ผลข้างเคียงจากการใส่หน้ากากอนามัย และการดูแลผิวหน้า

การสวมหน้ากากอนามัยได้กลายเป็นมาตรการสำคัญในการต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ตามการสวมใส่หน้ากากยาวนานตลอดทั้งวันสามารถทำลายเกราะป้องกันผิวและนำไปสู่ผลกระทบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การระคายเคือง, ผิวแห้งกร้าน,ผิวขาดน้ำ, รอยสิว ,รอยแดง, อาการคัน, ปวดแสบ, ผิวตึง,  รวมไปถึง สิวจากมาสก์ หรือที่เรียกอีกอย่างว่า Maskne = มาสก์ (หน้ากาก) + แอคเน่ (สิว)

 

ทั้งนี้คุณจะได้รับผลกระทบข้างเคียงเหล่านี้มากยิ่งขึ้น หากคุณมีผิวแพ้ง่ายหรือบอบบาง ที่จริงแล้วหน้ากากอนามัยสามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังแบบคาดไม่ถึงหรือทำให้โรคผิวหนังที่เป็นอยู่แย่ลงกว่าเดิม (เช่น สิว, โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย, โรคผื่นผิวหนังอักเสบ,โรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้)

ไบโอเดอร์มามีคำแนะนำด้านผิวหนังเบื้องต้นที่จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าทำไมหน้ากากเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหาผิวหน้า เมื่ออ่านคำแนะนำด้านผิวหนังด้านล่างนี้แล้ว คุณจะได้ทราบถึงวิธีการดูแลเกราะป้องกันผิวของคุณ รวมถึงการป้องกันผลข้างเคียงจากการสวมใส่หน้ากากอนามัย

 

ทำไมหน้ากากเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาผิวหน้า?

ปัจจุบันการสวมใส่หน้ากากเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราและมีความจำเป็นอย่างยิ่ง แต่การสวมหน้ากากก็ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางนิเวศชีวภาพต่อผิวหนัง เรามองว่าผิวหนังคือระบบนิเวศที่มีชีวิตที่มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมรอบตัวอยู่ตลอดเวลา แต่ผิวหน้าไม่คุ้นชินกับการถูกปกคลุมด้วยหน้ากาก เพราะการสวมหน้ากากทำให้เกิดสภาพแวดล้อมแบบกึ่งปิดกั้น ซึ่งขวางกั้นการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผิวหน้ากับสภาพแวดล้อมภายนอกตามธรรมชาติ (เช่น การแลกเปลี่ยนความชื้น รังสียูวี และออกซิเจน) การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผิวหน้ากับสิ่งแวดล้อมได้เปลี่ยนแปลงไป จากที่ได้สัมผัสกับอากาศที่มีออกซิเจน ตอนนี้ผิวหน้าถูก “จำกัด” ให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนและชื้น มีคาร์บอนไดออกไซด์สูง เนื่องจากการหายใจในสภาพแวดล้อมแบบกึ่งปิดกั้นนี้ก่อให้เกิดปัญหาผิวหน้าที่เกิดจากการหมักหมมความชื้น

ผลการศึกษาจากประเทศจีนที่สำรวจจากผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขจำนวน 407 คน พบว่า 49% มีการเปลี่ยนแปลงของของผิวหน้าที่มีสาเหตุเกี่ยวข้องกับหน้ากาก โดยอาการคัน (14.9% ของคนไข้), ผื่นแดง (12.6%), และผิวแห้ง (11.6%) คืออาการที่พบบ่อยมากที่สุด นอกจากนี้ 43.6% ของคนไข้ที่มีสิว 100% ของคนไข้ที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย และ 37.5% ของคนไข้ที่มีผื่นผิวหนังอักเสบ มีอาการกำเริบของโรค1

 

ผลกระทบข้างเคียงของการสวมใส่หน้ากากที่อาจเกิดขึ้นกับผิวหน้าของคุณมีอะไรบ้าง?

