ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวบางชนิดมีส่วนประกอบที่รุนแรง กัดผิวหน้าให้ผิวบางลง แม้ส่วนผสมเหล่านี้จะทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นในช่วงแรก แต่นานวันไปผิวจะยิ่งบาง ระคายเคืองง่าย ทำให้เพียงโดนแสงแดดเพียงเล็กน้อย ก็จะทำให้ผิวคล้ำเสียง่ายขึ้น เพราะปราการผิวเสื่อมลง มากไปกว่านั้นอาจจะทำลายเซลล์ผิวในชั้นที่ลึกขึ้น เกิดเป็นฝ้า กระ จุดด่างดำได้นั่นเอง เพื่อไม่ให้ผิวสุขภาพแย่ลงกว่าเดิมและสายเกินแก้ ควรรีบมาดูแลผิวตามวิธีแก้หน้าบางกัน

 

บทความที่เกี่ยวข้อง : แสงแดด

ผิวบาง (Thin Skin) คืออะไร 

ผิวบาง (Thin skin) เป็นลักษณะผิวบาง เห็นเส้นเลือดง่ายกว่าผิวอื่น ๆ ทั่วไป จากการขาดความชุ่มชื้น น้ำมัน (Sebum) เคลือบผิวน้อย ทำให้ผิวบางระคายเคืองต่อสภาพแวดล้อมง่าย ๆ จนอาจจะนำมาซึ่งปัญหาผิวอื่น ๆ ร่วมถึงอาจจะทำให้ผู้ประสบปัญหาอยู่ อาจจะเสียงความมั่นใจจากผิวบางจนสามารถเห็นเส้นเลือดได้ชัดเจน

ผิวบาง ผิวแตกมักจะพบในบางบริเวณของร่างกาย เช่น บริเวณรอบดวงตาจะมีความหนาของผิวเพียง 0.5 มิลลิเมตร แต่ในขณะที่บริเวณส้นเท้ากลับมีความหนาถึง 4 มิลลิเมตร 

โดยโครงสร้างผิวปกติแล้วจะแบ่งออกเป็น 3 ชั้น ดังนี้

  • ใต้ชั้นหนังแท้ (Hypodermis) ผิวชั้นในสุดที่ประกอบด้วยเนื้อเยื่อ ไขมัน และต่อมเหงื่อ
  • ชั้นหนังแท้ (Dermis) ผิวชั้นที่อยู่เหนือถัดขึ้นมา เป็นชั้นที่เต็มไปด้วยเส้นประสาท และเส้นเลือด
  • ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) ชั้นผิวบนสุด เป็นชั้นผิวที่เป็นเกราะป้องกันสิ่งสกปรกและแบคทีเรีย

ซึ่งผิวในบางบริเวณที่เป็นผิวบางจะมีชั้นผิวหนังกำพร้าบางกว่าปกติ ส่วนชั้นใต้หนังแท้มีชั้นไขมันน้อย ทำให้ผิวชั้นนั้นก็บางลงเช่นกัน 

ใครที่มีผิวบางนั้น ผิวอาจจะบางจนสามารถเห็นเส้นเลือด กระดูก หรือเส้นเอ็นได้ชัดเจนขึ้น เพราะมีการเสียไขมันในชั้นใต้ผิวหนังแท้ทำให้ผิวเสียความอิ่มฟูลงไป ทำให้ผิวดูบางลงนั่นเอง ผิวบางนั้นทำให้ผิวได้รับผลกระทบจากสิ่งต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ เช่น ทำให้ผิวบาง ระคายแพ้ง่าย ทำให้ผิวบางไวต่อแดด ส่งผลให้ผิวไหม้แดด หมอง คล้ำ หรือเกิดฝ้ากระขึ้น

 

บทความที่เกี่ยวข้อง :  ผิวแพ้ง่าย , หน้า หมอง คล้ำ , ฝ้า

ผิวบางเห็นเส้นเลือดที่ขามือ

สาเหตุของผิวบาง หน้าบาง 

ผิวบางนั้นเกิดจากหลากหลายสาเหตุตั้งแต่เรื่องของอายุ ไปจนถึงตัวกระตุ้นจากปัจจัยอื่น ๆ ทั้งปัจจัยจากธรรมชาติอย่าง แสงแดด หรือสารเคมีจากตัวยา บุหรี่ แอลกอฮอล์

