ขั้นตอนเตรียมผิวก่อนแต่งหน้าที่ช่วยให้ผิวเนียน เมกอัปติดทนนานทั้งวัน

Key Takeaway

• ควรเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า เพราะช่วยให้เครื่องสำอางติดทน ผิวเรียบเนียน แต่งง่าย ไม่เป็นคราบ และยังช่วยปกป้องผิวจากการระคายระหว่างวัน
• วิธีการล้างหน้าให้ผิวสะอาดเพื่อเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า เริ่มด้วยคลีนซิ่งลบเมกอัปและสิ่งสกปรก จากนั้นล้างหน้าด้วยเจลหรือโฟมล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิว แล้วซับหน้าเบาๆ ด้วยผ้าสะอาด
• วิธีการลงสกินแคร์และครีมกันแดด ให้ลงสกินแคร์จากเนื้อบางไปเข้มข้น เช่น เซรั่ม มอยส์เจอร์ไรเซอร์ แล้วตามด้วยครีมกันแดดเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนแต่งหน้า ทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ รอให้ซึมก่อนลงเมกอัป
• หลังลงสกินแคร์และครีมกันแดดแล้วให้ลงไพรเมอร์ เพื่อเบลอรูขุมขนและควบคุมความมัน ต่อด้วย เมกอัปเบส ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ แล้วลงรองพื้น ให้ทั่วใบหน้าอย่างบางเบา ใช้คอนซีลเลอร์ ปกปิดจุดที่ต้องการ และปิดท้ายด้วยแป้ง เพื่อเซตทุกอย่างให้เนียนติดทนทั้งวัน

การแต่งหน้าให้สวยเป๊ะติดทนนาน ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่กับเครื่องสำอางเท่านั้น การเตรียมผิวก่อนแต่งหน้าให้พร้อมต่างหากคือหัวใจสำคัญของลุคที่ดูดีตลอดวัน ถ้าผิวหน้ามีความชุ่มชื้น เรียบเนียน และสมดุล จะช่วยให้เครื่องสำอางเกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ ไม่หลุดหรือไหลระหว่างวัน มาดูกันว่าการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้าที่ดีควรทำอย่างไรบ้าง เพื่อให้ผิวเนียนใสและเมคอัพติดทนนานตลอดวัน!

ไขข้อสงสัย ทำไมต้องเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า?

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมต้องเสียเวลาเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า ทั้งที่แค่ทารองพื้นก็ปกปิดได้แล้ว แต่จริงๆ แล้วการเตรียมผิวคือขั้นตอนสำคัญที่จะช่วย “เซตผิว” ให้พร้อมรับเมกอัปอย่างเต็มที่ เพราะหากผิวยังแห้ง ลอก มัน หรือมีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ เครื่องสำอางก็จะไม่ติดผิวดีเท่าที่ควร อาจตกร่อง หลุดง่าย หรือเป็นคราบระหว่างวันได้ง่าย

การเตรียมผิวจะช่วยเติมความชุ่มชื้น ปรับสมดุลผิว และทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น ช่วยเรื่องรูขุมขนกว้างหรือผิวไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้เครื่องสำอางเกาะผิวได้แน่นขึ้นและอยู่ทนยิ่งขึ้นทั้งวัน โดยไม่ต้องเติมระหว่างวันบ่อยๆ

วิธีการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้าให้เครื่องสำอางติดทน

การเตรียมผิวก่อนแต่งหน้าเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้เครื่องสำอางติดทน ผิวดูเรียบเนียน และช่วยเรื่องเมกอัปตกร่องหรือเป็นคราบ หากผิวได้รับการบำรุงอย่างเหมาะสม ก็จะช่วยให้ลุคสวยเป๊ะตลอดวันโดยไม่ต้องเติมบ่อยๆ มาดูกันว่าการเตรียมผิวที่ดีควรเริ่มจากขั้นตอนไหนบ้าง

