คลีนซิ่งเป็นสิ่งสำคัญในยุคปัจจุบันที่การทาครีมกันแดดเป็นเรื่องที่สำคัญ เพื่อช่วยเป็นเกราะป้องกันผิวจากแสงแดด รังสี UV และมลภาวะต่าง ๆ ส่วนเทรนด์การแต่งหน้าก็เป็นที่นิยมในปัจจุบัน ทำให้การใช้คลีนซิ่ง คือตัวช่วยทำความสะอาดผิวที่สำคัญที่เข้ามาเป็นตัวช่วยทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดหมดจด

เพราะคลีนซิ่ง (Cleansing) คือ ผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ทำความสะอาดคราบเครื่องสำอาง คราบครีมกันแดด รวมถึงฝุ่น ควัน มลภาวะในชีวิตประจำวัน ที่ไม่สามารถล้างออกด้วยน้ำเปล่า และคลีนเซอร์เพียงอย่างเดียว

คลีนซิ่ง (Cleansing)  คือ

คลีนซิ่ง (Cleansing) คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ที่สามารถช่วยขจัดคราบเครื่องสำอาง ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารกันน้ำ และคราบเหงื่อ ฝุ่นควัน สิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ไม่สามารถล้างออกได้ด้วยน้ำเปล่า หรือเจลล้างหน้าให้หลุดออกไปได้ 

คลีนซิ่งสามารถใช้คู่กับสำลีเช็ดทำความสะอาดได้ทั่วผิวหน้า และเน้นทำความสะอาดตามบริเวณที่ลงเครื่องสำอาง และครีมกันแดด แต่ในบริเวณที่แต่งหน้าแน่น ๆ ควรใช้ที่ล้างเครื่องสำอางโดยเฉพาะในการทำความสะอาด เพื่อให้คราบเครื่องสำอางที่ฝังแน่นหลุดออกไปได้ อย่างในบริเวณดวงตาที่มีการลงเครื่องสำอางที่กันน้ำอยู่หลายชนิด ทั้งคอนซีลเลอร์ มาสคาร่า เป็นต้น หากใช้อายรีมูฟเวอร์ (Eye remover) จะทำให้คราบเครื่องสำอางหลุดออกไป พร้อมทั้งช่วยบำรุงผิวรอบดวงตาที่บอบบางไปด้วย

หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าแล้ว ผลิตภัณฑ์ล้างหน้ามีหลายชนิดแล้ว มันต่างกันอย่างไรกัน เพราะในหมวดทำความสะอาดผิวหน้านั้นมีทั้ง คลีนซิ่ง เจลล้างหน้า โทนเนอร์ แต่ละตัวมันช่วยในการทำความสะอาดผิวต่างกันอย่างไร? แล้วมันใช้งานอย่างไร? และมีลำดับขั้นตอนในการใช้งานอย่างไรกัน

เริ่มต้นด้วยคลีนซิ่ง เพราะคลีนซิ่ง คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าตัวแรกที่เราใช้ในการทำความสะอาด คลีนซิ่งช่วยขจัดคราบฝั่งแน่นโดยเฉพาะ สามารถทำความสะอาดคราบฝุ่น มลภาวะ รวมถึงเครื่องสำอาง ครีมกันแดดออกได้อย่างหมดจด

คลีนเซอร์ คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดตัวถัดมาหลังจากที่เช็ดทำความสะอาดด้วยคลีนซิ่งไปแล้ว โดยคลีนซิ่งจะช่วยล้างคราบสิ่งสกปรกต่าง ๆ บนผิวหน้าให้หลุดออกไป รวมถึงล้างตัวคลีนซิ่งที่เราใช้เช็ดหน้าให้หลุดออกไปด้วยเช่นกัน