การสวมใส่หน้ากากแสดงให้เห็นแล้วว่าก่อให้เกิดความเสียหายต่อเกราะป้องกันผิว อาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงผิวหนังขึ้นมาใหม่ หรือไม่ก็ซ้ำเติมปัญหาผิวที่มีอยู่ก่อนแล้ว (ไม่ว่าจะเป็นสิว, โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย, โรคผื่นผิวหนังอักเสบ, โรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้) โดยผิวของแต่ละคนจะไม่เหมือนกันและมีการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกันออกไป

ผิวระคายเคือง

การระคายเคืองผิว

การสวมใส่หน้ากากทำให้เกิดการเสียดสีมากกว่าจะเป็นสาเหตุของการระคายเคืองผิว แท้จริงแล้วผิวหน้านั้นบอบบางกว่าและอ่อนไหวต่อการเสียดสี การพูด การไอ หรือแม้แต่การขยับเขยื้อนหน้ากากของคุณทำให้เกิดการเสียดสีเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความบอบบางของผิว การเสียดสีซ้ำๆ อาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง ผลการศึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขรายงานว่า การระคายเคืองอาจปรากฏขึ้นในแต่ละบริเวณจุดสัมผัส โดยเฉพาะอย่างยิ่งจมูก คาง และแก้ม ใต้ตาและหลังหู

นอกจากนั้นแล้ว หน้ากากยังกักเก็บสิ่งสกปรกและสิ่งปนเปื้อนที่อาจทำให้ผิวระคายเคืองยิ่งขึ้นไปอีก  

 

ความกังวลเกี่ยวกับผิวหนัง

ผลจากการปิดกั้นผิวหน้าจากการสวมใส่หน้ากากยังเป็นการกระตุ้นการขับเหงื่อ และเมื่อมีทั้งการเสียดสีและการหมักหมม เกราะป้องกันผิวก็อาจได้รับผลกระทบ และก่อให้เกิดอาการ

  • ผิวแห้งกร้าน และผื่นแพ้สัมผัส
  • ผื่นคัน
  • มีผื่นแดงปรากฏขึ้นบริเวณที่เสียดสี (ผื่นคัน โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย)
  • การหลุดลอกเป็นขุยบริเวณจมูก แก้ม และคาง (ผื่นผิวหนังอักเสบ

การศึกษาจากประเทศจีนเผยว่า การแห้งกร้าน/ ผิวตึง (70.3%) และการลอกเป็นขุย (62.2%)  เป็นปัญหาผิวหนังที่พบบ่อยที่สุด3

นอกจากนั้นแล้ว ผลการศึกษาจากโปแลนด์ยังพบด้วยว่า อาการคันที่สัมพันธ์กับการใช้หน้ากากอยู่ที่ 19.6% ของกลุ่มตัวอย่าง โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบอบบางและมีแนวโน้มเป็นภูมิแพ้ผิวหนัง4

 

Maskne (มาสก์เน่) / สิวที่เกิดจากหน้ากาก

การหายใจผ่านหน้ากากทำให้เกิดความร้อนและความชื้น  เป็นเหตุให้ผิวหน้ามันมากยิ่งขึ้น ในสภาพที่ร้อน ชื้นกึ่งปิดกั้นเช่นนี้ ต่อมที่ทำหน้าที่ผลิตไขมันอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ง่าย (ในส่วนที่เกี่ยวกับซีบัมอ็อกซิเดชั่น)  และอาจก่อให้เกิดแบคทีเรียเพิ่มมากขึ้น  ด้วยเหตุนี้ ฝ้าและรอยด่างอาจปรากฏขึ้นบนผิวหนังของคุณ ซึ่งส่วนใหญ่จะปรากฏบริเวณคางและกรามทั้งสองข้าง และบางครั้งจะปรากฏบริเวณจมูก คุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับ “มาสก์เน่” ซึ่งหมายถึงสิวที่เกิดจากหน้ากาก