1. ล้างหน้าให้สะอาด

การทำความสะอาดผิวหน้าอย่างหมดจดคือขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดสำหรับการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า เพราะช่วยชะล้างความมันและสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขน เตรียมผิวให้พร้อม วิธีที่ดีคือใช้ปลายนิ้วถูวนเบาๆ ทั่วใบหน้า จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด แล้วใช้ผ้าขนหนูซับหน้าให้พอหมาด

ลองมาดูตัวเลือกที่น่าสนใจ อย่าง Sensibio Gel Moussant เจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยนสำหรับผิวแพ้ง่าย ด้วยสิทธิบัตร D.A.F. ที่เสริมความทนทานให้ผิว และส่วนผสมที่เลียนแบบโครงสร้างผิว ช่วยฟื้นบำรุงไขมันชั้นผิวและให้ความชุ่มชื้น ล้างหน้าได้อย่างอ่อนโยนโดยไม่ทำลายเกราะป้องกันผิว

สำหรับผิวมันและมีปัญหาสิวโฟมมิ่งเจลทำความสะอาด Sebium Gel Moussant ที่ช่วยทำความสะอาด ลดโอกาสเกิดสิว ควบคุมความมันอย่างอ่อนโยนโดยไม่ทำให้ผิวแห้ง ด้วย Zinc Sulfate และ Copper Sulfate สูตรอ่อนโยนพิเศษ ปราศจากสบู่ รักษาค่า pH ที่เหมาะสม และมีส่วนผสมจากธรรมชาติที่ได้รับการจดสิทธิบัตรเสริมความอ่อนโยนต่อผิวยิ่งขึ้น

2. ปรับสมดุลผิวด้วยโทนเนอร์

หลังล้างหน้า การปรับสภาพผิวเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยคืนสมดุล pH ให้ผิวอย่างอ่อนโยน ไม่ว่าคุณจะมีผิวมันหรือผิวแห้ง โทนเนอร์จะช่วยฟื้นบำรุงผิวที่ถูกรบกวนจากสิ่งแวดล้อม พร้อมกระชับรูขุมขนและขจัดสิ่งตกค้างในผิว ให้ผิวดูเรียบเนียน กระจ่างใส และพร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป

โทนเนอร์ที่น่าสนใจ ได้แก่ Sensibio Tonique สำหรับผิวแพ้ง่าย ที่มี Allantoin ช่วยปลอบประโลมผิว ลดความรู้สึกไม่สบายผิว พร้อม Xylitol และ Glycerin ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมี Sebium Lotion โลชั่นน้ำตบที่เหมาะกับผิวผสมถึงผิวมัน แม้ผิวแพ้ง่าย ช่วยปรับสมดุลผิวอย่างล้ำลึกและยั่งยืน อุดมด้วย Glycerin เพิ่มความชุ่มชื้น Zinc และ Vitamin B6 ควบคุมความมัน Capryloyl Glycine ควบคุมค่า pH ลดโอกาสเกิดสิว และสิทธิบัตร Fluidactiv™ ที่ช่วยควบคุมคุณภาพไขมัน ลดโอกาสเกิดรูขุมขนอุดตันและลดโอกาสการเกิดสิว

3. ลงสกินแคร์บำรุงผิว

หลังจากปรับสภาพผิวแล้ว การลงสกินแคร์ก่อนแต่งหน้าเพื่อบำรุงผิวคือขั้นตอนถัดไปที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะช่วยเติมความชุ่มชื้น ฟื้นบำรุง และเตรียมผิวให้แข็งแรง พร้อมสำหรับการแต่งหน้าในขั้นตอนถัดไป

ขั้นตอนการลงสกินแคร์ที่ถูกต้อง เริ่มจากผลิตภัณฑ์ที่บางเบาไปจนถึงเข้มข้น เริ่มด้วยไฮยาลูรอนเพื่อเติมน้ำให้ผิวอิ่มฟู เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแห้งขาดน้ำ จากนั้นตามด้วยพรีเซรั่มและเซรั่มบำรุงเฉพาะจุด สุดท้ายคือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้น สร้างเกราะป้องกันผิว และช่วยให้เครื่องสำอางติดทนตลอดวัน ระหว่างลงผลิตภัณฑ์ การลงครีมก่อนแต่งหน้าควรใช้นิ้วมือเกลี่ยและกดเบาๆ เพื่อให้ซึมซาบดีและกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ให้ผิวดูสดใสสุขภาพดี

