เซรั่ม (Serum) เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่ใช้แล้วเห็นผลชัดเจนที่สุด ด้วยเนื้อโมเลกุลขนาดเล็กที่ทำให้ซุมเข้าสู่ผิวได้ง่าย ไม่ทิ้งคราบอุดตันไว้บนใบหน้า เซรั่มคืออะไร ทำไมต้องใช้เซรั่มบำรุงผิวหน้า วิธีเลือกเซรั่มให้เหมาะกับสภาพผิว วิธีทาเซรั่มให้ได้ผลดีที่สุดทำอย่างไร มาหาคำตอบกันเลย

เซรั่ม (Serum)

หนึ่งในขั้นตอนสำคัญของการทาสกินแคร์ หลังจากการล้างหน้าให้สะอาดและเตรียมผิวให้พร้อมด้วยโทนเนอร์แล้วคือการลงเซรั่ม เป็นสกินแคร์หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่เรียกว่าขาดไม่ได้

เซรั่มเองก็มีหลากหลายแบบให้เลือกซื้อ มีสูตรที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละผู้ใช้ ความเข้มข้นของเซรั่มที่แตกต่างกันไป และการศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์เพื่อเลือกซื้อเซรั่มที่ตอบโจทย์สภาพผิวจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

เซรั่ม (Serum) หรือซีรั่ม คือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก มีเนื้อที่ค่อนข้างเหลวและบางเบากว่าครีม โดยมีสี ความขุ่น ความเหนอะ และความเหลวแตกต่างกันไปตามสูตรและส่วนผสมของเซรั่ม เช่น เซรั่มหน้าใส เซรั่มลดรอยสิว เซรั่มลดริ้วรอย แต่โดยส่วนมากแล้วสามารถซึมเข้าผิวได้โดยง่ายเพราะเนื้อเบาบาง ไม่ค่อยเกิดการอุดตัน ทำให้มีโอกาสเกิดสิวผด สิวเสี้ยนและสิวอุดตันได้น้อย เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่ช่วยบำรุงและแก้ไขปัญหาเฉพาะจุด

หลายคนอาจสงสัยว่าเซรั่มทาตอนไหน การลงเซรั่ม ควรทาหลังขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้า เช่น การใช้คลีนซิ่ง เจลล้างหน้า เพื่อให้ผิวหน้าสะอาดพร้อมรับสกินแคร์ ไม่เกิดการอุดตันจากสิ่งตกค้าง และสามารถลงโทนเนอร์ก่อนใช้เซรั่มได้เพื่อเป็นการเตรียมผิวให้มีความชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวพร้อมเปิดรับเซรั่มบำรุงผิวได้มากขึ้น

สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวไม่สมดุล ผิวแห้งลอกเป็นขุย ผิวบอบบางแพ้ง่าย เซรั่ม Bioderma จะช่วยมอบความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเข้มข้น พร้อมกักเก็บน้ำเพื่อคงความชุ่มชื้นให้ผิวดูมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

เซรั่ม เพิ่มความชุ่มชื้นบนผิวหน้าที่ดีที่สุด

เซรั่ม Bioderma Hydrabio Serum

เซรั่ม หน้าใส

เซรั่ม Bioderma Hydrabio Serum เป็นซีรั่มไฮยาลูรอน ช่วยเติมน้ำให้ผิวพร้อมกักเก็บความชุ่มชื้น ด้วยส่วนผสมจาก กรด Hyaluronic, Glycerine และ Xylitol ทำให้เซรั่มตัวนี้มอบความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเข้มข้น พร้อมกักเก็บน้ำเพื่อคงความชุ่มชื้นให้ผิวดูมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

เหมาะกับ: ผิวแห้งแพ้ง่าย ผิวขาดน้ำ

ปริมาณ: 40 ml

ราคา: 1,390 บาท

พิกัด: ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป

เซรั่มบำรุงผิวหน้าจะมีเนื้อสัมผัสที่บางเบากว่าครีมบำรุงผิวหน้าประเภทอื่นๆ ทำให้เนื้อเซรั่มสามารถซึมซับเข้าสู่ผิวได้ล้ำลึกกว่า เหมาะสำหรับการดูแลปัญหาผิว เนื่องจากเนื้อเซรั่มที่บางเบา ส่งผลให้เนื้อเซรั่มซึมสู่ผิวหน้าได้เร็วกว่า ซึมเข้าตรงจุดที่ต้องการฟื้นฟูบำรุงผิวหน้า เหตุผลที่ควรใช้เซรั่มบำรุงผิวหน้า มีดังนี้