  • อายุ ปัจจัยทั่ว ๆ ไปที่เมื่อคนเรามีอายุค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้น ผิวก็จะมีความบางลงจากไขมันในชั้นผิวที่ลดลง รวมถึงทำให้ผิวเสียคอลลาเจน (Collagen) ทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้น และผิวหย่อนคล้อย ง่ายต่อการเกิดรอยย่น ริ้วรอย
  • แสงแดด รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ที่อยู่ในแสงแดด มีส่วนเข้ามาทำร้ายเซลล์ผิว ทำให้ผิวสูญเสียน้ำ สูญเสียความชุ่มชื้น รวมถึงคอลลาเจน และอีลาสติน (Elastin) ในผิวไป ทำให้ผิวไม่อิ่มฟู ไม่ตึงกระชับ และบางลง
  • สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์ สารเคมีที่บรรจุอยู่ภายในบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระตุ้นให้ร่างกายสร้างอนุมูลอิสระ (Oxidant) ทำร้ายเซลล์ผิว เร่งให้ผิวแลดูมีอายุขึ้น และทำให้ผิวบางลง
  • ครีมสเตียรอยด์ แม้สเตียรอยด์ (Steroid) จะมีฤทธิ์ในการช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง แต่ในทางกลับกันก็ส่งผลให้คอลลาเจนที่มีส่วนในการทำให้ผิวแข็งแรง และปกป้องชั้นผิวมีจำนวนลดลง เป็นเหตุให้เนื้อเยื่อผิวบางลง
  • ยาบางชนิด เช่น ยาสเตียรอยด์ชนิดที่ใช้ภายนอก (Topical steroids) มีสรรพคุณในการลดการอักเสบของผิว แต่ในขณะเดียวกันก็ส่งผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ทำให้ผิวบางจากการใช้สเตียรอยด์ได้ด้วย เช่น 
    • ยารักษาโรคผิวหนังอักเสบ (Eczema) ซึ่งเป็นยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ในการช่วยลดผื่นที่เกิดขึ้น
    • เรตินอล (Retinol) หนึ่งในอนุพันธ์วิตามิน เอ (Vitamin A) ช่วยควบคุมการผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตัน ทำให้ผิวเรียบเนียบ แต่ในทางเดียวกันก็ทำให้ผิวมีความบาง ทำให้มีความไวต่อแสงมากขึ้น

 

บทความที่เกี่ยวข้อง : ผิวแห้ง

วิธีแก้ผิวบาง เห็นเส้นเลือด

วิธีแก้ผิวบางนั้นมีทั้งวิธีช่วยแก้ปัญหาตั้งแต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของเราเอง หรือจะเป็นการเลือกใช้ความร่วมมือจากการรักษาและทำหัตถการด้วยฝีมือของแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญก็จะช่วยรักษาผิวบางให้กลับมาแข็งแรง มีเกราะป้องกันอีกครั้งหนึ่ง

วิธีรักษาหน้าบางอาจจะเริ่มด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยรักษาร่วมด้วย นั่นก็คือการใช้เลเซอร์จากแพทย์ผิวหนังมาช่วยแก้ผิวบาง เช่น Fotona Yag Laser โดยตรง หรือเลเซอร์ในกลุ่มประเภทช่วยยกกระชับใบหน้าอย่าง Hifu Thermage Ultraformer III หรือ Ulthera เลเซอร์ต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และไม่สลายตัวไปเร็ว ทำให้ผิวมีความแข็งแรงมากขึ้น มีเกราะป้องกันให้ผิวที่พร้อมรับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ

