ปีขึ้นไป อย่างครีมกลุ่ม Anti-Aging

สำหรับผิวที่เป็นสิวง่าย และมีการใช้ยารักษาสิว

ควรเลือกใช้ครีมบำรุงที่มีความอ่อนโยนต่อผิวที่บอบบาง ช่วยเติมความชุ่มชื้นและสามารถใช้ร่วมกับยารักษาสิวได้ ไบโอเดอร์มาขอแนะนำผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่เหมาะสำหรับผิวประเภทนี้อย่างครีมบำรุงผิวหน้า Bioderma Sebium Sensitive เป็นครีมบำรุงผิวสำหรับผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง ผิวมัน เป็นสิวง่าย ด้วยการปรับสมดุลน้ำและน้ำมันธรรมชาติของผิว ลดสาเหตุการเกิดสิวอุดตันและโอกาสการเกิดสิวใหม่ รวมไปถึงการช่วยลดรอยแดงจากสิวอีกด้วย เนื้อครีมมีความเบาบาง ซึมเข้าผิวได้ง่าย ไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกเหนอะหนะ

ครีมบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อไหนดี เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย อัพเดตปี 2023

ครีมบำรุงผิวหน้าที่ดีที่สุด คือ ครีมทาหน้าที่เหมาะกับสภาพของผิว ตอบโจทย์การดูแลและบำรุงผิวได้อย่างถูกจุด ทั้งครีมบํารุงผิวหน้าผิวแห้ง ครีมทาหน้าผิวแพ้ง่าย รวมถึงครีมทาผิวกายสำหรับคนผิวแห้งถึงผิวแห้งมากจากยี่ห้อ Bioderma

1. ครีมบำรุงผิวหน้า Bioderma Sensibio Defensive

ครีมบำรุงผิว Bioderma Sensibio Defensive เป็นครีมทาหน้าผิวแพ้ง่าย ที่มีคุณสมบัติปกป้องผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย พร้อมปกป้องต้านทานผิวจากมลภาวะและสิ่งกระตุ้น ผิวชุ่มชื้น ซึมง่าย ไม่อุดตัน สามารถเสริมปราการผิวได้ด้วยเตตระเปปไทด์-10 ได้รับการพิสูจน์จากวิจัยแล้วว่าช่วยเสริมปราการผิวแข็งแรงมากขึ้น หลังการใช้งานติดต่อกันเป็นเวลา 28 วัน และช่วยปกป้องผิวจากสิ่งกระตุ้นภายนอกได้ด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ประสิทธิภาพสูง ทั้งคาร์โนซีนและวิตามินอี สามารถป้องกันผิวจากแสงแดด มลภาวะ ช่วยปลอบประโลมผิวแพ้ง่ายให้เกิดความผ่อนคลาย ผิวสบายได้ด้วยเรดเสจโพลีฟีนอล ลดปัญหาผิวระคายที่สาเหตุ รักษาความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มน้ำยาวนาน 12 ชั่วโมง

2. ครีมบำรุงผิวหน้า Bioderma Sebium Sensitive

ครีมบำรุงผิว Bioderma Sebium Sensitive เป็นครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับผิวเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย ผิวขาดน้ำ โดยช่วยควบคุมความมัน เติมน้ำให้ผิวดูชุ่มชื้น ด้วย SEBORESTORE technology ช่วยให้ผิวแข็งแรง และ FLUIDACTIV patent ปรับคุณภาพน้ำมัน Sebum บนผิว ลดความข้นหนืด จึงช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาสิวได้ที่ต้นเหตุ อีกทั้งยังมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ Bakuchiol เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ มีฤทธิ์มากกว่าวิตามิน E ถึง 2 เท่า พร้อมปลอบประโลมผิวที่ระคาย และเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิวได้ด้วย DAF^TM PATENTED COMPLEX สิทธิบัตรเฉพาะของ Bioderma

เนื้อสัมผัส : เนื้อครีมมีความเบาบาง เมื่อทาแล้วช่วยให้สบายผิว ผิวดูแมตต์ ไม่มันเยิ้ม ด้วยส่วนผสมของ Mattifying Powder ช่วยลดความมัน และดูดซับความมันบนผิว ไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกเหนอะหนะหลังใช้งาน

3. ครีมบำรุงผิวหน้า Bioderma Sebium Pore Refiner

ครีมบำรุงผิว Bioderma Pore Refine เป็นครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับผิวมัน ผิวมีปัญหาสิว ช่วยคุมมัน รูขุมขนแลดูกระชับ และดูเล็กลงหลังใช้ 15 นาที