1. มีเนื้อครีมที่บางเบา

เนื้อครีมของเซรั่มจะบางเบากว่าครีมชนิดอื่นๆ ทำให้เมื่อทาลงไปบนผิวหน้าแล้วไม่เคลือบผิว ไม่เหนอะหนะ ตัวเนื้อเซรั่มจะสามารถซึมเข้าสู่ชั้นผิวหน้าของเราได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเข้าไปฟื้นฟูจุดที่หม่นหมอง

2. เพิ่มความสว่างให้ผิวที่หมองคล้ำ

ซีรั่มมีส่วนช่วยในการปรับผิวให้ดูสว่างสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เนื่องจากคุณสมบัติที่ช่วยเข้าไปกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ ผลัดเซล์ผิวเก่าที่หมองคล้ำออกไป ทำให้ผิวหน้าของเรากระจ่างใสมากยิ่งขึ้น

3. เพิ่มความเต่งตึงให้ผิว

ผิวหน้าของเราเมื่อมีอายุมากขึ้น ความชุ่มชื้นของผิวจะยิ่งลดน้อยลง การสูญเสียความชุ่นชื้นนี้ทำให้ผิวหน้าหย่อนคล้าย โดยเฉพาะในบริเวณโหนกแก้มและใต้ตา การใช้เซรั่มบำรุงบริเวณดังกล่าว จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น แก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยลงไปได้

4. ลดการเกิดสิว

ด้วนเนื้อครีมที่บางเบาของเซรั่ม ทำให้สามารถซึมซับเข้าสู่ผิวได้ง่าย ไม่ทิ้งตัวเนื้อครีมให้เหนอะหนะไว้ที่ผิว ทำให้ผิวไม่อุดตัน ลดสาเหตุการเกิดของสิวได้เป็นอย่างดี เซรั่มโดยทั่วไปยังมีส่วนผสมของ กรดซาลิไซลิก เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ และส่วนผสมอื่นๆ ที่ช่วยบรรเทาการเกิดสิวอีกด้วย

แนะนำเซรั่ม Bioderma Hydrabio Serum ผิวอิ่มน้ำจากภายใน ช่วยเติมน้ำให้ผิวพร้อมกักเก็บความชุ่มชื้น ปรับสมดุลให้กับผิวช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี การที่ผิวสุขภาพดี ผิวที่สมดุลจะช่วยลดปัญหาผิวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสิว แห้งลอก หรือผิวแดงที่เกิดจากการแพ้ ซึ่งเซรั่ม Bioderma นอกจากจะช่วยให้ผิวสุขภาพดีแล้วยังทำให้ผิวนุ่ม ผิวดูเปล่งปลั่ง

เซรั่ม ลดรอยสิว

เซรั่มช่วยบำรุงผิวหน้าอย่างไร

ส่วนผสมของเซรั่มจะมี Active ingredients หรือสารออกฤทธิ์ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเกิดริ้วรอย ช่วยบูสต์ผิวให้แข็งแรงและชุ่มชื้น ซึ่งเซรั่มจะมีส่วนประกอบของสารดังกล่าวมากกว่าผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประเภทอื่น รวมถึงวิตามินและสารบำรุงที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูสภาพผิวให้สมบูรณ์แข็งแรงถึงภายในไม่ใช่แค่เคลือบผิวอยู่เพียงภายนอกเท่านั้น

ด้วยเนื้อเซรั่มที่มีความเหลวและเบาบางสามารถมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสกินแคร์ตัวอื่น และทำให้เนื้อซึมซับเข้าสู่ชั้นผิวได้ง่าย ไม่เคลือบอยู่แค่บนผิวเท่านั้น ทาแล้วไม่จำเป็นต้องล้างออก

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวประเภทเซรั่มมักมีหลายสูตรให้เลือกใช้ จึงเป็นการบำรุงและแก้ไขปัญหาผิวที่ตรงจุด และเต็มไปด้วยประสิทธิภาพจากส่วนผสมที่มีความเข้มข้น เหมาะสำหรับการใช้ทั้งกลางวันและกลางคืนเนื่องจากมีความบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกหนักผิว

แนะนำการเลือกเซรั่มให้เหมาะกับแต่ละสภาพผิว

การเลือกซื้อเซรั่มทาผิวหน้าอาจเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นใช้สกินแคร์เนื่องจากเซรั่มที่วางขายในท้องตลาดก็มีหลากหลายสูตรให้เลือกใช้กัน การเลือกเซรั่มตามสภาพผิว หรือการเลือกเซรั่มที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวจึงเป็นวิธีที่หลายคนแนะนำ

 