ส่วนโทนเนอร์ คือ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทันทีหลังจากล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ เพื่อช่วยปรับสมดุล pH ของผิวให้เป็น กลางก่อนที่จะลงเซรั่ม และครีมบำรุงลงไปบนผิว เพราะโทนเนอร์มีส่วนในการเตรียมผิว เปิดรูขุมขน ทำให้ผิวชุ่มชื้น ให้ผิวรับสกินแคร์และซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก

สภาพผิวของเรานั้นมีสภาพหลากหลาย ทำให้ในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวนั้นควรเลือกตามสภาพผิวของแต่ละคนเพราะ คลีนซิ่ง (Cleansing) เองนั้นมีหลายเนื้อสัมผัส หลายสูตร ให้เลือกใช้ตามสภาพผิว เพื่อจะได้ดูแลสภาพผิว และแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด

คลีนซิ่งมีกี่แบบแบ่งตามเนื้อสัมผัสได้เป็น 7 สูตร ตามดังต่อไปนี้

cleansingคือ

คลีนซิ่งวอเตอร์ (Cleansing Water)

คลีนซิ่งวอเตอร์ (Cleansing water) คือ คลีนซิ่งเนื้อน้ำ บางเบา ทำให้ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน หรือส่วนผสมที่เหนอะง่ายต่อการทำให้ผิวเกิดอาการอุดตัน จึงเหมาะกับผู้ที่มีผิวมัน หรือผิวผสมที่เดิมทีผิวก็มีน้ำมันส่วนเกินมากอยู่แล้ว

 

คลีนซิ่งออยล์ (Cleansing Oil)

คลีนซิ่งออยล์ (Cleansing oil) คือ คลีนซิ่งเนื้อน้ำมัน มีส่วนผสมของน้ำมันทำให้ผิวของผู้ใช้ไม่เสียความชุ่มชื้นไป จึงเหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้ง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ไม่ทำให้ผิวแห้ง

 

คลีนซิ่งเจล (Cleansing Gel)

คลีนซิ่งเจล(Cleansing Gel) คือ คลีนซิ่งเนื้อสัมผัสเจลที่อ่อนโยนต่อผิว ทำให้ผู้ที่มีผิวบอบบาง หรือผิวที่เป็นสิวง่ายก็สามารถใช้ทำความสะอาดผิวหน้าได้ แต่ด้วยเนื้อสัมผัสที่อ่อนโยนและบางเบาสูงมาก ทำให้อาจจะต้องใช้เวลาที่นานขึ้นในการทำความสะอาดผิวหน้า

 

คลีนซิ่งมิลค์ (Cleansing Milk)

คลีนซิ่งมิลค์ (Cleansing milk) คือ คลีนซิ่งเนื้อน้ำนม เหมาะกับผู้ที่มีผิวที่บอบบาง เป็นสิวง่าย รวมถึงผู้ที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เพราะเนื้อน้ำนมอ่อนโยน และเป็นมอยส์เจอไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยเช่นกัน

 

คลีนซิ่งบาล์ม (Cleansing Balm)

คลีนซิ่งบาล์ม (Cleansing balm) คือ คลีนซิ่งที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดการเสียดสีของผิวหน้ากับสำลี เพราะคลีนซิ่งเนื้อบาล์มสามารถนวดบาล์มลงไปบนผิวหน้าได้โดยตรง ทำให้หน้าไม่ต้องได้รับการเสียดสีกับสำลี ทำให้ผิวมีแนวโน้มที่เกิดริ้วรอยบนผิวได้ยากขึ้น

 

คลีนซิ่งครีม (Cleansing Cream)

คลีนซิ่งครีม (Cleansing Cream) คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะกับผู้ที่ผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ เพราะผลิตภัณฑ์เนื้อครีมมีสารบำรุง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวคงความชุ่มชื้นไว้

 

คลีนซิ่งแบบแผ่น (Cleansing Wipe)