วิธีรักษาหน้าบาง

วิธีแก้หน้าบางง่าย ๆ ที่เริ่มต้นได้ด้วยตัวเราเอง คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน โดยเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ให้ครบถ้วนทุกหมวดหมู่ เพราะสารอาหารที่ประกอบอยู่ในอาหารเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับสุขภาพผิวให้ทนต่อทุกสภาพแวดล้อม

  • ผักผลไม้ โดยเฉพาะผักผลไม้อย่าง ส้ม มะนาว สับปะรด คะน้า พริกหวาน ที่เต็มไปด้วยวิตามิน ซี (Vitamin C) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ชั้นดี การเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ช่วยเพิ่มคอลลาเจนให้กับโครงสร้างผิว ให้ผิวคงความชุ่มชื้น
  • กรดไขมันไม่อิ่มตัว (Monounsaturated fatty acid) จากไขมันดีในอาหารประเภท อะโวคาโด อัลมอนด์ น้ำมันมะกอก และยังไม่พอยังอุดมไปด้วยความเข้มข้นของวิตามิน อี (Vitamin E) ซึ่งทั้งสองมีส่วนช่วยให้ชั้นไขมันในโครงสร้างผิวเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวดูอิ่มฟู แถมยังช่วยปรับสมดุลค่า pH ของผิวให้สมดุล
  • อาหารไม่แปรรูป หรือขัดสี (Whole food) อย่างพวกธัญพืช แป้งขาว ข้าวขาว อุดมด้วยวิตามิน เอ (Vitamin A) ช่วยบำรุงผิวพรรณ ลดการอักเสบ ลดโอกาสเกิดสิว พร้อมช่วยลดปัญหาผิวแห้งหยาบให้ชุ่มชื้ันขึ้น 
วิธีแก้หน้าบาง

วิธีป้องกันผิวบาง

อาจจะเป็นเรื่องที่ยากที่เราจะหลีกเลี่ยงและหลบแดดที่เป็นต้นเหตุของการเกิดผิวบางได้ยาก แต่เเพื่อเลี่ยงการมีผิวบาง เราอาจจะต้องใส่ใจป้องกันผิวด้วยวิธีต่าง ๆ ดังนี้

  • ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 เป็นอย่างน้อย เป็นประจำทุกวัน
  • หลีกเลี่ยงการตากแดด หรืออาบแดดแรง ๆ
  • งดสูบบุหรี่
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
  • ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • ล้างหน้าเป็นประจำอย่างอ่อนโยน ไม่ขัดถูแรง ๆ โดยเฉพาะช่วงที่เหงื่อออก
  • ทาครีมบำรุงผิวเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว
  • เลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่กัดผิว และเผาไหม้ผิว

 

บทความที่เกี่ยวข้อง : SPF คือ , ค่า PA คือ

คำถามที่พบบ่อย

ผิวบางขนาดไหนถึงควรพบแพทย์

ไม่ใช่แค่ผิวบางทั่ว ๆ ไปแบบผิวบางเห็นเส้นเลือดฝอยเท่านั้น แต่หากเกิดมีอาการผิดปกติร่วมด้วยอื่น ๆ แนะนำว่าควรเข้าพบแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยตรวจดูและช่วยรักษาบรรเทาอาการรุนแรงลงไปได้

อาการผิดปกติของผิวบางที่ควรเข้าพบแพทย์ ได้แก่

  • ผิวแสบร้อน
  • ผิวแดง
  • ผิวคัน
  • ผิวตกสะเก็ด

สรุปเนื้อหาบทความผิวบาง

หลักสำคัญสำหรับผู้มีผิวบาง คือพยายามที่จะหลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะกัด หรือทำร้ายผิวให้บาง อ่อนแอลง เช่น แสงแดด สารเคมีต่าง ๆ ที่กัดกร่อนให้ความแข็งแรงของปราการผิวเสื่อมลง นอกจากนี้ยังควรเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิวด้วยการสร้างเกราะป้องกันผิว เช่น ทาครีมบำรุง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และที่สำคัญไม่ควรขาดเลย คือการทาครีมกันแดด เพื่อป้องการแสงแดดตัวการที่ร้ายที่สุดต่อผิว