เลือกเซรั่มตามสภาพผิว

  • สำหรับผิวแห้ง ควรใช้เซรั่มที่เน้นเรื่องความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ เช่นเซรั่มที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) เพื่อเติมน้ำและความชุ่มชื้นให้กับผิวโดยเฉพาะ ไม่ทำให้ผิวแห้งกร้าน
  • สำหรับผิวผสมหรือผิวมัน หากหน้ามัน ควรใช้เซรั่มที่มีเนื้อบางเบาหรือค่อนไปทางเหลวเพื่อให้ซึมซับเข้าผิวได้ง่าย เซรั่มที่เนื้อบางเบาสามารถทำงานกับน้ำมันธรรมชาติบนผิวได้โดยไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน มักมีส่วนผสมของทีทรีออยล์ (Tea Tree Oil) และกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ที่มีส่วนช่วยในการฆ่าแบคทีเรีย ลดการอักเสบในรูขุมขน และยังช่วยลดปริมาณน้ำมันส่วนเกินบนผิว ลดแนวโน้มการเกิดสิวในอนาคตอีกด้วย
  • สำหรับผิวบอบบางหรือผิวแพ้ง่าย ควรใช้เซรั่มที่เน้นการบำรุงให้ผิวแข็งแรง อย่างเซรั่มที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ (Ceramide) ช่วยปกป้องผิวจากสิ่งสกปรกภายนอก และช่วยเติมน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นพร้อมทำให้ผิวแข็งแรงมากขึ้นด้วย

ข้อควรระวังในการเลือกเซรั่ม คือ ผู้ที่มีผิวแห้งและผิวบอบบาง แพ้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงเซรั่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เนื่องจากอาจระคายผิวและทำให้ผิวแห้งและบางกว่าเดิมได้ และเซรั่มผู้ชายอาจมีสูตรที่ดูแลเรื่องน้ำมันในผิวมากกว่า จำเป็นต้องดูรายละเอียดของเซรั่มแต่ละตัวด้วย

 

เลือกเซรั่มที่ตอบโจทย์ปัญหาผิว

นอกจากสภาพผิวแล้ว สามารถเลือกเซรั่มที่เจาะจงการดูแลผิวแบบเฉพาะมากขึ้นไปอีกได้ตามประเภทของเซรั่ม โดยเซรั่มที่เห็นได้ทั่วไปมักแบ่งประเภทได้ดังนี้

  • เซรั่มช่วยกระชับรูขุมขน (Pore Tightening Serum) ช่วยดูแลเรื่องผิวหน้าที่รูขุมขนกว้างโดยเฉพาะ ช่วยดูแลผิวให้รูขุมขนกระชับ ลดรูขุมขน ทำให้มีสิ่งสกปรกตกค้างในรูขุมขนได้ยากขึ้น และช่วยให้เครื่องสำอางติดทนมากขึ้น ไม่ตกร่องด้วย

  • เซรั่มช่วยป้องกันสิวและลดรอยดำจากสิว (Anti-Acne Serum) ช่วยดูแลเรื่องผิวเป็นสิวโดยเฉพาะ ลดสิว รักษาสิว และเซรั่มบางตัวอาจมีระบุเรื่องการลดรอยดำ ลดรอยแดง ช่วยเรื่องความกระจ่างใส เพื่อดูแลผิวจากรอยสิว

  • เซรั่มช่วยลดริ้วรอย (Anti-Aging Serum) หรือ Anti-Wrinkle Serum ช่วยลดริ้วรอยทั้งที่เกิดจากสภาพผิวที่อ่อนแอไม่เต่งตึง และผิวที่กำลังเสื่อมสภาพตามวัยด้วย

  • เซรั่มช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลบเลือนจุดด่างดำ (Skin-Brightening Serum) ช่วยดูแลให้ผิวกระจ่างใส ลดปัญหาหน้าหมองคล้ำ ทำให้ผิวดูสุขภาพดี อิ่มน้ำ ไม่โทรม

  • เซรั่มช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นรักษาผิวแห้งจากภายใน (Hydrating Serum) ช่วยให้ผิวไม่แห้ง และไม่ทำให้ผิวมัน เนื่องจากเป็นเซรั่มที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และผิวที่อิ่มน้ำจะช่วยสร้างสมดุลระหว่างน้ำและน้ำมันธรรมชาติในผิว ทำให้ผิวหน้าสุขภาพแข็งแรง ลดโอกาสการเกิดการผลิตน้ำมันส่วนเกินของผิว

  • เซรั่มช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวแบบองค์รวม (Renewing Serum) ช่วยดูแลผิวโดยภาพรวม อาจมีเนื้อเซรั่มที่เข้มข้นกว่าเซรั่มชนิดอื่น และมีราคาที่สูงกว่า เหมาะกับผู้ที่ต้องการการฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วนในทุกด้าน

