แสงแดดในช่วงเวลากลางวัน นอกจากจะช่วยในการสังเคราะห์แสงเป็นประโยชน์ต่อพืชแล้ว แสงแดดยังมีการเสริมสร้างวิตามินดี (Vitamin D)ในร่างกาย ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นในการใช้ชีวิตอีกด้วย การออกนอกบ้านบ้างเพื่อให้ร่างกายได้รับแสงแดดในปริมาณที่จำเป็นเพื่อสังเคราะห์วิตามินดีจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น ในช่วงเวลาที่พอดี ไม่ต้องกังวลเรื่องโรคทางผิวหนัง

  • ร่างกายมีแหล่งรับวิตามินดีอยู่ 2 แหล่งหลักๆ
    อาหาร
    อาหารบางประเภทมักอุดมไปด้วยวิตามินดี เช่น ปลาบางประเภท อย่างปลาแซลมอน ปลาทูน่า และอาหารบางชนิดที่มีการเสริมวิตามินดีเข้าไปด้วย เช่น นม น้ำส้ม หรือว่าซีเรียลธัญพืชที่ใส่วิตามินดีเสริม
  • แสงแดด
    การออกไปเจอ แสงแดด อ่อนๆในช่วงเช้าอย่างน้อย 15 นาทีทุกวัน จะช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามินดี3 จากรังสี UVB ในแสงอาทิตย์ซึ่งเป็นรังสีที่มีช่วงคลื่นค่อนข้างสั้น รังสียูวีบีจะตกกระทบที่ผิวหนังชั้นนอกสุด หรือที่เรียกว่าชั้นหนังกำพร้า เป็นผิวที่สังเคราะห์วิตามินดี
วิตามินดีจากแสงแดด มีประโยชน์ต่อร่างกาย

ในแสงแดดจะมี รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) หรือที่เรียกว่า อัลตราไวโอเลต (Ultraviolet Light) แบ่งได้เป็นรังสี ยูวีเอ ยูวีบี (UVA UVB) และยูวีซี (UVC) โดยแสงแดดจากดวงอาทิตย์จะช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์คอเลสเตอรอลเป็นวิตามินดีสะสมไว้ที่ตับเพื่อนำออกมาใช้ในการละลายไขมัน มีผลในการบำรุงกระดูก ควบคุมระดับแคลเซียม

การอยู่ภายในตัวอาคาร เช่น ตัวบ้าน ห้องออฟฟิศ ใส่เสื้อแขนยาว กางร่ม เพื่อป้องกันและหลีกเลี่ยงแสงแดด อาจทำให้ร่างกายได้รับแสงแดดไม่เพียงพอสำหรับการสังเคราะห์วิตามินดีในปริมาณที่ต้องการ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ควรเดินออกกำลังกายในเวลาเช้าที่แสงแดดยังอ่อนเพื่อเป็นการออกกำลังกาย และความสามารถการดูดซึมวิตามินดีจากอาหารจะลดลงตามวัย ทำให้ผู้สูงอายุเสี่ยงต่อการขาดวิตามินดีมากกว่าบุคคลในช่วงอายุอื่นได้

หากมีวิตามินดีต่ำ จะส่งผลอย่างไรต่อร่างกาย

วิตามินดีมีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ร่างกายใช้ในการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน หากร่างกายขาดวิตามินดีหรือได้รับวิตามินดีในปริมาณที่ไม่เพียงพอ จะส่งผลต่อกระดูกค่อนข้างมาก อาจทำให้เกิดภาวะกระดูกเปราะบาง โรคกระดูกพรุน กระดูกผิดรูปหรือแตกหักได้ง่ายเนื่องจากมีความผุกร่อน ทำให้เคลื่อนไหวและใช้ชีวิตได้ยาก

การตากแดดอ่อนๆในแต่ละวันเพื่อให้ร่างกายได้รับแสงแดดที่จำเป็นต่อการสังเคราะห์วิตามินดีในปริมาณที่เพียงพอจึงเป็นเรื่องสำคัญ สลับกับการบริโภคอาหารที่มีวิตามินดีสูง เช่น ไข่แดง ตับ ผักใบเขียว อย่างไรก็ตามหากสามารถรับแสงแดดได้ จะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินดีมากกว่าเนื่องจากวิตามินที่อยู่ในอาหารจะมีปริมาณที่ค่อนข้างน้อยมาก