เหมาะสำหรับผู้มีปัญหารูขุมขนกว้าง ด้วยสารสกัดจากเห็ด Fomes officinalis extract และมีกรด BHA (Salicylic acid) ที่มีส่วนช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ผิวดูกระจ่างใสเรียบเนียน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเพราะมีส่วนผสมที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะของไบโอเดอร์มา DAF^TM PATENTED COMPLEX ช่วยลดการระคาย และเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิว มาพร้อม FLUIDACTIV patent ปรับคุณภาพน้ำมัน Sebum บนผิว ลดความข้นหนืด ส่งผลให้ลดปัญหาสิวได้ที่ต้นเหตุ

เนื้อสัมผัส : เนื้อครีมมีความเบาบาง เมื่อทาแล้วรู้สึกแมตต์ด้วยส่วนผสมของ Mattifying Powder ช่วยลดความมัน และดูดซับความมันบนผิว ไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกเหนอะหนะหลังใช้งาน

4. ครีมบำรุงผิว Bioderma Atoderm PP baume

ครีมบำรุงผิว Bioderma สำหรับผู้ที่มีผิวแห้งเป็นครีมบำรุงผิวหน้าเนื้อบาล์มสูตรเข้มข้น สำหรับผิวแห้งและแห้งมาก ช่วยเสริมสร้างผิวให้กลับมาแข็งแรง สามารถใช้ได้ทั้งบริเวณหน้าใบและตามลำตัว

ครีมบำรุงผิวหน้าและผิวกายสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งมาก ลอกเป็นขุย และระคายง่าย มีส่วนผสมของ Ecodefensine™ Patent ช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียบนผิว, Vitamin PP ช่วยฟื้นฟูบำรุงปราการผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้นดูมีผิวสุขภาพดี, Zanthalene ช่วยลดความไม่สบายผิวลง, Glycerin ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ และ Mineralfatty substance ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัส

เนื้อสัมผัส : เนื้อครีมเกลี่ยง่าย ซึมเร็ว ไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ

5. ครีมบำรุงผิว Bioderma Atoderm Intensive Baume

ครีมบำรุงผิว Bioderma สำหรับผู้ที่มีผิวแห้งมาก ระคายง่าย ลอกเป็นขุย ครีมบำรุงผิวเนื้อบาล์มสูตรเข้มข้นที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างล้ำลึก

ครีมบำรุงผิวหน้าสูตรเข้มข้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีสภาพผิวแห้งมาก ลอกเป็นขุย หรือระคายง่าย มาพร้อมกับคุณสมบัติในการคืนความชุ่มชื้นให้กับผิว ปลอบประโลมผิว ลดอาการไม่สบายผิว และเสริมสร้างปราการผิวให้มีความแข็งแรงขึ้น ช่วยให้ผิวระคายน้อยลงและชุ่มชื้นขึ้นใน 1 สัปดาห์* พร้อมเสริมการสร้างเซราไมด์และโปรตีนในผิวและฟื้นบำรุงปราการผิวให้แข็งแรงขึ้น สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนผู้สูงอายุ

*ผลงานวิจัยจากอาสาสมัคร 20 คน อายุ 19-65 ปี ที่มีผิวแห้ง-แห้งมาก

เนื้อสัมผัส : เกลี่ยง่าย ซึมเร็ว ไม่เหนอะหนะ ไม่มีน้ำหอม สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย

ประโยชน์ของครีมบำรุงผิวหน้าหรือครีมทาหน้า

การใช้ครีมบำรุงผิวหน้าถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการดูแลผิวที่ช่วยล็อคความชุ่มชื้นให้อยู่กับผิวเราได้ยาวนานยิ่งขึ้น แต่หลายๆ คนยังมองว่าการใช้ครีมบำรุงผิวหน้านั้นไม่จำเป็น ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะประโยชน์ของการใช้ครีมทาหน้าถือว่าให้ข้อดีกับผิวมากกว่าข้อเสียด้วยซ้ำ Bioderma จึงขอชวนมาดูประโยชน์มากมายของครีมบำรุงผิวหน้า ดังต่อไปนี้

ครีมบำรุงผิวหน้าสามารถช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำของผิว ให้ความชุ่มชื้นแก่ใบหน้า
เสริมความแข็งแรงให้กับผิว โดยเฉพาะผิวที่มีปัญหาสิว
ครีมบำรุงผิวยังช่วยปลอบประโลมผิวแพ้ง่าย
มีหลากหลายสูตร เพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวที่แตกต่างกันอย่างผิวผสม ผิวมันเป็นสิวง่าย ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย เป็นต้น
ครีมทาหน้าช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย ความเหี่ยวย่นก่อนวัย
เมื่อผิวเรียบเนียน ไม่แห้ง ได้รับการบำรุงจากการใช้ครีมบำรุงผิวหน้า ทำให้แต่งหน้าติดทนง่ายมากขึ้น
ครีมบำรุงผิวหน้าบางสูตรนอกจากจะให้ความชุ่มชื้นแล้ว ยังช่วยปรับสมดุลผิวอีกด้วย
ช่วยบำรุงผิวดูกระจ่างใส อิ่มน้ำ จบปัญหาหน้าหมองคล้ำ
ช่วยเสริมปราการผิวให้แข็งแรง

