วิธีการดูแลผิว
ใคร ๆ ที่เผชิญอยู่กับปัญหาสิว ก็ล้วนอยากกำจัดเจ้าสิวตัวร้ายนี้ไปกันทั้งนั้น และวิธีง่ายที่ใคร ๆ ก็ต่างเลือกทำก็คงหนีไม่พ้น “การกดสิว” เพราะเป็นวิธีง่าย ๆ รวดเร็ว ใคร ๆ ก็สามารถกดสิวเองได้ แต่หารู้ไม่ว่าการกดสิวไม่ใช่ทำอย่างไรก็ได้ แต่มันมีอะไรมากกว่านั้น! เพราะสิวบางชนิดก็กดสิวไม่ได้ แถมวิธีกดสิวที่ถูกต้อง ไม่ส่งให้เกิดรอยช้ำต่าง ๆ ทำอย่างไรมาดูกัน!
การกดสิว (Pimple popping) เป็นหนึ่งในวิธีกำจัดสิวที่ปลายเหตุ แม้จะเป็นการรักษาสิวที่ปลายเหตุก็ตามที แต่วิธีการกดสิวก็ช่วย นำหัวสิวออกมา ทำให้สิวที่นูนอยู่ยุบตัวลงมาได้
การกดสิวนั้น มีหลากหลายวิธีตั้งแต่การบีบสิวด้วยมือเปล่า หรือจะใช้อุปกรณ์อย่างที่กดสิวในการช่วยกดสิว หรืออาจจะมีการใช้อุปกรณ์อื่น ๆ มาช่วยในการเปิดหัวสิวให้กดสิวออกมาได้ง่าย ๆ เช่น เข็ม เลเซอร์เปิดหัวสิวเป็นต้น
สามารถดูวิธีรักษาสิวอื่น ๆ ได้ที่ : รักษาสิว + ลดสิว
ภายในสิวนั้นเต็มไปด้วยเคราติน (Keratin) ที่เป็นโปรตินในโครงสร้างของผิว ขน หรือกระทั่งเล็บ ผสมรวมกับซีบัม (Sebum) น้ำมันส่วนเกินบนผิว แบคทีเรียที่สะสมอยู่บนใบหน้า ทำให้เกิดการอุดตันอยู่ภายในขึ้น
ดังนั้นแน่นอนว่าการกดสิวก็เป็นอีกคำตอบที่จะช่วนนำสิ่งอุดตันเหล่านั้นออกมาได้ ทำให้สิวยุบตัวลง และลดระยะเวลาที่หัวสิวนี่จะถูกสิ่งต่าง ๆ มากระตุ้นนำไปสู่การเป็นสิวอักเสบ
การกดสิวเพียงอย่างเดียวก็เป็นเพียงการกำจัดสิวที่มีอยู่ให้หมดไปเพียงเท่านั้น แต่ไม่ได้ทำให้ต้นตอการเกิดสิวให้หมดลงไปได้ ดังนั้นแนะนำว่าควรใช้วิธีการกดสิว ควบคุมไปกับการดูแลผิวหน้าให้แข็งแรง ลดแนวโน้มการเกิดสิวจะดีกว่า
เพราะการกดสิวถึงแม้จะช่วยให้หัวสิวหลุดออกไปได้ แต่ก็อาจจะทิ้งรอยสิวเป็นแผลช้ำจากการกดสิวออก รวมถึงการใช้เข็ม หรือเลเซอร์เพื่อช่วยเปิดหัวสิวก็อาจจะทิ้งสะเก็ดแผลเอาไว้เช่นกัน
มากไปกว่านั้นหากอุปกรณ์ที่กดสิวไม่ผ่านการฆ่าเชื้อทำความสะอาดมาอย่างดี ก็เสี่ยงทำให้สิวบริเวณนั้นติดเชื้อ อาจจะลุกลามขึ้นเป็นสิวอักเสบ สิวเห่อขึ้นมาก็ได้
สิวที่กดได้นั้นควรจะเป็นสิวอุดตันชนิดที่ไม่อักเสบ ไม่ติดเชื้อ เป็นสิวที่มักจะเกิดจากอุดตันสะสมของน้ำมันบนใบหน้า และเซลล์ผิวเก่าหมักหมมในรูขุมขน เช่น
ซึ่งสิวเหล่านี้จะอยู่ใกล้กับชั้นผิวบนสุด จะมองเห็นหัวสิวได้จากภายนอก ทำให้ไม่ต้องอาศัยแรงเข้นอย่างมากในการนำหัวสิวออกมา และง่าย ๆ ต่อการนำหัวสิวออกมาได้หมด ทำให้ไม่ทิ้งรอยช้ำเอาไว้ และไม่เหลือหัวสิวเอาไว้ให้อักเสบขึ้นมา
เราไม่ควรที่จะกดสิวอักเสบ เพราะสิวชนิดนี้อยู่ลึกลงไปในชั้นผิวมากกว่าสิวชนิดอื่น ๆ ทำให้การบีบสิวชนิดนี้ต้องใช้แรงกดอย่างมากเสี่ยงต่อการเกิดรอยแผล ยิ่งไปกว่านั้นหากบีบตัวหนองหัวสิวออกมาไม่หมดจะยิ่งทำให้สิวลุกลามมากไปกว่าเดิม
ลักษณะสิวที่ไม่ควรกดสิว ดังนี้
เพื่อให้เกิดการทำร้ายผิวหลังกดสิวให้น้อยที่สุด วันนี้ Bioderma ก็จะมาบอกเทคนิคการกดสิวที่ถูกต้องให้กับผู้อ่านทุกท่าน โดยหัวใจหลักของการกดสิวก็คือ ความสะอาด และความเบามือในการกดสิว
หลังจากกดสิวแล้วนั้น แนะนำว่าให้ใช้น้ำเกลือทำความสะอาดแผลแทนการใช้น้ำเปล่า เพื่อทำความสะอาดแผล และช่วยให้แผลหลังกดสิวแห้งเร็ว และลดรอยกดสิวได้อีกด้วย หรืออาจจะใช้น้ำแข็ง ว่านหางจระเข้ ประคบไว้เพื่อลดอาการบวมแดงหลังจากกดสิว
ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี เพราะการกดสิวจะช่วยกำจัดสิวได้เร็ว เมื่อเทียบกับการกินยา และลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ยา หรือผลข้างเคียงจากการรับประทานยา
ถึงแม้การกดสิวจะช่วยกำจัดสิวไปได้ แต่ก็ไม่สามารถลดต้นตอในการเกิดสิวได้ ดังนั้นเพื่อให้หมดปัญหาสิวได้ไปอย่างหมดจด ถ้าหากมีสิวเรื้อรังไม่จบสิ้นเสียที แนะนำให้ไปพบแพทย์ผิวหนัง เพื่อรับคำปรึกษา หาสาเหตุการเกิดสิว จะได้กำจัดสิวไปได้ตั้งแต่ต้นเหตุ
ถึงแม้การกดสิวจะช่วยกำจัดสิวไปได้ แต่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสิวซ้ำ ๆ แบบนี้อยู่เรื่อย ๆ เราจึงควรหาสาเหตุตั้งแต่ต้นตอของสิว พร้อมทั้งดูแลผิวพรรณให้แข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่ทำร้ายผิว และบำรุงผิวให้มีปราการผิวที่แข็งแรง
เอกสารอ้างอิง
Jennifer Berry (June15,2020).Pimple popping: Should you do it?.medicalnewstoday.
https://www.medicalnewstoday.com/articles/pimple-popping#when-to-pop-a-pimple
