การอยู่ในสถานที่ที่แดดแรงเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้ผิวไหม้แดด หรือใบหน้าไหม้แดด จนเกิดการคล้ำเสีย ผิวแดง ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งบางรายอาจมีอาการรุนแรง อย่างการระคายเคือง และแสบร้อนผิวได้

แล้วแบบนี้ หากเกิดผิวไหม้แดด ใช้อะไรดีที่จะช่วยให้ผิวไหม้แดด ดำ ลอก หน้าไหม้ แสบ กลับมาเป็นผิวที่มีสุขภาพดีอีกครั้ง และมีวิธีรักษาผิวไหม้แดดเร่งด่วนไหม ทำอย่างไรได้บ้าง

บทความนี้ จะบอกเคล็ดลับดีๆเกี่ยวกับวิธีแก้ผิวไหม้แดดง่ายๆ ที่สามารถนำไปใช้ด้วยตนเองได้ ซึ่งจะเป็นอย่างไร และมีวิธีอะไรบ้าง สามารถติดตามได้ที่นี่ที่เดียว

ผิวไหม้แดด ปัญหาที่ไม่ควรละเลย

“ผิวไหม้แดด” เป็นปัญหาที่ใครหลายๆคนมักเข้าใจว่า สามารถปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษาได้ หายได้เองโดยไม่ต้องทำอะไร ซึ่งจริงๆแล้วเป็นความเชื่อที่ผิด เนื่องจากเมื่อผิวโดนแดดเผา ในแสงแดดจะมีรังสียูวีอยู่ รังสีนั้นจะทำร้ายผิว ทำให้ผิว หน้าหมองคล้ำ แสบร้อน เกิดอาการคัน ผิวหนังหลุดลอก และในบางรายมีตุ่มน้ำเกิดขึ้น

หากปล่อยทิ้งไว้ จะทำให้ผิวที่ถูกทำลายอ่อนแอลง ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อสิ่งต่างๆได้ง่ายขึ้น ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น และอาจมีรอยดำรอยแดงที่เกิดจากตุ่มน้ำได้

“ผิวไหม้แดด” สามารถเกิดขึ้นได้หลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสภาพแวดล้อมที่แสงแดดจัดจนเกินไป ไม่มีร่มเงาหรือสถานที่ให้หลบแสงแดด พฤติกรรมในการใช้ชีวิตของเรา เช่น การทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นระยะเวลานาน ไม่ทาครีมกันแดด จึงทำให้รังสีอัลตราไวโอเลตทำร้ายผิวจนเกิดผิวไหม้แดดนั่นเอง

โดยรังสีอัลตราไวโอเลต หรือรังสียูวี (UV) มีอยู่ 2 ประเภท เป็น uva uvb คือ uva จะทำให้ผิวเหี่ยวย่น เกิดริ้วรอย ฝ้ากระ จุดด่างดำ เพิ่มโอกาสในการเป็นมะเร็งผิวหนัง ส่วน uvb สามารถทำร้ายผิวให้มีอาการแสบร้อน คัน หรือผิวคล้ำลงได้

ผิวไหม้แดด เกิดจากสาเหตุใด

อาการของผิวไหม้แดด โดยปกติจะถูกแบ่งระดับความรุนแรงออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้

ระดับ 1 ผิวไหม้แดดเล็กน้อย

หากคุณผิวไหม้แดดในระยะแรกเริ่ม หรือในระดับเล็กน้อย จะมีอาการผิวแดงจากแดด ในบางรายมีการเจ็บปวดเกิดขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่ง บริเวณผิวไหม้แดด ลอกออกมาเพราะเกิดการผลัดเซลล์ผิวหนัง

 

ระดับ 2 ผิวไหม้แดดปานกลาง

คนที่มีผิวไหม้แดดปานกลาง จะมีอาการผิวไหม้แดด แสบ คัน บางรายมีอาการบวมแดง หน้าไหม้ แสบ ตามบริเวณต่างๆที่ถูกแสงแดดทำร้าย ผิวคล้ำ 

 

ระดับ 3 ผิวไหม้แดดรุนแรง

คอไหม้แดด หรือผิวไหม้แดดรุนแรง จะทำให้ผิวมีอาการแดง ปวดแสบปวดร้อนอย่างหนัก คัน เกิดตุ่มน้ำขึ้นบริเวณที่มีอาการ หากมีอาการมาก แนะนำว่าควรเข้าพบแพทย์เพื่อทำการรักษา