ครีมบำรุงผิวหน้ากลางคืน และกลางวัน แตกต่างกันอย่างไร

ครีมบำรุงผิวหน้ามักมีการแบ่งประเภทตามช่วงเวลาการใช้งาน ได้แก่ ครีมทาหน้ากลางวัน (Day Cream) และครีมทากลางคืน (Night Cream) โดยมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ดังนี้

ครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับกลางวัน (Day Cream)

Day Cream เป็นครีมทาผิวหน้าสำหรับการดูแลผิวในช่วงระหว่างวัน ซึ่งมักมีเนื้อครีมบำรุงผิวหน้าที่บางเบา ซึมง่ายกว่า และอาจมีส่วนผสมของสารกันแดดเพื่อช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด และยังเป็นครีมบำรุงผิวหน้าที่ออกแบบสูตรมาสำหรับการใช้ตอนกลางวัน แต่ในด้านการบำรุงอย่างล้ำลึกแล้ว Night Cream หรือครีมบํารุงผิวหน้ากลางคืนอาจตอบโจทย์กว่าด้วยส่วนผสมครีมที่เข้มข้นมากกว่า

ครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับกลางคืน (Night Cream)

Night Cream ครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับดูแลผิวในช่วงกลางคืน หรือที่เรียกติดปากกันว่าครีมทาหน้าก่อนนอน มักมีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เน้นการเพิ่มน้ำให้กับผิว ให้ผิวมีความอิ่มน้ำ และเคลือบผิวด้วยเพื่อการกักเก็บความชุ่มชื้นในชั้นผิว

ครีมทาผิวกลางคืนบางตัวสามารถใช้ทาในช่วงกลางวันได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากมีสารที่ให้ความชุ่มชื้น และเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว แต่อย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับสูตรและส่วนผสมด้วย เพราะ Night Cream ส่วนใหญ่มีความเข้มข้นและลักษณะของเนื้อครีมที่ค่อนข้างหนักด้วยส่วนประกอบที่มีน้ำมันและไขมันสำหรับเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

หากนำครีมทาหน้าตอนกลางคืนมาทาตอนกลางวันอาจทำให้หน้ามันกว่าปกติได้ นอกจากนั้นหากครีมทาหน้ามีส่วนประกอบที่ไวต่อแสง เช่น เรตินอล หรือกรดวิตามินเอ การนำมาใช้ทาตอนกลางวันอาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือระคายผิวได้ อาจทำให้ผิวคัน มีผื่นคัน จึงไม่แนะนำให้ทา Night Cream ในเวลากลางวัน

สำหรับผู้ที่ต้องการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ครีมบำรุงผิวหน้า Bioderma สามารถใช้ทาได้ทั้งในตอนกลางวัน และตอนกลางคืน เนื่องจากมีเนื้อสัมผัสที่เบาบาง ซึมเข้าผิวได้ง่าย ไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกเหนอะหนะหลังจากทา และครีมบำรุงผิวหน้ายังมีให้เลือกด้วยกันถึงหลากหลายสูตร ตอบโจทย์ทุกปัญหาสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็น ผิวมันรูขุมขนกว้าง ปัญหาสิว หรือผิวแพ้ง่าย

4 ขั้นตอนทาครีมบำรุงผิวหน้า เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

การมีผิวที่ดีเป็นอะไรที่ใครๆ ใฝ่ฝัน ซึ่งหนึ่งในขั้นตอนการดูสกินแคร์ที่สำคัญอย่างครีมบำรุงผิวหน้าก็ควรมีเทคนิคในการทาครีม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ซึ่งขั้นตอนในการทาครีมบำรุงผิวหน้า 4 ขั้นตอน มีดังนี้

1. ล้างหน้าให้สะอาดก่อนใช้ครีมทาหน้าหรือสกินแคร์ต่างๆ โดยใช้คลีนซิ่งเพื่อทำความสะอาดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกที่อาจตกค้างอยู่บนผิวหน้า เช่น ครีมกันแดด มลภาวะอย่างฝุ่นต่างๆ รวมถึงคราบเหงื่อและความมันบนผิวหน้า จากนั้นจึงตามด้วยเจลล้างหน้า ที่มีความอ่อนโยนต่อผิวหน้า ไม่ทำให้ผิวแห้งหรือเกิดการระคายผิว

2. ทาครีมบำรุงผิวหน้าบนผิวที่แห้งหมาดๆ อาจจะเป็นหลังอาบน้ำเสร็จแล้ว หรือหลังการทาสกินแคร์ตัวอื่นที่มีเนื้อบางเบากว่าครีม เช่น โทนเนอร์ที่ช่วยเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุง หรือเซรั่มที่มีส่วนผสมที่เข้มข้น ไปจนถึงเอสเซนส์ที่มีความบางเบาสบายผิว เป็นต้น