คลีนซิ่งแบบแผ่น (Cleansing Wipe) คือ คลีนซิ่งที่บรรจุอยู่ในเนื้อสำลีมาอยู่แล้ว ทำให้สะดวกในการพกพาไปไหนมาไหน และมีราคาสูง เพราะต้องใช้หลายแผ่นในการเช็ดทำความสะอาดผิวหน้า คลีนซิ่งแบบแผ่นนั้น เหมาะกับทุกสภาพผิว และสูตรน้ำยาคลีนซิ่งที่บรรจุอยู่ในเนื้อสำลี

  • ในการใช้งานคลีนซิ่ง (Cleansing) ไม่ใช่เรื่องยาก ใคร ๆ ก็สามารถใช้ได้ง่าย ๆ แต่หารู้หรือไม่ ในการทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนซิ่งมีจุดเล็กจุดน้อยที่เราควรระมัดระวังในการใช้งาน เพื่อไม่ให้ผิวหน้าถูกทำร้ายโดยไม่รู้ตัว และล้างหน้าได้อย่างสะอาดหมดจดอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
     
  • ในขั้นตอนเริ่มต้นควรที่จะล้างมือก่อนเป็นอันดับแรก เพราะมือของเรานั้นในแต่ละวันสัมผัสกับสิ่งสกปรกมากมาย หากใช้สัมผัสกับใบหน้าโดยตรงอาจจะทำให้หน้าต้องสัมผัสกับสิ่งสกปรกเข้า
     
  • ใช้อายรีมูฟเวอร์เช็ดทำความสะอาดบริเวณรอบดวงตา และบริเวณรอบริมฝีปาก เพื่อให้คราบเครื่องสำอางบริเวณรอบ ๆ ถูกทำความสะอาดออกไป
     
  • ใช้สำลีเนื้อนุ่ม ไม่บาดผิว จุ่มกับคลีนซิ่งประเภทที่เป็นเนื้อน้ำ หรือคลีนซิ่งชนิดแผ่น แล้วเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าตามรูขุมขน โดยไม่เช็ด ถูแรง ๆ ให้ผิวเกิดอาการระคายเคืองขึ้นมาเด็ดขาด เช็ดผิวหน้าเบา ๆ ก็เพียงพอต่อการทำความสะอาดผิวหน้าแล้ว เพราะในตัวผลิตภัณฑ์คลีนซิ่งนั้นมีส่วนผสมของสารทำความสะอาดผสมอยู่แล้ว
     
  • แต่หากเป็นคลีนซิ่งเนื้อบาล์ม ไม่จำเป็นต้องใช้สำลี สามารถใช้ไม้พายตักเนื้อบาล์มขึ้นมา และนวดวนไปตามผิวหน้าอย่างเบามือ เพื่อช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้ หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าเรียบร้อยแล้ว แล้วจึงทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนเซอร์อีกครั้ง เพื่อขจัดคราบสิ่งสกปรกตกค้าง และคลีนซิ่งออกไปได้อย่างหมดจด

คลีนซิ่ง (Cleansing) นั้นเป็นสิ่งจำเป็นมากในการทำความสะอาดผิวในยุคปัจจุบัน ด้วยมลภาวะ ฝุ่นละออง ฝุ่น PM 2.5 ที่อยู่ในสภาพแวดล้อม ยากที่เราจะหลีกเลี่ยง อีกทั้งเครื่องสำอาง และครีมกันแดดที่เราใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวัน ควรทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจด เพื่อไม่ให้มีสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันในรูขุมขน และช่วยขจัดคราบน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้าโดยเฉพาะในคนมีสภาพผิวหน้ามัน จนเกิดปัญหารูขุมขนกว้าง รวมถึงเป็นสาเหตุของการเกิดสิวอุดตัน และสิวประเภทต่าง ๆ