สกินแคร์ที่แนะนำในขั้นตอนนี้คือ Sensibio Defensive ครีมบำรุงสำหรับผิวแพ้ง่าย ด้วยเทคโนโลยี DEFENSIVE ที่มี Carnosine และวิตามิน E เป็นสาร Antioxidant ปกป้องผิว Tetrapeptide ช่วยฟื้นบำรุงเกราะป้องกันผิว และ Red Sage Polyphenols ปลอบประโลมผิวระคายง่าย อีกตัวคือ Sebium Pore Refiner ผลิตภัณฑ์สำหรับกระชับรูขุมขนและควบคุมความมัน ที่มีสิทธิบัตร Fluidactiv™ ช่วยปรับสมดุลน้ำมันบนผิวลดโอกาสเกิดรูขุมขนอุดตันและลดโอกาสเกิดสิว ผสาน Agaric Acid ช่วยกระชับผิว และ Mattifying Powder ที่ควบคุมความมัน ทำให้ผิวดูละเอียดเนียนเรียบ กระชับรูขุมขน และเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ

4. ทาครีมกันแดด

อีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญในการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้าหรือไม่แต่งหน้าก็ตาม คือการทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน เพราะแสงแดดเป็นสาเหตุหลักที่ทำร้ายผิว ทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดริ้วรอย และต้องใช้เวลาในการฟื้นบำรุง การใช้ครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวหน้าจากอันตรายเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพฃ

ครีมกันแดดที่แนะนำคือ Photoderm XDefense ครีมกันแดดเนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ เนื้อ Ultra Fluid เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายและเป็นสิวง่ายโดยเฉพาะ ช่วยปกป้องผิวจาก UVA, UVB แสงสีฟ้า และมลภาวะ ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของผิวหมองคล้ำ ริ้วรอยก่อนวัย และการระคาย

5. ใช้ไพรเมอร์เบลอรูขุมขน

หลังจากทาครีมกันแดดแล้ว ใครที่อยากได้ลุคงานผิวเรียบเนียน ดูสุขภาพดีแบบเป็นธรรมชาติ อย่าลืมขั้นตอนสำคัญอย่างการลงไพรเมอร์ เพื่อช่วยปรับสภาพผิวก่อนแต่งหน้า ไพรเมอร์มีหน้าที่ช่วยเบลอรูขุมขน เติมเต็มริ้วรอยเล็กๆ และลดความมันส่วนเกิน ช่วยให้รองพื้นเกาะผิวได้ดี คอนซีลเลอร์ไม่ตกร่องระหว่างวัน และยังช่วยให้เมกอัปติดทนนานขึ้น

เลือกใช้ไพรเมอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นสูตรแมตช์สำหรับผิวมัน หรือสูตรเพิ่มความชุ่มชื้นสำหรับผิวแห้ง จากนั้นทาให้ทั่วใบหน้าอย่างบางเบา แล้วรอให้เซตตัวก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการลงเมกอัปเบสในลำดับถัดไป

6. ลงเมกอัปเบสปรับโทนผิว

สำหรับใครที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ ใต้ตาดูโทรม หรือผิวดูเหนื่อยล้าเหมือนพักผ่อนไม่เพียงพอ ก่อนจะลงรองพื้น แนะนำให้ใช้เมกอัปเบสเพื่อเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า เพราะเมกอัปเบสมีคุณสมบัติในการโทนอัพสีผิวให้ดูสว่างขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และปกปิดรอยต่างๆ ที่เกิดจากสิว หรือรอยคล้ำใต้ตาให้ดูจางลง