  • ช่วยสังเคราะห์วิตามินดี
  • วิตามินดีมีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียมของร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อการเสริมสร้างความแข็งแรงสมบูรณ์ของกระดูก
  • ช่วยปรับนาฬิกาของร่างกาย ให้ร่างกายตื่นตัว มีความกระตือรือร้น
วิตามินดีจากแสงแดด มีประโยชน์มาก

ปริมาณวิตามินดีที่เหมาะสมในแต่ละวัน

ปริมาณวิตามินดีที่ได้รับสามารถวัดได้ด้วยหน่วย I.U. (International Unit) ซึ่งเป็นหน่วยใช้โดยสากลเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพสารออกฤทธิ์ต่างๆในร่างกาย เช่น วิตามิน ซึ่งวิตามินแต่ละประเภทจะมีปริมาณสารออกฤทธิ์ที่ไม่เท่ากัน

ในส่วนของปริมาณวิตามินดีที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวันจะไม่เท่ากันสำหรับแต่ละช่วงอายุ

  • สำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 12 เดือน ควรได้รับวิตามินดีวันละ 400 IU หรือประมาณ 10 ไมโครกรัม
  • สำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 70 ปี ควรได้รับวิตามินดีวันละ 600 IU หรือประมาณ 15 ไมโครกรัม
  • สำหรับผู้ที่อายุมากกว่า 70 ปี ควรได้รับวิตามินดีวันละ 800 IU หรือประมาณ 20 ไมโครกรัม

แล้วเราควรรับวิตามินจากแสงแดดกี่โมงถึงจะดีที่สุด

แล้ววิตามินจากแสงแดดตอนเช้าหมายถึงกี่โมง แสงแดดที่ร่างกายควรได้รับเพื่อสังเคราะห์วิตามินดีควรเป็นแสงแดดอ่อนๆในช่วงเวลายามเช้า 06:00-09:00 หรือช่วงเวลาเย็นประมาณ 16:00 เป็นต้นไป อาจออกไปเดินเล่นในเสื้อแขนสั้นเพื่อรับแสงแดด 15-20 นาทีเพื่อให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามินจากแสงแดด นอกจากการเดินยังเป็นการออกกำลังกายแล้ว ยังได้วิตามินที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม ป้องกันอาการเสื่อมของกระดูก อย่างโรคกระดูกพรุน เสริมสร้างให้กระดูกมีความแข็งแรงและลดแนวโน้มการผุพังได้ดีขึ้น

แต่อย่าตากแดดมากไปนะ อันตรายกว่าที่คิด!

การตากแดดในระยะเวลาที่ระบุจะช่วยให้ร่างกายได้รับแสงแดดอ่อนๆ เพราะแสงแดดในช่วงเวลาอื่น เช่น เที่ยงหรือบ่ายโมง เป็นช่วงที่แดดร้อนจัด อาจทำให้เกิดโทษกับร่างกายมากกว่าเกิดประโยชน์ได้

  • ผิวไหม้แดด (Sunburn)
    การโดนแดดแรง หรือแดดช่วงที่รังสียูวีค่อนข้างเข้มข้น อาจทำร้ายผิวส่งผลให้ หน้าหมองคล้ำ ผิวคล้ำ ผิวแดง แสบ และลอกในที่สุด ผิวจะแสบร้อนและลอกเป็นขุย ในบางกรณีอาจมีอาการผิวบวมพองน้ำ หากรุนแรงมากสามารถส่งผลให้รู้สึกคลื่นไส้อาเจียนได้เลย
  • ผิวแห้ง ผิวเป็น ฝ้า กระ เป็นจุด
    ผิวที่โดนแดดแรงเป็นระยะเวลานานติดกัน นอกจากแสบร้อนและลอก อาจทำให้ผิวเริ่มมีอาการ หน้าเป็นฝ้า เกิด ฝ้าแดด ฝ้ากระจุดด่างดำ ทำให้ผิวแห้งและเสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นอีกด้วย
  • แนวโน้มการเกิดโรคผิวหนัง
    นอกจากการเกิด ฝ้ากระ จุดด่างดำแล้ว หากโดนแดดแรงๆอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดโรคทางผิวหนังเช่น มะเร็งผิวหนัง ซึ่งมะเร็งผิวหนังมีหลายแบบและมีความรุนแรงแตกต่างกัน การรับแดดที่มีรังสียูวีเข้มข้นอาจทำลายภูมิคุ้มกันในผิวและก่อให้เกิดมะเร็งในเวลาต่อมาได้
  • แนวโน้มการเกิดโรคที่เกี่ยวกับดวงตา
    แสงแดดที่แรงสามารถทำร้ายเรติน่า เลนส์แก้วตา และกระจกตาได้ ส่งผลให้ตาฝ้าฟาง ตามัว เป็นต้อกระจก ต้อลม

