การที่ผิวได้รับแสงแดดในปริมาณมาก หลายคนอาจกังวลเรื่องผิวคล้ำหรือแดดทำให้สีผิวเข้มขึ้นกว่าเดิม แต่อีกปัญหาผิวหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือปัญหาการเกิดฝ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ้าแดด ซึ่งฝ้าเป็นปัญหาผิวหนังที่รักษาได้ยาก หากมีฝ้าแล้วใช้เวลารักษาค่อนข้างนานและฝ้าบางชนิดอาจต้องใช้วิธีการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าวิธีอื่น รวมถึงขั้นตอนการรักษาผิวหลังจากนั้นอาจทำให้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้ผิวโดนแสงแดดอีกด้วย

การรู้จักว่าฝ้าแดดคืออะไรจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อให้ทุกคนดูแลผิวได้ทันท่วงที ชะลอการเกิดปัญหาเรื่องฝ้าหรือริ้วรอยได้

ฝ้าแดด คืออะไร

แสงแดด ประกอบด้วย รังสียูวีหรือรังสีอัลตราไวโอเลต (UV: Ultraviolet) ซึ่งรังสียูวีที่มีความเข้มข้นสามารถทำลายผิวได้มาก เช่นรังสียูวีเอ ซึ่งเป็นรังสีที่มีช่วงของคลื่นที่ยาวทำให้ทำลายผิวได้ลึก ทำให้ผิวคล้ำเสีย หน้าหมองคล้ำ และผิวไหม้แดดได้ อาจเกิดเป็นฝ้าแดดที่กระทบกับผิวในระยะยาวได้ โดยรังสียูวีจะกระตุ้นการผลิตเม็ดสีภายในผิวหนัง

ฝ้าแดด คือ ฝ้าชนิดหนึ่งที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากแสงแดดเพียงอย่างเดียว เพราะแสงจากหลอดไฟ จอสมาร์ทโฟน จอคอมพิวเตอร์ ก็สามารถกระตุ้นเซลล์สร้างเม็ดสีในผิวหนังได้เช่นกัน โดยสำหรับผู้ที่มีฝ้าอยู่แล้วการให้ผิวพบกับแสงดังกล่าวอาจทำให้ฝ้ามีความเข้มมากกว่าเดิม เห็นได้ชัดกว่าเดิม และใช้เวลาในการรักษาที่มากกว่าเดิมด้วย

หลังจากที่ทราบแล้วว่าฝ้าแดดคืออะไร เรามาดูกันว่าฝ้าแดดเป็นแบบไหน ลักษณะของฝ้าแดดจะเป็นปื้นฝ้าน้ำตาล ฝ้าแดง ฝ้าเทาอมม่วง หรือฝ้าดำ สามารถมีสีเข้มขึ้นได้หากผิวโดนแสงมากกว่าเดิมโดยไม่มีการทาครีมกันแดดป้องกัน ดังนั้น “ผิวคล้ำเสีย” ที่เกิดจากแสงแดดจึงไม่ได้หมายถึงสีผิวที่เข้มขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงฝ้าและจุดด่างดำที่อาจเกิดภายในชั้นผิวอีกด้วย

ฝ้าที่เกิด มาจากการสร้างเม็ดสี (เมลานิน) ในผิวหนัง หากอยู่ในหนังระดับชั้นกำพร้าจะเรียกว่าฝ้าตื้น ฝ้าตื้นจะมีสีที่เข้มและเห็นขอบได้ชัดเจนกว่าเนื่องจากอยู่ในชั้นผิวที่ตื้น รักษาได้ง่ายและเร็วกว่าฝ้าแบบลึก ซึ่งฝ้าลึกจะอยู่ในชั้นผิวที่ลึกกว่าและมีสีที่จางกว่าฝ้าตื้น โดยฝ้ามักจะพบในผู้ที่อายุ 40 ปีขึ้นไป และแม้ฝ้าแดดจะพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย แต่ฝ้าแดดเพศชายก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน

ฝ้าแดด

ฝ้าแดด เกิดจากรังสียูวีเอจากแสงแดดและหลอดไฟหรือหน้าจอต่างๆ มีการกระตุ้นการผลิตเม็ดสีหรือเมลานินภายใต้ผิวหนัง สามารถป้องกันและชะลอการเกิดฝ้าแดดได้ด้วยการปกป้องผิวจากปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้าแดดได้ เช่น การหลีกเลี่ยงรังสียูวีเอ หรือปกป้องผิวจากคลื่นรังสียูวีเอด้วยการทาครีมกันแดด