3. เกลี่ยครีมให้ทั่วใบหน้า ป้องกันความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะและไม่สบายผิว สามารถใช้สเปรย์น้ำแร่หรือน้ำตบเพื่อให้เนื้อครีมมีความเหลวและเกลี่ยได้ง่ายขึ้น แต่หากผลิตภัณฑ์เป็นครีมบำรุงผิวหน้าประเภท sleeping mask ควรทาทิ้งไว้ไม่ต้องผสมกับผลิตภัณฑ์อื่น

4. กดครีมให้ซึมเข้าสู่ผิวอย่างช้าๆ หลังเกลี่ยครีมทาหน้าทั่วผิวหน้าแล้วสามารถใช้นิ้วกดทั่วผิวหน้าเบาๆเพื่อให้ครีมซึมลงผิวได้ดียิ่งขึ้น

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ครีมบำรุงผิวหน้า

ตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับครีมบำรุงผิวหน้า

ครีมบำรุงผิวหน้า ไม่ควรมีส่วนผสมใดบ้าง?

หลาย ๆ ครั้งในการจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงผิว เราก็ควรที่จะใส่ใจและสังเกตส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวหน้าว่ามีส่วนผสมที่อันตรายประกอบอยู่ด้วยหรือไม่ เพื่อที่จะได้ไม่เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์กับผิวหน้าของเรา จนยากที่จะแก้ไขปัญหาผิวได้ ตัวอย่างส่วนผสมในครีมทาหน้าที่อันตราย เช่น

ปรอท (mercury) แม้จะช่วยยับยั้งการทำงานของเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ทำให้ผิวขาว แต่ก็อาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ ผื่นแดง ผิวหน้าคล้ำ และเกิดฝ้า มีพิษสะสมในผิวหนัง และดูดซึมเข้าไปสู่กระแสเลือด นำไปสู่อาการตับไตอักเสบ
ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) เมื่อเป็นส่วนผสมในสกินแคร์ต่างๆ รวมไปถึงครีมบำรุงผิวหน้านั้นมีส่วนช่วยในการลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin) แต่ก็อาจทำให้เกิดผิวแสบร้อน มีตุ่มแดง ฝ้ากระจุดด่างดำ เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง
สเตียรอยด์ (Steroid) ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งส่วนผสมยอดฮิตที่นิยมใส่เข้ามาในครีมบำรุงผิวหน้า เพราะมีฤทธิ์ยับยั้งในการสร้างเม็ดสีผิวเข้มเมลานิน (Melanin) ผิวบาง ผดขึ้นง่าย อ่อนไหวง่ายต่อมลภาวะ แต่หากใช้ไปนานๆ ก็ส่งผลเสียทำให้ผิวติดสาร เกิดสิวสเตียรอยด์ได้
กรดเรติโนอิก (Retinoic acid) เป็นอีกหนึ่งส่วนผสมในครีมบำรุงผิวที่มีสรรพคุณกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว และยับยั้งการสร้างเมลานิน(Melanin) แต่อาจจะทำให้ผิวระคายเคือง ลอก อักเสบ แพ้แสงแดดง่าย รวมถึงเกิดภาวะผิวด่าง และอันตรายต่อทารกในครรภ์

ควรใช้ครีมบำรุงผิวหน้าบ่อยแค่ไหน?

สรุปแล้วควรทาครีมบ่อยแค่ไหนกัน? จริงๆ แล้วการใช้ครีมบำรุงผิวหน้าควรใช้วันละ 2 ครั้งต่อวัน คือในตอนเช้า และตอนเย็นหรือเวลาก่อนเข้านอนหลังผ่านการทำความสะอาดผิวหน้าเรียบร้อย ซึ่งทุกครั้งในการใช้ครีมทาหน้าควรเกลี่ยครีมให้ซึมเข้าผิวทั่วทุกบริเวณใบหน้าเพื่อให้ผิวได้รับประสิทธิภาพอย่างเต็มที่

สรุปเนื้อหาบทความ ครีมบำรุงผิวหน้า

ครีมบำรุงผิวหน้าถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นการออกแบบสูตรครีมบำรุงผิวหน้าแต่ละสูตรนั้น ยังเป็นการออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาผิวหน้าแห้งลอก และเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้น เสมือนการสร้างเกราะป้องกันผิวที่แข็งแรงขึ้น เพื่อให้ทนทานต่อมลภาวะ และสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ฉะนั้น “ครีมบำรุงผิวหน้า”เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะคืนความชุ่มชื้น อิ่มฟู ให้ผิวหน้าอีกครั้ง