ผลการศึกษาที่ประเทศจีน พบว่า การลุกลามที่เพิ่มขึ้นของสิวปรากฏขึ้นหลังจากสวมใส่หน้ากากเป็นเวลานาน (มากกว่า 4 ชั่วโมงต่อวันตลอด 5 เดือน)5

 

การขาดวิตามินดี

ต้องไม่ลืมว่าการสวมใส่หน้ากากยังเป็นการกรองบางส่วนของแสงธรรมชาติไม่ให้ถึงผิวหน้า จะเป็นเรื่องดีหากผิวหน้าไม่ได้รังสียูวี แต่จะไม่ใช่เรื่องที่ดีหากผิวหน้าไม่ได้รับวิตามินดีซึ่งได้รับการสังเคราะห์โดยผิวและจำเป็นสำหรับการซ่อมแซมแคลเซียม

ผู้เชี่ยวชาญท่านหนึ่งได้แนะนำเกี่ยวกับการสวมใส่หน้ากากไว้ว่า

“การสวมใส่หน้ากากทำให้เกิดการปิดกั้นผิวหนัง รวมถึงการลอกเป็นขุย ซึ่งซ้ำเติมอาการระคายเคือง อันเกิดจากการเสียดสีของหน้ากาก หน้ากากยังทำให้เกิดสภาพร้อนและชื้น ซึ่งเอื้อต่อการผลิตความมันและปรากฏเป็นรอย (สิวหรือแผลอักเสบ)

ดร. ไมเคิล ซาแยค แพทย์ผู้ชำนาญด้านภูมิแพ้ – ไบโอเดอร์มา

ผิวระคายเคืองง่าย กับการใส่มาสก์

ไบโอเดอร์มามีคำแนะนำ 3 ขั้นตอนดังนี้

ผิวระคายเคืองง่าย-กับการใส่มาสก์

 

การใช้คลีนซิ่งที่อ่อนโยนเป็นประจำทุกวัน

จำเป็นต้องใช้คลีนเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งอ่อนโยนและปกป้องเกราะป้องกันผิวของคุณมากกว่าที่เคย

วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันผลกระทบจากหน้ากากคือ การล้างหน้าด้วยเจลล้างหน้าให้สะอาดหมดจดวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและกลางคืน โดยใช้น้ำที่มีอุณหภูมิเหมาะสม ไม่ทำให้เกราะป้องกันผิวเสียหายมากขึ้น

ซึ่งวิธีนี้จะช่วยขจัดเหงื่อและน้ำมันส่วนเกินและกำจัดซีบั่มที่เปลี่ยนแปลง สิ่งปนเปื้อน และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ซึ่งเป็นการป้องกันการลุกลามที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงรูขุมขนอุดตัน

คำแนะนำคลีนซิ่ง ไมเซล่า วอเตอร์ เซ็นซิบิโอ เอชทูโอ (Sensibio H2O) สามารถขจัดคราบเมคอัพ อนุภาคมลพิษและฝุ่นละอองได้มากกว่า 98% และช่วยให้ผิวกลับสู่ภาวะปกติ

 

คลีนซิ่ง Bioderma Sensibio H2o

ใช้สกินแคร์เป็นประจำทุกวัน

หลังจากใช้โทนเนอร์เช็ดหน้าเสร็จแล้ว การใช้สกินแคร์ ไม่ว่าจะเป็น เซรั่ม ครีมบำรุงผิวหน้า เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่ต้องใช้สกินแคร์ที่เข้ากับผิวของคุณเป็นประจำทุกวันเพื่อปกป้องผิวของคุณจากการรุนรานทางผิวหนัง อันเกิดจากการใช้หน้ากากเป็นเวลานาน

ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังแนะนำให้ใช้สารที่ทำให้ผิวนุ่มหรือครีมให้ความชุ่มชื้นที่เข้ากับประเภทผิวของคุณทั้งในตอนเช้าและกลางคืน หากจะให้ดีควรใช้สาร 30 นาทีก่อนใส่หน้ากาก เพื่อให้ผิวมีเวลาในการซึมซับ

ในตอนเช้า ให้ทาครีมบำรุงเนื้อนางเบาเพื่อป้องกันผิวของคุณและเป็นการลดผลกระทบจากการปิดกั้นของหน้ากากไปในตัว เพราะผิวจะเจอทั้งความร้อนและความชื้นในหน้ากาก

สำหรับในตอนกลางคืน ให้ทาครีมทาหน้าตามปกติ

ถ้าคุณมีผิวแพ้ง่ายหรือไวต่อการเปลี่ยนแปลง ก็ต้องทำให้ผิวชุ่มชื้นเพื่อป้องกันผิวจากการเสียดสีของหน้ากาก ฟื้นฟูไฮโดรไลปิดฟิล์มและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวของคุณ

ในกรณีที่เป็นสิวหรือ maskne จำเป็นต้องใช้สกินแคร์รักษาสิวสูตรสำหรับผิวแพ้ง่ายเพื่อลดการผลิตไขมันและการเปลี่ยนแปลงของต่อมไขมัน รวมทั้งกำจัดรอยต่างๆ พร้อมกับบรรเทาและเติมความชุ่มชื่นให้ผิว

คำแนะนำ: กรณีที่มีผื่นแดงจากการสวมหน้ากากคุณสามารถใช้เซ็นซิบิโอ ไลท์ (Sensibio Light) แต่หากคุณมีผิวที่เป็นสิวไม่ว่าจะเป็น สิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวหัวช้าง สิวเสี้ยน หรือสิวผด ซีเบี่ยม เซ็นซิทีฟ (Sebium Sensitive) คือตัวเลือกที่ดีที่สุด

 

เซ็นซิบิโอ ไลท์ (Sensibio Light)

ข้อพิสูจน์เพิ่มเติมเกี่ยวกับความสำคัญของอนามัยผิวหนังที่ดี (โดยเฉพาะการล้างมือและหน้าเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด 19

จากการศึกษาพบว่า ไวรัสโควิด 19 สามารถอยู่รอดบนผิวหนังได้เป็นเวลา 9 ชั่วโมง ซึ่งหากเทียบกันแล้ว ไวรัสไข้หวัดใหญ่สามารถอยู่ได้เพียง 2 ชั่วโมง6

นี่เป็นสิ่งเน้นย้ำอีกประการหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการล้างมือบ่อยๆ รวมถึงการใช้คลีนซิ่งล้างทั่วหน้า (รวมถึงส่วนอื่นๆ ของร่างกายที่สัมผัสสิ่งแวดล้อมโดยตรง)

 

วิธีการเลือกหน้ากากหน้ากากแบบใช้แล้วทิ้งหรือหน้ากากผ้า?

การเลือกประเภทหน้ากากที่เหมาะสมกับคุณที่สุด คือขั้นตอนแรกของการป้องกันและจำกัดการระคายเคืองผิวหนัง ผู้เชี่ยวชาญยังไม่มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ในเรื่องนี้ ยังไม่มีกฎที่ชัดเจนตายตัว ขึ้นอยู่กับความเปราะบางของผิวแต่ละคน  หากคุณมีผิวแพ้ง่าย แนะนำให้ลองใช้หน้ากากหลายๆ แบบ เพื่อค้นหาแบบที่ให้สัมผัสไม่พึงประสงค์น้อยที่สุด (การคัน การระคายเคือง)

อย่าลืมเปลี่ยนหน้ากากทุก 4 ชั่วโมงและทิ้งอย่างปลอดภัยในถุงปิดเพื่อจำกัดความเสี่ยงของการแพร่ระบาด หากคุณใส่หน้ากากที่ทำจากผ้าฝ้าย ให้ซักล้างที่อุณหภูมิ 60 องศา เป็นเวลา 30 นาทีเป็นอย่างน้อย

 

แล้วการแต่งหน้าภายใตหน้ากากเป็นอย่างไร?