นอกจากนั้นในคลีนซิ่งบางตัว มีสูตรและส่วนผสมที่แตกต่างกันไป เพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวที่ผู้ใช้เผชิญอยู่ได้ เช่น สูตรสำหรับผิวเป็นสิวง่าย จะช่วยเติมสารที่ช่วยกำจัดเชื้อสิว C.acnes ไปได้ เพื่อลดปัญหาสิวลงไป

    คลีนซิ่งวอเตอร์คือ

    ในวันที่มีการแต่งหน้า และทาครีมกันแดดลงบนผิวหน้า คลีนซิ่ง (Cleansing) จำเป็นอย่างยิ่งในการทำความสะอาดผิวหน้า เพราะคลีนซิ่งสามารถเข้าไปทำความสะอาดผิวหน้า และขจัดคราบเครื่องสำอาง ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารกันน้ำออกได้อย่างหมดจด ดังนั้นถ้าวันไหนแต่งหน้า จึงไม่สามารถทำความสะอาดแค่น้ำเปล่าเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ

    หรือแม้แต่ผู้ที่ไม่ได้แต่งหน้า หากใช้คลีนซิ่งเป็นขั้นตอนแรกในการทำความสะอาดผิวหน้า ก็จะเป็นขั้นตอนที่ส่งผลที่ดีต่อผิว เพราะในยุคปัจจุบันที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงฝุ่นควัน มลภาวะได้ง่าย ๆ คลีนซิ่งจะช่วยคลีนหน้าให้คราบไขมัน เหงื่อ ฝุ่นควัน หลุดออกไป

      ถึงแม้คลีนซิ่งจะขึ้นชื่อว่าเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอาง แต่ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้เพียงการทำความสะอาดเมื่อหมดวัน ก่อนเข้านอนเพียงเท่านั้น เมื่อตื่นมาตอนเช้าก็สามารถใช้คลีนซิ่งในการทำความสะอาดผิวหน้าได้เช่นกัน เพราะแม้ว่าเราจะอยู่ในอาคาร อากาศในห้องที่เราอยู่ก็มีฝุ่นละอองล่องลอยไปทั่วอยู่ดี หากได้ใช้คลีนซิ่งเช็ดก็ช่วยให้ฝุ่นที่เกาะอยู่ตอนผิวหน้าระหว่างนอนหลับหลุดออกไปได้

        หากในวันที่มีการแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอาง หรือลงครีมกันลงบนผิว แนะนำว่าควรทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนซิ่งก่อน เพื่อไม่ให้ทำความสะอาดใบหน้าจากเครื่องสำอางเหล่านี้ออกไปให้ได้หมด เพราะการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าไม่สามารถล้างเครื่องสำอางที่มีสารกันน้ำออกไปได้

        ถึงแม้ผู้ที่ไม่แต่งหน้าอาจจะคิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้คลีนซิ่ง เพราะไม่ได้ใช้เครื่องสำอาง แต่การใช้คลีนซิ่งจะช่วยเสริมการทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดมากขึ้น ด้วยการขจัดคราบฝุ่น ควันที่เกาะบนผิวหน้าออกไปได้ นอกจากนี้การใช้เพียงแค่น้ำเปล่าจะไม่สามารถขจัดคราบน้ำมันส่วนเกินออกไปได้ ถ้าใช้คลีนซิ่งร่วมด้วยจะล้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า

          3 สูตร คลีนซิ่ง Bioderma เลือกแบบไหนดี

          คลีนซิ่ง (Cleansing)  เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าให้ไร้เครื่องสำอางได้อย่างหมดจด Bioderma มีผลิตภัณฑ์คลีนซิ่งถึง 3 สูตรเหมาะกับแต่ละสภาพผิว ให้เลือกใช้ได้ตามความพึงพอใจ และตอบโจทย์ทุกปัญหาผิวของคุณ เป็นคลีนซิ่งยี่ห้อที่มั่นใจได้ว่าจะอ่อนโยน และไม่ทำร้ายผิวของคุณแน่นอน