แต่สำหรับใครที่เลี่ยงการตากแดดไม่ได้ เรามีวิธี

สำหรับผู้ที่หลีกเลี่ยงแสงแดดได้ยาก จำเป็นต้องโดนแดดแรงเป็นระยะเวลานาน สามารถป้องกันผิวหนังถูกทำลายได้ด้วยการ

  • ใส่เสื้อแขนยาวที่มีเนื้อผ้าค่อนข้างหนาเพื่อป้องกันแสงแดด
  • สวมหมวกที่มีปีกกว้าง สามารถบังแสงแดดได้
  • สวมแว่นกันแดด ป้องกันอันตรายที่เกิดกับดวงตา
  • พกร่ม กางร่มเมื่อต้องเจอแดดแรงๆ
  • ทาครีมกันแดดในบริเวณที่เสื้อผ้าไม่ครอบคลุมหรือครอบคลุมได้น้อยเพราะเนื้อผ้าค่อนข้างบาง โดยครีมกันแดดที่แนะนำสำหรับประเทศไทยจะเป็นครีมกันแดดที่มีค่า SPF คือ อย่างน้อย 30-50 เพื่อป้องกันแสงแดดที่มีรังสีค่อนข้างเข้มข้น และ pa คือ ที่เหมาะสม ใส่ใจครีมกันแดดสำหรับผิวหน้ามากเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นผิวบอบบาง
  • แนะนำครีมกันแดด Bioderma Photoderm Aquafluide SPF50+ เป็นกันแดดเนื้อบางเบาแต่มี SPF ถึง 50 สามารถป้องกันรังสีได้ทั้งยูวีเอและยูวีบี

Bioderma Photoderm Max Aquafluide

  • หรือครีมกันแดด Bioderma Photoderm Cover Touch SPF50+ ซึ่งเป็นกันแดดสีเนื้อ SPF50+เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการปกปิด โดยมีสูตรที่พัฒนาด้วยนวัตกรรมเฉพาะของไบโอเดอร์มาซึ่งช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกันของผิว ปกป้องจุดด่างดำจากแดด

Bioderma Photoderm Cover Touch SPF 50+

สรุป

วิตามินดีมีความจำเป็นต่อร่างกายในการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูก โดยเราสามารถรับวิตามินดีได้จากการบริโภคอาหาร แต่วิธีการที่มีประสิทธิภาพมากกว่าและทำให้ได้รับวิตามินดีจากแสงแดดอย่างเต็มเปี่ยมคือการออกไปรับแสงแดดอ่อนๆในช่วงเช้าตรู่ หรือเวลาเย็นที่แดดไม่แรงมากนัก เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินดีที่พอดีและเหมาะสมสำหรับการสังเคราะห์วิตามิน และลดความเสี่ยงต่อการทำร้ายผิวเนื่องจากโดนแดดที่แรงมากเกินไป

อย่างไรก็ตาม การทาครีมกันแดดก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อเป็นการดูแลผิวจากรังสีที่สามารถทำร้ายผิวหนังได้ โดยร่างกายยังสามารถสังเคราะห์วิตามินดีได้ตามปกติแม้ว่าจะมีครีมกันแดด ดังนั้นควรทาก่อนออกแดดเสมอเพื่อเป็นการดูแลรักษาผิวไม่ให้โดนทำร้าย และเป็นการดูแลร่างกายเพื่อให้รับวิตามินดีในปริมาณที่เหมาะสมด้วย

Bioderma ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโฟโตเดิร์ม

ปกป้องผิวจากแสงแดด

ผิวแพ้ง่ายที่ต้องเผชิญกับแสงแดด

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโฟโตเดิร์ม (Photoderm)

Bioderma ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโฟโตเดิร์ม

คุณกำลังมองหาครีมกันแดดประสิทธิภาพสูงสำหรับผิวของคุณอยู่หรือเปล่า

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโฟโตเดิร์ม (Photoderm) คือผลิตภัณฑ์กันแดดครบวงจรสำหรับทุกสภาพผิวรวมถึงผิวที่มีความไวต่อแสงแดด  โดยมีทั้งผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดสำหรับผิวที่ไวต่อสิ่งกระตุ้นอย่างแสงแดดหรือสารเคมีผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย และผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดสำหรับผิวมันถึงผิวเป็นสิวง่ายโดยเฉพาะ