วิธีป้องกันสิวเห่อที่ต้นเหตุ ไม่ให้กลับมากวนใจซ้ำ
เพื่อลดโอกาสไม่ให้สิวเห่อกลับมารบกวนผิวหน้าอีก สามารถดูแลและป้องกันได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้
ล้างหน้าอย่างถูกวิธี
ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจด เพื่อลดการอุดตันในรูขุมขน แต่ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิว เพราะแม้ทำความสะอาดได้หมดจด หากมีสารทำความสะอาดรุนแรง ผิวอาจระคายและทำให้สิวเห่อหนักขึ้นได้
ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยน
เลือกใช้สกินแคร์บำรุงผิวที่อ่อนโยน เหมาะสำหรับผิวเป็นสิวเห่อง่าย ควรมีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นเพื่อลดการผลิตน้ำมัน พร้อมสารต้านแบคทีเรียที่ก่อสิว และส่วนประกอบที่ช่วยปลอบประโลมผิว ลดโอกาสเกิดอาการระคายผิว
ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน
ใช้ครีมกันแดดเป็นเกราะป้องกันผิวจากมลภาวะ ฝุ่นควัน PM2.5 และรังสี UV จากแสงแดด ควรเลือกสูตรอ่อนโยน มีค่า SPF และ PA สูงเพียงพอ และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือ 30 นาทีก่อนออกแดดจัด แม้อยู่ในอาคารก็ยังโดนรังสี UVB และแสงสีฟ้า (Blue Light) จากหน้าจอคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ และหลอดไฟได้ Photoderm XDefense Ultra- Fluid (Invisible) ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB และแสงสีฟ้า พร้อมเสริม Antioxidant ปกป้องผิวจากมลภาวะ ลดโอกาสเกิดสิวเห่อและผิวหมองคล้ำ
นอนหลับให้เพียงพอ
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เริ่มจากนอนก่อน 4 ทุ่ม และนอนให้ครบ 8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายซ่อมแซมผิวที่เป็นสิว ผลิตฮอร์โมนและสารต่างๆ ได้สมดุล ช่วยลดความเครียด ควบคุมการผลิตน้ำมันบนใบหน้า และเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ผิวแข็งแรง ลดโอกาสเกิดสิวเห่อได้ง่ายขึ้น
ปรับพฤติกรรมการกิน
ปรับพฤติกรรมการกินง่ายๆ ด้วยการลดอาหารน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน น้ำหวาน และเบเกอรี่ เพราะระดับน้ำตาลและอินซูลินในเลือดสูง จะกระตุ้นฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น ส่งผลให้ผิวหนาขึ้นและเกิดการอุดตันของรูขุมขน นำไปสู่การเกิดสิวเห่อ
สรุป
สิวเห่อเกิดได้จากหลายปัจจัย ตั้งแต่พฤติกรรมเล็กๆ เช่น การสัมผัสหน้า อดนอน หรือรับประทานอาหารหวาน ไปจนถึงสาเหตุใหญ่ๆ อย่างฮอร์โมนไม่สมดุลและการรับแสงแดดมากเกินไป การเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้เราดูแลผิวได้ตรงจุด ทั้งการปรับพฤติกรรม เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิวที่เหมาะสม รวมถึงป้องกันปัจจัยกระตุ้นต่างๆ ทำให้สามารถป้องกันสิวเห่อและรักษาผิวให้แข็งแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสิวเห่อ (FAQ)
รวมคำถามและคำตอบที่หลายคนมักสงสัยเกี่ยวกับสิวเห่อ เพื่อให้เข้าใจสาเหตุ การดูแล และวิธีป้องกันสิวเห่อได้มากขึ้น
ดูอย่างไรว่าสิวที่เห่อเป็นสิวฮอร์โมน?