ฝ้าแดด

ฝ้าเลือด (Vascular)  เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนซึ่งรวมไปถึงการใช้ยาบางประเภทได้ เช่น ยารับประทานที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน หรือยาที่ส่งผลให้เส้นเลือดฝอยบนผิวหน้าทำงานได้ผิดปกติ เช่น เส้นเลือดฝอยแตก มีเลือดกระจุกอยู่บริเวณใดบริเวณหนึ่งภายใต้ชั้นผิวหนัง มักมีสีน้ำตาลแดง ต่างกับฝ้าเลือดโดยชัดเจน

ฝ้าเลือด รักษา

วิธีรักษาฝ้าแดด

ใครหลาย ๆ คนอาจจะเกิดคำถามในใจว่าฝ้าแดดรักษาหายไหม เพราะการหลีกเลี่ยงแสงแดดเป็นเรื่องที่ทำได้ยากในชีวิตประจำวัน วิธีรักษาฝ้าแดดสามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งฝ้าตื้นและฝ้าลึกใช้ระยะเวลาการรักษาที่แตกต่างกันออกไป มีอยู่หลายวิธีขึ้นอยู่กับประเภทของฝ้าและสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วย

 

ใช้ยาทารักษาฝ้าแดด

ใช้ยาสำหรับรักษาฝ้าโดยเฉพาะ ยาประเภทรักษาฝ้าแม้มีหลายกลุ่มก็ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยารักษาฝ้าโดยเฉพาะมักมีค่ากรดที่สูง ส่งผลให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวซึ่งอาจทำให้ผิวแสบเคือง ผิวลอก หรือส่งผลกระทบต่อผิวอย่างรุนแรง หากใช้ยารักษาฝ้าในปริมาณที่พอดีและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ จะเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่เห็นผลได้ตั้งแต่การรักษา 1-2 เดือนแรก และชัดเจนมากขึ้นหลังการใช้ 6 เดือน

ตัวยาทารักษาฝ้าแดดมีหลายตัวยา เช่น

  • กลุ่มกรดวิตามินเอหรือเรตินอยด์ (Topical Retinoids/Retinoic Acid)
  • กรดอะซีลาอิก(Azelaic Acid)
  • กรดโควิก(Kojic Acid)
  • คอร์ติโคสเตียรอยด์(Corticosteroids)
  • กรดไกลโคลิก(Glycolic Acid)

 

ทำเลเซอร์แก้ฝ้าแดด

การทำเลเซอร์ การใช้เลเซอร์หรือการรักษาด้วยแสงมีความแม่นยำและถูกจุดที่สุด แม้จะมีราคาสูงแต่ก็เป็นวิธีที่หลายคนเลือกใช้เป็นการรักษาเสริม เพราะการเลเซอร์เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ สามารถช่วยกำจัดเม็ดสีส่วนเกินได้แต่ภายใต้ชั้นผิวก็ยังมีการผลิตเม็ดสีเพิ่มอยู่ อีกทั้งวิธีนี้ยังมีความเสี่ยงต่อการทำร้ายผิว ทำให้ผิวมีความไวต่อแสงมากกว่าปกติ หากการดูแลผิวหลังเลเซอร์ไม่ดีพออาจทำเพิ่มความเสี่ยงทำให้เกิดฝ้าที่เข้มและเยอะกว่าเดิม หรือเกิดแผลจากการรักษาได้

 

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยรักษาฝ้าแดด

ครีมบำรุงผิวหน้า ครีมบำรุงที่มีสารช่วยรักษาฝ้า เป็นวิธีที่อาจเห็นผลช้ากว่าการใช้ยาสำหรับรักษาฝ้าโดยเฉพาะ แต่ช่วยถนอมผิวได้มากกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกใช้ยารักษาฝ้า หรือผู้ที่มีผิวบอบบางและต้องการการบำรุงผิวไปในเวลาเดียวกัน หรืออาจจะใช้วิธีรักษาฝ้าแดดแบบธรรมชาติ โดยใช้ส่วนประกอบจากธรรมชาติที่มีสรรพคุณช่วยลดฝ้ากระจุดด่างดำ เช่น ว่านหางจระเข้ หอมแดง มะขามเปียก เป็นต้น แต่ทั้งนี้การใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติเหล่านี้อาจจะก่อความระคายเคียงให้กับผิวได้

 

การลอกผิวเพื่อรักษาฝ้า

การลอกผิวเพื่อรักษาฝ้า วิธีนี้จำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นเนื่องจากต้องใช้ความละเอียดอ่อนและแม่นยำเป็นพิเศษ การลอกชั้นผิวด้วยกรดหรือสารเคมีช่วยให้ฝ้าจางลงได้ แต่ถ้าหากลึกลงไปในชั้นผิวมากเกินไปอาจเกิดแผลเป็นถาวร และยังมีผลข้างเคียงทำให้ผิวบอบบาง แห้ง ไวต่อแสงแดดอีกด้วย