เมกอัปเบสมีหลายเฉดสีให้เลือกตามปัญหาผิว เช่น สีเขียวที่ปกปิดรอยแดงจากสิวหรืออาการระคายผิว สีเหลืองที่เหมาะสำหรับปกปิดรอยคล้ำและจุดด่างดำ สีชมพูที่ช่วยให้ผิวหมองคล้ำดูสดใส และสีม่วงที่ใช้กลบรอยคล้ำใต้ตาและปรับผิวให้ดูไบรท์ยิ่งขึ้น การใช้เมกอัปเบสสามารถทาให้ทั่วใบหน้าเพื่อปรับโทนผิวโดยรวม หรือแต้มเฉพาะจุดที่ต้องการปกปิด เช่น ใต้ตาหรือรอยสิว เพื่อให้ผิวดูเรียบเนียน สว่าง และมีมิติ พร้อมสำหรับการลงรองพื้นในขั้นตอนต่อไป

7. ลงรองพื้นให้สีผิวสม่ำเสมอ

มาต่อกันที่ขั้นตอนของการลงรองพื้น หากอยากให้ผิวเรียบเนียน เมกอัปติดทน และดูเป็นธรรมชาติ ควรเลือกรองพื้นที่ปกปิดดี คุมมันได้ และถ้าเป็นสูตรกันน้ำ กันเหงื่อจะยิ่งช่วยเพิ่มความทนตลอดวัน ที่สำคัญควรเลือกรองพื้นที่เหมาะกับสภาพผิว เช่น ผิวแห้งควรใช้สูตรเพิ่มความชุ่มชื้น ผิวมันเลือกสูตรคุมมัน ส่วนผิวแพ้ง่ายควรใช้รองพื้นเนื้อบางเบา ไม่อุดตัน

สำหรับวิธีลงรองพื้นให้ติดทน แนะนำให้ใช้พัฟหรือฟองน้ำกดเบาๆ ให้ทั่วใบหน้า เริ่มจากปริมาณน้อย แล้วค่อยๆ เติมเป็นเลเยอร์ในจุดที่ต้องการปกปิด จะช่วยให้ผิวเนียนสวย ไม่เป็นคราบ และได้ลุคที่ดูธรรมชาติ

8. ลงคอนซีลเลอร์ปกปิดรอย

สำหรับใครที่เตรียมผิวก่อนแต่งหน้าแล้วและอยากให้เมกอัปติดทน ผิวเนียนไร้ร่องรอย อย่าลืมขั้นตอนสำคัญอย่างการลงคอนซีลเลอร์ เพราะคอนซีลเลอร์ช่วยปกปิดจุดบกพร่องเฉพาะจุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นรอยสิว จุดด่างดำ รอยคล้ำใต้ตา หรือรอยช้ำต่างๆ ก็สามารถเก็บรายละเอียดให้ผิวดูเรียบเนียนยิ่งขึ้น

เทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยให้คอนซีลเลอร์ปกปิดได้แนบเนียนและติดทน คือการแต้มคอนซีลเลอร์ลงบนจุดที่ต้องการ แล้วปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10-15 วินาที เพื่อให้เนื้อผลิตภัณฑ์เซตตัวกับผิวก่อน จากนั้นใช้แปรงหรือฟองน้ำกดเบาๆ เพื่อเกลี่ยให้เรียบ วิธีนี้จะช่วยให้คอนซีลเลอร์แนบสนิทกับผิว ให้ผลลัพธ์ที่ดูเนียนกลืนและติดทนนานยิ่งขึ้น

9. ทาแป้งเพื่อเก็บรายละเอียด

อีกหนึ่งขั้นตอนเตรียมผิวก่อนแต่งหน้าที่ช่วยล็อกผิวให้เนียนตลอดวันคือการทาแป้ง เพราะแป้งจะช่วยเซตทุกอย่างที่เตรียมมาให้อยู่กับที่ พร้อมเก็บรายละเอียดสุดท้ายให้ผิวดูแมตช์หรือโกลว์ตามต้องการ และช่วยลดความมันส่วนเกินระหว่างวันได้ด้วย