จากผลกระทบของการปิดกั้นจากการสวมใส่หน้ากาก การแต่งหน้าจะยิ่งเป็นการอุดตันรูขุมขนและสร้างปัญหาต่างๆตามมา เช่น รูขุมขนกว้าง นั่นคือเหตุผลว่าทำไมคุณควรเลือกเครื่องสำอางแบบไม่ปิดกั้น ที่เป็นสูตรสำหรับผิวที่แพ้ง่าย เปราะบาง หรือเป็นสิวง่าย ทั้งนี้ต้องล้างคราบเครื่องสำอางทั่วใบหน้าและดวงตาอย่างนุ่มนวลและทั่วถึงในเวลากลางคืน และใช้คลีนซิ่งที่ทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก

อ้างอิง

1 โจ่ว วาย, หัว ดับบลิว, โลว วายและคณะ. การเปลี่ยนแปลงของผิวหนังจากหน้ากากเอ็น 95 และหน้ากากอนามัยในกลุ่มเจ้าหน้าที่สาธารณสุข: การสำรวจความคิดเห็นแบบรายงานด้วยตัวเองในจีน การติดโรคผิวหนังอักเสบ. คอนแทค เดอร์มาทิทิส. (2020)

เจียคาลอน เอ, มินูติ ซี บี, สปิการิโอโร อี, พาสโซนี จี, แนซซาโร. โรคผิวหน้าในประชากรทั่วไป เนื่องจากการสวมใส่หน้ากากป้องกันส่วนบุคคลระหว่างการระบาดของโควิด-19 การสังเกตครั้งแรกหลังจากล็อกดาวน์ คลินิคัล แอนด์ เอ็กซ์เพอริเมนทัล เดอร์มาโทโลจี (2020)

3 หลาน เจย์, ซอง แซด, เมียว เอ็กซ์, หลี เอช, ลี วาย, ดอง แอล, หยาง เจย์, อัน เอ็กซ์, จาง วาย, โจว เอ็น, หยาง แอล, หลี เจย์, เจา เจย์. หวัง เจย์, เตา เจย์. ปัญหาผิวหนังในกลุ่มคนทำงานด้านสาธารณสุขที่ดูแลจัดการกับโรคโคโรนาไวรัสปี 2019. เจอร์นัล ออฟ ดิ อเมริกัน อะคาเดมี ออฟ เดอร์มาโทโลจี (2020)

เซปีโทวสกี เจย์ซี, มาทูเซียค แอล, เซปีโทวสกา เอ็ม และคณะ. อาการคันอันเกิดจากหน้ากาก: การศึกษาแบบสอบถามด้วยตัวเองจากผู้ตอบคำถาม 2,315 คน ระหว่างการระบาดของโควิด 19. แอคตา เดิร์ม เวเนรีออล (2020)

5 ฮัน ซี.,ชิ เจ., เฉน วายและคณะ การลุกลามที่เพิ่มขึ้นของสิวอันเกิดจากการสวมใส่หน้ากากเป็นเวลานานระหว่างการระบาดของโควิด 19 ในกลุ่มประชากรทั่วไป. เดอร์มาทอล เธอร์ (2020)

รีโอฮิเอะ ฮิโรเซ, ฮิโรชิ อิเกกายะ, ยูจิ นาอิโตะ, นาโอโตะ วาตานาเบะ, ทาคูมะ โยชิดะ, ริสะ บันโดอุ, โทโมะดาอิโดจิ, โยชิอิโตะ อิโตห์, ทากาอากิ นากายะ, การอยู่รอดของไวรัสซารส์ ซีโอวี – 2 และไข้หวัดใหญ่บนผิวมนุษย์: ความสำคัญของ