          cleansing waterคือBioderma Sensibio H2O ผลิตภัณฑ์คลีนซิ่งไมเซล่าที่อ่อนโยนต่อผิวที่บอบบาง แม้แต่บริเวณรอบดวงตาที่บอบบาง ก็สามารถทำความสะอาดได้หมดจดอย่างอ่อนโยน  ด้วย Biomimetic Micellar Technology ที่โครงสร้างคล้ายกับผิว อ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิว ปกป้องสมดุลจุลินทรีย์บนผิว (Microbiome) อ่อนโยนต่อปราการผิว มีสารสกัดจากแตงกวา (Cucumber Fruit Extract) ช่วยปลอบประโลมผิว ให้รู้สึกสบายไม่ระคายเคือง

          คลีนซิ่งเจลคือBioderma Sebium H2O คลีนซิ่งไมเซล่าวอเตอร์เวชสำอางที่อ่อนโยนต่อผิวที่แพ้ง่าย เป็นสิวง่าย ผิวมัน และผิวผสม ด้วยส่วนผสมผสานระหว่าง Copper Zinc Complex  ช่วยกำจัดความมันส่วนเกินและควบคุมความมันบนใบหน้า และช่วยกำจัดแบคทีเรีย (C.acnes) สาเหตุของปัญหาสิว

          คลีนซิ่งมีกี่แบบBioderma Hydrabio H2O ผลิตภัณฑ์คลีนซิ่งไมเซล่าทำความสะอาดใบหน้าและเช็ดเครื่องสำอาง สูตรน้ำ อ่อนโยน และคงความชุ่มชื้น เหมาะสมสำหรับผิวขาดน้ำ ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น อุดมด้วย นิโคตินาไมด์ (Niacinamide)  ไซลิทอล (Xylitol) และ สารสกัดจากเมล็ดแอปเปิ้ล (Apple extract) ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ด้วยกระตุ้นการสร้างท่อส่งน้ำ (Aquaporins) ในชั้นผิว epidermis และ Vitamin PP กระตุ้นการสร้างเซราไมด์ (Ceramide) ช่วยลดการระเหยของน้ำออกจากผิว

          BIODERMA Sensibio H2O คลีนซิ่งไมเซล่า วอเตอร์

          คลีนเซอร์แบบไม่ต้องล้างออก

          ผิวแพ้ง่าย ผิวธรรมดา

          เทคโนโลยี ไมเซล่า

          Sensibio H2O

          The original Cleansing Micellar Water. Soothes and respects the skin's balance.

          คลีนซิ่งไมเซล่า วอเตอร์ (Micellar Water) ปลอบประโลมผิวแพ้ระคายและไม่ทำลายสมดุลของผิว

          สำหรับใคร

          ผู้ใหญ่, วัยรุ่น

          BIODERMA Sébium H2O ไมเซล่า วอเตอร์ ทำความสะอาดสูตรดั้งเดิม

          คลีนเซอร์แบบไม่ต้องล้างออก

          ผิวผสมถึงผิวมัน ผิวเป็นสิวง่าย

          เทคโนโลยี ไมเซล่า

          Sébium H2O

          ไมเซล่า วอเตอร์ทำความสะอาดสูตรดั้งเดิม ทำความสะอาดและไม่ทำลายสมดุลของผิว

          สำหรับใคร

          ผู้ใหญ่, วัยรุ่น

          Bioderma Hydrabio H2O ขวด 500 ml

          คลีนเซอร์แบบไม่ต้องล้างออก

          ผิวแพ้ง่ายขาดน้ำ

          สิทธิบัตร Aquagenium™

          Hydrabio H2O

          คลีนซิ่งเวชสำอาง ไมเซล่า วอเตอร์ สำหรับทำความสะอาดผิว ให้ความชุ่มชื้น โดยไม่ทำลายสมดุลของผิว

          สำหรับใคร

          ผู้ใหญ่, วัยรุ่น