สำหรับวิธีการทาแป้งให้ได้ผิวสวยแบบมือโปร แนะนำให้เลือกแป้งที่เหมาะกับสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นแป้งฝุ่นสำหรับผิวมัน หรือแป้งผสมรองพื้นสำหรับคนที่ต้องการการปกปิดเพิ่ม จากนั้นใช้พัฟหรือแปรงแตะแป้งในปริมาณน้อย แล้วค่อยๆ กดหรือปัดเบาๆ ลงบนผิว โดยเน้นบริเวณทีโซน ใต้ตา และจุดที่มีแนวโน้มความมัน เพื่อไม่ให้เมกอัปเป็นคราบหรือหลุดง่าย

สรุป

การเตรียมผิวหน้าก่อนแต่งหน้าเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้เมกอัปติดทน เรียบเนียน และยังช่วยปกป้องผิวในระหว่างวัน เริ่มจากทำความสะอาดผิวด้วยคลีนซิ่งและเจลล้างหน้าอย่างอ่อนโยน ตามด้วยโทนเนอร์เพื่อปรับสมดุลผิว แล้วจึงลงพรีเซรั่มและเซรั่มเพื่อบำรุงอย่างล้ำลึก เติมเต็มความชุ่มชื้นด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ และปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยครีมกันแดด

เมื่อผิวได้รับการบำรุงครบถ้วนและสกินแคร์ซึมซาบดีแล้ว จึงเริ่มขั้นตอนการแต่งหน้าด้วยไพรเมอร์เพื่อปรับสภาพผิว ตามด้วยรองพื้น คอนซีลเลอร์ และแป้ง เพื่อช่วยเก็บรายละเอียดและล็อกเมกอัปให้ติดทนนานตลอดวัน พร้อมเผยลุคผิวสวยสมบูรณ์แบบอย่างเป็นธรรมชาติ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า (FAQ)

การเตรียมผิวเป็นขั้นตอนสำคัญที่มีหลากหลายวิธี ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่าจะเริ่มต้นอย่างไร เลือกใช้ผลิตภัณฑ์แบบไหน หรือดูแลผิวให้เหมาะสมที่สุดได้อย่างไร เราได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า พร้อมคำตอบที่จะช่วยไขข้อข้องใจ เพื่อให้คุณมีผิวที่สมบูรณ์แบบสำหรับการแต่งหน้าในทุกๆ วัน

ขั้นตอนพื้นฐานสำหรับเตรียมผิวก่อนแต่งหน้ามีอะไรบ้าง

ขั้นตอนพื้นฐานของการเตรียมผิวที่แนะนำ ได้แก่

• ทำความสะอาดผิวหน้า ล้างหน้าให้สะอาดหมดจด เพื่อขจัดความมันส่วนเกินและสิ่งสกปรก
• ปรับสภาพผิวด้วยโทนเนอร์ ปรับสมดุลค่า pH ของผิว และช่วยกระชับรูขุมขน
• บำรุงผิวด้วยเซรั่มหรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เติมความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มฟู และกักเก็บความชุ่มชื้นไว้
• ทาครีมกันแดด ปกป้องผิวจากรังสียูวี ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาผิวต่างๆ

เลือกผลิตภัณฑ์เตรียมผิวก่อนแต่งหน้าอย่างไรให้เหมาะสมกับผิว?

สำหรับผิวมัน ควรเน้นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยควบคุมความมัน กระชับรูขุมขน และมีเนื้อสัมผัสบางเบา ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ส่วนผิวแห้ง ให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นสูง มีส่วนผสมของไฮยาลูรอน เซราไมด์ หรือเชียบัตเตอร์ เพื่อเสริมเกราะป้องกันผิว ขณะที่ผิวแพ้ง่าย ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน และสารเคมีรุนแรง

ถ้าไม่มีเวลาเตรียมผิวก่อนแต่งหน้าหลายขั้นตอน ควรทำอย่างไร?

หากมีเวลาน้อย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำความสะอาดผิวให้ดี และตามด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นเพียงพอ หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่รวมคุณสมบัติหลายอย่างไว้ในหนึ่งเดียว เช่น มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของกันแดด เพื่อประหยัดเวลาแต่ยังคงดูแลผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