การป้องกันฝ้าเพื่อเป็นการดูแลผิวและชะลอการเกิดปัญหาจึงเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาฝ้า และป้องกันฝ้ามีสีเข้มกว่าเดิมในผู้ที่มีฝ้าอยู่แล้ว

1. ไม่อยู่ท่ามกลางแสงแดดเป็นเวลานานเกินไป

ไม่อยู่ท่ามกลางแสงแดดเป็นเวลานานเกินไป เพราะนอกจากเรื่องการทำให้ผิวคล้ำและแห้งเสีย การอยู่ท่ามกลางแดดแรงเป็นระยะเวลานานติดต่อกันอาจเป็นการกระตุ้นการผลิตเม็ดสีและทำให้เกิดเป็นฝ้าได้

2. สวมใส่เสื้อผ้าเพื่อช่วยกันแดด

สวมใส่เสื้อผ้าหรือใช้อุปกรณ์ที่ช่วยกันแดดได้ เช่น แว่นกันแดด เสื้อแขนยาว ร่ม เพื่อไม่ให้แสงแดดกระทบผิวโดยตรง

3. ทาครีมกันแดดทุกครั้งแม้อยู่ในที่ร่ม

ฝ้าแดด รักษาหายไหม

รักษาฝ้าแดด

ลดฝ้าแดด

ทาครีมกันแดดทุกครั้งแม้อยู่ในที่ร่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการโดนรังสียูวีทั้งจากแสงแดดและจออุปกรณ์ได้ ควรทาครีมกันแดดอยู่เสมอเพื่อช่วยป้องกันคลื่นรังสียูวีที่อาจทำร้ายผิวได้ สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องออกกลางแจ้งควรทากันแดดซ้ำระหว่างวันด้วย ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30-50 ขึ้นไปเพื่อป้องกันรังสียูวีเอ เช่น ครีมกันแดด Bioderma Photoderm Aquafluide ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม และมี SPF 50+ UVA 24/PA++++ ช่วยดูแลผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีเนื้อบางเบาเหมาะสำหรับการทาระหว่างวัน หรือสำหรับผู้ที่ต้องการการปกปิดผิวสามารถใช้ครีมกันแดด Bioderma Photoderm Cover Touch เพื่อการปรับสีผิวให้เนียนแมตต์และปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

ฝ้าแดด รักษาด้วยการทาครีมกันแดด

การทาครีมกันแดดควรทาหลังขั้นตอนสกินแคร์ และก่อนลงเครื่องสำอาง โดยปริมาณที่เหมาะสมในการทาคือ 1 กรัมต่อทั่วใบหน้า สามารถกะปริมาณได้ประมาณ 2 ข้อนิ้ว เกลี่ยครีมกันแดดให้ทั่วใบหน้า และใช้นิ้วกดทั่วใบหน้าเบาๆเพื่อให้กันแดดซึมเข้าผิว และควรทากันแดดก่อนการออกแดด 30 นาที โดยสามารถทาครีมกันแดดซ้ำระหว่างวันได้

ข้อสรุป

ปัญหาฝ้าแดดสามารถพบได้ในบุคคลทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในเพศหญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป แต่ปัญหาฝ้าแดดสามารถป้องกันได้ด้วยการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้าอย่างแสงแดดและแสงจากจออุปกรณ์ต่างๆ นอกจากจะเป็นการชะลอการเกิดฝ้าแล้วยังช่วยให้ฝ้าไม่เข้มกว่าเดิมด้วย ดังนั้นสิ่งที่สำคัญกว่าการรักษาฝ้าคือการดูแลผิวเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาฝ้า และเป็นการดูแลผิวจากปัญหาผิวอื่นได้อีกด้วย

Bioderma ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโฟโตเดิร์ม

ปกป้องผิวจากแสงแดด

ผิวแพ้ง่ายที่ต้องเผชิญกับแสงแดด

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโฟโตเดิร์ม (Photoderm)

Bioderma ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโฟโตเดิร์ม

คุณกำลังมองหาครีมกันแดดประสิทธิภาพสูงสำหรับผิวของคุณอยู่หรือเปล่า

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโฟโตเดิร์ม (Photoderm) คือผลิตภัณฑ์กันแดดครบวงจรสำหรับทุกสภาพผิวรวมถึงผิวที่มีความไวต่อแสงแดด  โดยมีทั้งผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดสำหรับผิวที่ไวต่อสิ่งกระตุ้นอย่างแสงแดดหรือสารเคมีผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย และผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดสำหรับผิวมันถึงผิวเป็นสิวง่ายโดยเฉพาะ