สิวฮอร์โมนมักมีลักษณะเฉพาะที่สังเกตได้ เช่น มักขึ้นรอบปาก คาง และกรอบหน้าเป็นหลัก เป็นสิวอักเสบหรือสิวหัวหนอง ขนาดกลางถึงใหญ่ มักเจ็บหรือบวมเล็กน้อย และมักเกิดซ้ำเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงก่อนหรือระหว่างรอบเดือน หรือเมื่อร่างกายเกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมน หากสิวเห่อแบบนี้และเกิดซ้ำบ่อยๆ มีแนวโน้มสูงว่าจะเป็นสิวฮอร์โมน
สิวเห่อกับสิวที่ดันขึ้นมาต่างกันอย่างไร?
สิวเห่อคือสิวที่เกิดขึ้นพร้อมกันหลายเม็ด กระจายทั่วบริเวณผิวหน้า หรือบางครั้งลามไปหลายส่วนของร่างกาย มักเกิดจากปัจจัยหลายอย่างรวมกัน เช่น ฮอร์โมน ความเครียด อาหาร หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับผิว ส่วนสิวที่ดันขึ้นมามักเป็นสิวเม็ดเดียวหรือไม่กี่เม็ด เกิดจากสาเหตุเฉพาะ เช่น การอุดตันของรูขุมขน การแพ้ผลิตภัณฑ์ หรือปัจจัยชั่วคราวอื่นๆ ความต่างหลักคือ จำนวนและการกระจายของสิว รวมถึงความถี่และปัจจัยที่กระตุ้นการเกิดสิวนั้นๆ
สิวเห่อควรบีบไหม?
โดยทั่วไป ไม่ควรบีบสิวเห่อ เพราะสิวเห่อเป็นสิวหลายเม็ดที่อักเสบพร้อมกัน การบีบอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียกระจายไปยังผิวรอบๆ ทำให้สิวลามเพิ่มขึ้น แถมเสี่ยงทิ้งรอยแดง รอยดำ หรือแผลเป็นได้ วิธีที่ดีกว่าคือรักษาความสะอาดผิว ใช้ผลิตภัณฑ์ลดโอกาสเกิดสิวที่อ่อนโยน และบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น เพื่อให้สิวหายไปและลดโอกาสเห่อซ้ำอีกครั้ง
ปล่อยให้สิวเห่อหายเองได้ไหม?
บางกรณีสิวเห่อสามารถหายเองได้ หากเกิดจากปัจจัยชั่วคราว เช่น การแพ้ผลิตภัณฑ์ หรือการเปลี่ยนสภาพผิว แต่ก็อาจใช้เวลาหลายวันถึงหลายสัปดาห์ และระหว่างนั้นอาจเกิดรอยแดงหรือรอยดำได้ การปล่อยให้หายเอง ควรทำควบคู่กับการดูแลผิวอย่างเหมาะสม เช่น ทำความสะอาดผิวอ่อนโยน ใช้สกินแคร์ลดโอกาสเกิดสิว และหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นต่างๆ เพื่อให้สิวหายเร็ว ลดโอกาสลุกลาม และลดโอกาสการเป็นรอยแผลตามมา
ทำไมทายารักษาสิวแล้วสิวเห่อ?
บางครั้งเมื่อเริ่มใช้ยารักษาสิว เช่น ยาที่มีกรดซาลิไซลิก หรือเรตินอยด์ ผิวอาจเกิดสิวเห่อชั่วคราว เพราะยากระตุ้นให้ผิวผลัดเซลล์เร็วขึ้น สิ่งอุดตันใต้ผิวจึงดันขึ้นมาเป็นสิวหลายเม็ดพร้อมกัน อาการนี้มักเป็นช่วงปรับตัวของผิว และจะดีขึ้นเมื่อใช้ต่อเนื่อง โดยควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร ร่วมกับการดูแลผิวอย่างอ่อนโยน เพื่อลดการอักเสบและลดโอกาสเกิดสิวเห่อรุนแรงขึ้น