ระดับความรุนแรงของอาการผิวไหม้แดด

ผิวไหม้แดด ใช้ระยะเวลารักษานานเท่าไหร่

หลายๆคนอาจสงสัยว่า “หากเกิดผิวหรือหน้าไหม้แดดกี่วันหายเป็นปกติ” ซึ่งระยะเวลาในแต่ละวิธีรักษาหน้าไหม้แดดก็อาจมีความแตกต่างกันไป รวมไปจนถึงระดับความรุนแรงของอาการ ก็มีผลต่อระยะเวลาด้วยเช่นกัน ซึ่งแต่ละระดับอาการ จะใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟู ดังนี้

  • ระดับที่ 1 ผิวไหม้แดดเล็กน้อย จะใช้ระยะเวลาประมาณ 3-5 วัน
  • ระดับ 2 ผิวไหม้แดดปานกลาง มักจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ผิวจึงจะสามารถค่อยๆดีขึ้นจนกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
  • ระดับ 3 ผิวไหม้แดดรุนแรง จะขึ้นอยู่กับการฟื้นฟูร่างกายของแต่ละบุคคล แต่โดยปกติมักจะใช้เวลามากกว่า 2 สัปดาห์

7 วิธีแก้ผิวไหม้แดด

1. ปลอบประโลมผิวด้วยการประคบเย็น

การประคบเย็น หรือเพียงแค่คุณแช่ผิวด้วยน้ำเย็น หรือการอาบน้ำเย็น ก็สามารถช่วยลดการอักเสบของผิวที่อยู่กลางแดดเป็นระยะเวลานาน ๆ ได้ ซึ่งการประคบเย็นนี้ เป็นวิธีที่สามารถทำได้ด้วยตนเองทันทีหลังจากที่ไปเจอแสงแดดมา

รักษาผิวไหม้แดดด้วย การประคบเย็น

2. ฟื้นฟูผิวไหม้แดดด้วยว่านหางจระเข้

เรื่องของผิวไหม้แดด ว่านหางจระเข้สามารถช่วยคุณได้ เพราะว่านหางจระเข้เป็นหนึ่งในวิธีรักษาหน้าไหม้แดด หรือ ส่วนต่างๆ ที่ผิวโดนแดดเผาอย่างง่ายดาย และมีประสิทธิภาพ

เพียงแค่คุณนำวุ้นว่านหางจระเข้มาทาลงบนผิว บริเวณที่ผิวไหม้แดด แสบ คัน ทุกวัน ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างทำความสะอาดออกด้วยน้ำเย็น ก็จะช่วยปลอบประโลมผิว ให้ผิวไหม้แดดได้รับการฟื้นฟู ชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองผิวได้ดียิ่งขึ้น และนอกจากผิวไหม้แดดแล้ว ว่านหางจระเข้ยังสามารถช่วยในกรณีที่ผิวโดนน้ำร้อนลวก หรือรักษาแผลที่เกิดจากการโดนไฟไหม้ได้อีกด้วย

ผิวไหม้แดด ฟื้นฟูด้วยว่านหางจระเข้

3. หลีกเลี่ยงการลอก แกะ เกา บริเวณผิวไหม้แดด

หลายๆคน เมื่อเกิดภาวะผิวไหม้แดด จะมีอาการคัน ผิวลอกในบริเวณนั้น ทำให้มีพฤติกรรมแกะ เกา รวมไปจนถึงการเจาะตุ่มน้ำ เพราะรู้สึกทนอาการเหล่านี้ไม่ไหว

แต่ในความเป็นจริง ควรหลีกเลี่ยงการเจาะตุ่มน้ำ เนื่องจากตุ่มน้ำเหล่านี้ จะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวบริเวณชั้นถัดไปเกิดการระคายเคือง และอาจเพิ่มระดับความรุนแรงของอาการได้ หากมีการเจาะตุ่มน้ำออก จึงแนะนำว่าควรรอเวลาให้ตุ่มน้ำแตกออกมาเอง แล้วจึงค่อยใช้ปิโตรเลียมเจลในการทาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ประมาณ 2-3 ครั้งต่อวัน จึงจะดีที่สุด

รักษาผิวไหม้แดด ด้วยการหลีกเลี่ยงการแกะ เกา

4. ดื่มน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นให้ร่างกาย

“น้ำ” เป็นองค์ประกอบหนึ่งของร่างกายที่มีความสำคัญอย่างมาก การดื่มน้ำควรดื่มในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อย่างน้อยวันละประมาณ 8 แก้ว เพื่อให้ผิวเกิดความชุ่มชื้น สามารถฟื้นฟูหรือซ่อมแซมสภาพผิวที่เสียไป ให้กลับมาแข็งแรงขึ้นได้