  • เซรั่มช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว (Exfoliating Serum) ช่วยในการผลักเซลล์ผิวที่ตายแล้ว อาจมีส่วนผสมของ AHA-BHA ซึ่งเป็นสารที่ช่วยในการขัดผิวอย่างอ่อนโยน มักมีคำแนะนำในการใช้ต่อสัปดาห์ ไม่ควรใช้ติดกันทุกวัน

นอกจากการเลือกเซรั่มตามสภาพผิวและปัญหาของผู้ใช้แล้ว ควรเลือกจากส่วนผสมที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือการแพ้ในแต่ละบุคคลอีกด้วย

สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ขาดน้ำ และไม่แน่ใจว่าควรใช้เซรั่มแบบไหนดี สามารถเลือกใช้ Bioderma Hydrabio Serum ได้ เป็นเซรั่มบำรุงผิวหน้า ฟื้นฟูความชุ่มชื้นให้ผิวถึงระดับผิวชั้นใน เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยไฮยาลูรอนและกลีเซอรีน ผิวที่อิ่มน้ำมีแนวโน้มเกิดปัญหาสิวอื่นๆได้น้อยลง และช่วยชะลอการเสื่อมสภาพตามวัยได้อีกด้วย เป็นเซรั่มแนะนำที่หลายคนใช้แล้วเห็นผลที่ดีกับผิว ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าได้ดี ที่สำคัญไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวแพ้ง่าย อย่างแอลกอฮอล์ และพาราเบน

 

เคล็ดลับทาเซรั่มให้ซึมสู่ผิว เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า

  1. ทาเซรั่มหลังการทำความสะอาดผิว เพื่อการซึมซับที่ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่เกิดการอุดตันจากสิ่งตกค้างบนผิวหน้า
  2. ทาเซรั่มในขณะที่ผิวยังมีความหมาด เช่น หลังล้างหน้าหรืออาบน้ำเสร็จ ไม่จำเป็นต้องเช็ดหน้าให้แห้งสนิท เพียงซับให้หมาด หรือใช้โทนเนอร์เพื่อให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื้น และลงเซรั่ม ตามด้วยสกินแคร์ตัวอื่นได้ตามปกติ
  3. ใช้เซรั่มในปริมาณที่จำเป็น อาจใช้เพียง 2-3 หยดหรือในปริมาณที่เหมาะสม และเกลี่ยให้ทั่วผิว ไม่จำเป็นต้องใช้เซรั่มในปริมาณมาก อาจเกิดคราบหรือการอุดตันได้
  4. สามารถใช้ผลิตภัณฑ์อื่นหลังทาเซรั่มได้ทันที หากเซรั่มที่ใช้มีเนื้อที่เหลวและบางเบา สามารถลงผลิตภัณฑ์ตัวอื่นต่อได้เพื่อช่วยให้ซึมเข้าผิวได้อย่างท่วงที หรือหากเนื้อเซรั่มมีความข้นแล้ว อาจใช้นิ้วกดเซรั่มเบาๆให้ทั่วหน้าเพื่อช่วยให้ซึมเข้าผิวได้รวดเร็วยิ่งขึ้น หรือเว้นช่วง 5 นาทีก่อนทาผลิตภัณฑ์ตัวถัดไป

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการเลือกเซรั่มให้เข้ากับผิวและการทาเซรั่มอย่างถูกวิธีจะสำคัญ แต่การใช้เซรั่มให้เป็นประจำสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นวินัยในการทาสกินแคร์จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั่นเอง

BIODERMA Hydrabio Sérum เซรั่มเข้มข้น ให้ความชุ่มชื้น ทันทีและยาวนาน

เซรั่ม

ผิวแพ้ง่ายขาดน้ำ

สิทธิบัตร Aquagenium™

Hydrabio Sérum

เซรั่มเข้มข้น ให้ความชุ่มชื้น ทันทีและยาวนาน

สำหรับใคร

ผู้ใหญ่, วัยรุ่น

Bioderma Sensibio Defensive SerumBIODERMA Sensibio Defensive Serum เซรั่มบำรุงเข้มข้น

เซรั่ม

ผิวบอบบางและแพ้ง่าย

เทคโนโลยีดีเฟนซีฟ

Sensibio Defensive Serum

เซรั่มบำรุงเข้มข้น เพื่อผิวสตรอง ปกป้องทุกมลภาวะ

สำหรับใคร

ผู้ใหญ่, วัยรุ่น