หากเป็นไปได้ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ โซดา ฯลฯ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะสูญเสียน้ำได้

รักษาผิวไหม้แดดด้วยการดื่มน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้น

5. ทาครีมบำรุงผิวและมอยเจอร์ไรเซอร์

การทาผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นอย่างครีมบำรุงผิวหน้า หรือมอยเจอร์ไรเซอร์ จะช่วยให้ผิวไม่เกิดการแห้งกร้าน หลุดลอก ลดโอกาสการสูญเสียความชุ่มชื้นของผิว ลดการระคายเคือง อีกทั้งยังเป็นส่วนช่วยให้ผิวไหม้แดดฟื้นฟูตนเองได้เร็วขึ้น

รักษาผิวไหม้แดด ด้วยการทาครีมบำรุงผิว

โดยการเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและมอยเจอร์ไรเซอร์ จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเอง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและประสิทธิภาพสูงสุด อย่างผลิตภัณฑ์ของ Bioderma ก็จะมีการแยกประเภทตามสภาพผิวอย่างชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน ดังนี้

  • ผิวแพ้ง่าย

Bioderma Sensibio Defensive คือครีมบำรุงผิวหน้าที่ช่วยฟื้นบำรุงผิว เหมาะสำหรับ ผิวแพ้ง่าย ระคายเคืองง่าย เพราะสามารถช่วยปลอบประโลมผิวได้ดี ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกสบายผิว ชุ่มชื้นตลอด 12 ชั่วโมง อีกทั้งยังทำให้ผิวแข็งแรง สามารถทนต่อมลภาวะหรือสารที่กระตุ้นให้เกิดการแพ้ได้ดีขึ้น

Bioderma Sensibio Defensive

  • ผิวมัน หรือ ผิวผสม

Bioderma Sebium Sensitive คือครีมบำรุงที่ให้ความชุ่มชื้นได้ตลอด 12 ชั่วโมง ปลอบประโลมผิวที่ระคายเคือง จัดการรอยแดงสิว ป้องกันการเกิดรอยสิว มี DAFTM PATENTED COMPLEX สิทธิบัตรเฉพาะของไบโอเดอร์มา ช่วยลดการระคายเคือง และเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิว

Bioderma Sebium Sensitive

  • ผิวแห้งแบบขาดน้ำ

หากคุณมีอาการผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ แนะนำ Bioderma Hydrabio Serum เพราะสามารถช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว ทำให้ผิวดูสุขภาพดี อิ่มน้ำ ไม่อุดตันผิว อ่อนโยน

Bioderma Hydrabio Serum

ส่วน Bioderma Atoderm PP Baume สามารถฟื้นบำรุงผู้ที่มีภาวะผิวแห้งกร้านรุนแรงได้ ปกป้องผิวอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ปัญหาคัน ระคายเคืองผิวลดน้อยลง และยังสามารถเพิ่มความต้านทานให้แก่ผิวได้อีกด้วย

Bioderma Atoderm PP Baume

6. งดการขัด สครับผิว ในช่วงที่ผิวไหม้

เรื่องของการขัดผิว หรือสครับผิว ควรหลีกเลี่ยงออกไปก่อน หากคุณยังมีภาวะผิวไหม้แดดอยู่ เนื่องจากการที่ผิวไหม้แดด จะทำให้ผิวบริเวณนั้นบอบบาง อ่อนแอลง ส่งผลให้มีโอกาสเกิดความระคายเคือง ปวดแสบปวดร้อนได้มากกว่าปกติ

รักษาผิวไหม้แดด โดยการงดสครับผิว

7. หลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดด

อีกหนึ่งวิธีที่จะสามารถช่วยรักษาผิวไหม้แดดได้ นั่นก็คือ การหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดด ซึ่งถึงแม้ว่าจะบอกแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าให้คุณหลบหลีกแดดตลอดเวลา หรือให้อยู่ในความมืดแต่อย่างใด เพียงแต่ให้คุณหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ในช่วงระยะเวลา 10.00 - 16.00 น. เพื่อป้องกันภาวะผิวไหม้แดดรุนแรง หรือป้องกันปัญหาผิวถูกทำลายนั่นเอง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่เป็นภาวะผิวไหม้แดดอยู่ก่อนแล้ว เพราะผิวเหล่านี้จะไวต่อแสงแดด อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย

    รักษาผิวไหม้แดด ด้วยการหลีกเลี่ยงแสงแดด

    หากคุณไม่อยากตกอยู่ในภาวะผิวไหม้แดด แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงในการออกไปทำกิจกรรมข้างนอกได้ ดังนั้น เราจึงมีวิธีการป้องกันผิวไหม้แดดง่ายๆมาฝาก ดังนี้

    การใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด จะสามารถช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้ในระดับหนึ่ง อาจทำให้ไม่เกิดการแสบร้อนตามบริเวณร่างกายได้ โดยเฉพาะผ้าบางชนิดที่มีเทคโนโลยีในการป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต จึงทำให้ไม่เกิดการแสบผิว ผิวคล้ำได้

    หากคุณเกิดภาวะผิวไหม้แดดแล้ว ในระหว่างที่มีการฟื้นฟูผิว ควรเลือกใส่เสื้อผ้าหลวมๆ วัสดุไม่แข็งกระด้าง เพื่อป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าเสียดสีผิวที่บอบบาง จนเกิดการระคายเคือง

      รักษาผิวไหม้แดด ด้วยการทาครีมกันแดด

      แสงแดด มีรังสีอัลตราไวโอเลตที่สามารถทำร้ายผิวของเราได้ จึงไม่ควรอยู่ท่ามกลาง แสงแดด นานจนเกินไป หากจำเป็นต้องต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ใช้ระยะเวลามากกว่า 1-7 ชั่วโมง ควรมีตัวช่วยดีๆ อย่างครีมกันแดดมาทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง เพื่อปกป้องผิวของเรา

      นอกจากระยะเวลาในการอยู่กลางแสงแดดแล้ว เรื่องของช่วงเวลาการออกไปทำกิจกรรมข้างนอกก็สำคัญเช่นกัน หากเป็นไปได้ คุณควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ช่วงเวลา 10.00-16.00 น. เนื่องจากเป็นช่วงที่แสงแดดจัด จึงไม่เหมาะกับการอยู่กลางแจ้ง เพราะอาจก่อให้เกิดผิวไหม้แดดได้ง่าย

        รักษาผิวไหม้แดด ด้วยการทาครีมกันแดด

        การทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ และเป็นประจำทุกวัน จะสามารถช่วยคุณในเรื่องของผิวไหม้แดดได้ ซึ่งการที่จะใช้งานครีมกันแดดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จำเป็นต้องใช้งานให้ถูกต้อง เช่น มีการใช้ SPF กับ ค่าPA สอดคล้องกับกิจกรรมที่ทำ

        รักษาผิวไหม้แดด ด้วยการทาครีมกันแดด

        โดย spf คือ ค่าที่แสดงถึงการป้องกันรังสียูวีบี หากมีค่ามาก จะยิ่งป้องกันได้นาน ไม่ต้องทาซ้ำบ่อยๆ
        ส่วน pa คือ ค่าที่แสดงถึงการป้องกันรังสียูวีเอ ซึ่งเมื่อครื่องหมายเป็นบวก (+) เยอะ ก็จะยิ่งทำให้ป้องกันได้ดียิ่งขึ้น โดยวิธีการทาครีมกันแดด มีดังนี้

        1. เริ่มจากการตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้ เราสามารถใช้ได้หรือไม่? มีอาการแพ้หรือระคายเคืองอะไรไหม? โดยการทาลงบริเวณจุดที่เซนซิทิฟก่อน เช่น หลังมือ ข้อพับแขน ข้อพับขา ฯลฯ
        2. ก่อนออกไปทำกิจกรรมข้างนอก ให้เริ่มทาครีมกันแดดก่อนเวลาประมาณ 30 นาทีขึ้นไป
        3. หากจำเป็นต้องเผชิญกับแสงแดดประมาณ 1-7 ชั่วโมง ต้องมีการทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง จึงจะได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
        4. ปริมาณครีมกันแดดที่ทาจะอยู่ที่ประมาณ 1 ออนซ์ หรือ 2 ข้อนิ้วมือ
        5. ไม่ใช้ครีมกันแดดที่หมดอายุ
        6. เลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมกับกิจกรรมที่ทำ เช่น ทำกิจกรรมเกี่ยวกับน้ำ ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่สามารถป้องกันน้ำ ป้องกันเหงื่อได้ เป็นต้น

        นอกจากการใช้ครีมกันแดด การล้างหน้าให้สะอาดก็สำคัญเช่นกัน บางครั้งการใช้โฟมล้างหน้าเพียงอย่างเดียว อาจทำความสะอาดได้ไม่ดีเท่าการใช้โฟมล้างหน้าควบคู่ไปกับการใช้คลีนซิ่ง

        ผิวไหม้แดด

        สุดท้ายนี้ คุณควรจะต้องพิจารณาและเลือกทำขั้นตอนต่างๆอย่างถูกต้อง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทาครีมกันแดด การทำความสะอาดใบหน้า รวมไปจนถึงการเลือกครีมกันแดดให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล ซึ่งเราขอแนะนำ ครีมกันแดด Bioderma Photoderm Aquafluide SPF50+ และ Bioderma Photoderm Cover Touch SPF50+ เพราะสามารถกันแดด กันน้ำ กันเหงื่อได้ อีกทั้งยังมีความอ่อนโยน ใช้ได้กับทุกสภาพผิว ต่อให้ผิวแพ้ง่ายก็ยังสามารถใช้งานได้

        ข้อสรุป

        “ผิวไหม้แดด” เป็นภาวะที่ไม่ควรละเลย หรือปล่อยทิ้งไว้ตามความเชื่อที่ใครหลาย ๆ คนเข้าใจผิด เพราะการที่ผิวไหม้แดดมาจากรังสียูวี (UV) ในแสงแดดที่เข้ามาทำร้ายผิวของเรา ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้ จะทำให้ผิวสูญเสียสมดุล ขาดน้ำ แห้งกร้าน ผิวบริเวณนั้นจะอ่อนแอลง เกิดการระคายเคืองได้ง่าย

        การรักษาและระยะเวลาในการฟื้นฟู อาจขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ รวมไปจนถึงร่างกายของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่เกิดภาวะผิวไหม้แดด แต่ก็ยังสามารถป้องกันตนเองได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการใส่เสื้อผ้ามิดชิด ไม่อยู่กลางแจ้งนานจนเกินไป และใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ เป็นต้น

          BIODERMA Sensibio Defensive ครีมฟื้นบำรุงเนื้อเบา ซึมไว ไม่อุดตัน ปลอบประโลมผิว

          บำรุงผิวได้ทุกวัน

          ผิวบอบบางและแพ้ง่าย

          เทคโนโลยีดีเฟนซีฟ

          Sensibio Defensive

          ครีมฟื้นบำรุงเนื้อเบา-ซึมไว ไม่อุดตัน ปลอบประโลมผิว มีสารที่ช่วยให้ผิวแข็งแรง ต้านทานมลภาวะและสิ่งกระตุ้นที่ทำให้ผิวแพ้ง่าย

          สำหรับใคร

          ผู้ใหญ่, วัยรุ่น

          BIODERMA Sébium Sensitive ครีมบำรุงสำหรับผิวเป็นสิวง่าย ปลอบประโลม คืนความชุ่มชื้น ลดโอกาสเกิดสิว

          บำรุงผิวได้ทุกวัน

          ผิวเป็นสิวง่าย ผิวแพ้ง่ายและอ่อนแอเป็นสิวง่าย

          เทคโนโลยี Inflastop™

          Sébium Sensitive

          ครีมบำรุงสำหรับผิวเป็นสิวง่าย ปลอบประโลม คืนความชุ่มชื้น ลดโอกาสเกิดสิว

          สำหรับใคร

          ผู้ใหญ่, วัยรุ่น

          BIODERMA Hydrabio Sérum เซรั่มเข้มข้น ให้ความชุ่มชื้น ทันทีและยาวนาน

          เซรั่ม

          ผิวแพ้ง่ายขาดน้ำ

          สิทธิบัตร Aquagenium™

          Hydrabio Sérum

          เซรั่มเข้มข้น ให้ความชุ่มชื้น ทันทีและยาวนาน

          สำหรับใคร

          ผู้ใหญ่, วัยรุ่น

          Bioderma Atoderm PP Baume หลอด 200 ml

          บำรุงผิวได้ทุกวัน

          ผิวแห้งมาก ระคายต่อผิวแพ้ง่าย

          สิทธิบัตร Ecodefensine™

          Atoderm PP Baume

          บำรุงผิวชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชั่วโมง

          สำหรับใคร

          สำหรับทุกคนในครอบครัว (เด็กอายุมากกว่า 3 ปี)