หนึ่งในปัญหาสิวที่หนักใจที่สุดสำหรับผู้ที่เป็นสิวนั้น คงจะหนีไม่พ้น“ปัญหาสิวหัวหนอง”เป็นแน่ เพราะปัญหาสิวอื่น ๆ อย่างสิวอุดตัน หรือสิวเม็ดเล็ก ๆ อย่างสิวผด สิวเสี้ยน ยังสามารถใช้เครื่องสำอาง รองพื้น หรือคอนซีลเลอร์ปกปิดอำพรางเม็ดสิวไปได้ แต่สิวอักเสบหัวหนองนี้ มีหัวสิวสีเหลืองเด่นชัด เมื่อไปสัมผัสก็รู้สึกเจ็บ และหากยิ่งใช้เครื่องสำอางปกปิด สิวบริเวณนั้นยิ่งเสี่ยงต่อการอุดตันและอักเสบมากขึ้น

ดังนั้น Bioderma จะพาทุกคนมารู้จักกับสิวหัวหนอง ว่าสิวหัวหนองเกิดจากอะไร แล้วเราจะมีวิธีรักษาสิวหัวหนองให้หมดไปได้อย่างไรกัน

สิวหัวหนอง หรือสิวอักเสบหัวหนอง (Pustules) เป็นหนึ่งในประเภทของสิวอักเสบ มีลักษณะเป็นตุ่มสิวมีหัวที่ฐานสิวรอบ ๆ มีสีแดงจากการอักเสบของผิวหนัง ส่วนบนที่เป็นหัวสิวมีลักษณะเป็นสีขาวหรือสีเหลืองของหนองที่อยู่ภายในสิวใต้ผิวหนัง สิวหัวหนองพบได้ทั้งสิวหัวหนองเล็ก ๆ และขนาดใหญ่ สามารถเกิดได้บนผิวหนังในทุกบริเวณ อาจจะกระจายทั่วทั้งผิวหนังบริเวณนั้น ๆ หรือ กระจุกแค่บางส่วน หรือในบางคนก็อาจจะขึ้นแค่เพียงไม่กี่เม็ด

ตามปกติทั่วไปแล้วสิวหนองไม่ได้มีอันตรายรุนแรง แต่เนื่องจากเป็นสิวที่มีการอักเสบ บวมแดง อยู่ภายในทำให้อาจจะรู้สึกเจ็บ หรือเมื่อสัมผัสโดนก็ยิ่งทวีความเจ็บยิ่งขึ้น หรือในบางคนที่มีสิวอักเสบหัวหนองขึ้นบริเวณหน้าผาก หากอักเสบรุนแรง นอกจากจะปวดบริเวณสิวแล้ว ยังลามทำให้มีอาการปวดศีรษะร่วมด้วย

ถึงแม้การรักษาสิวหัวหนองจะไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเป็นสิวที่อักเสบอยู่ในชั้นผิวที่ตื้น แต่หากละเลย ปล่อยทิ้งไว้ หากโดนปัจจัยต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันกระตุ้น อาจจะยิ่งทำให้สิวมีการอักเสบมากยิ่งขึ้น จนลุกลามไปสู่บริเวณอื่น ๆ ทำให้ทำการรักษาได้ยากขึ้น และใช่เวลาในการรักษานานขึ้น

สิวหนอง

สิวหัวหนอง เกิดจากอะไร

สิวหัวหนองเกิดจากอะไรนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่สาเหตุสิวหัวหนองที่เกิดจากการเกิดสิวทั่ว ๆ ไป จนไปถึงการเกิดสิวหัวหนองจากโรคผิวหนังต่าง ๆ

  • สิวเป็นหนองทั่วไป (Acne) เป็นสิวหนองอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากโรคทางผิวหนังนั้น ส่วนมากจะเกิดจากความมันส่วนเกินบนใบหน้า รวมกับสิ่งสกปรกตกค้าง เซลล์ผิวเก่า (Dead cells) และเชื้อแบคทีเรีย (C.acnes) เข้าไปอุดตันในรูขุมขนจนเกิดการอุดตัน แล้วระคายเคืองจนเป็นตุ่มสิวอักเสบขึ้นมานั้นเอง

ส่วนบนของหัวสิวหัวเหลืองที่เป็นหนอง (Pus) นั้นเกิดจาก การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายที่พยายามจะขจัดสิ่งสกปรกออกไปจากร่างกาย ทำให้เกิดเป็นของเหลวสีขาว หรือสีเหลืองขึ้นมา ซึ่งภายในของหนองนั้น ประกอบไปด้วยเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ตายแล้ว เซลล์เนื้อเยื่อที่ตายแล้ว และเชื้อแบคทีเรีย

  • โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะอาการเป็นผิวแห้งคัน ผิวลอกเป็นขุย ในบางครั้งอาจจะมีตุ่มหนองเกิดขึ้นร่วมด้วย 
  • โรคผิวหนังอักเสบโรซาเซีย (Rosacea) ผิวหนังอักเสบเรื้อรัง มักมีอาการผื่นคันสีแดง และมีตุ่มนูนแดง ตุ่มหนอง และอาจจะมีรอยแดง รอยเส้นเลือดฝอยปรากฏขึ้นบนผิวหนัง
  • โรคอีสุกอีใส (Chickenpox) โดยทั่วไปแล้วอีสุกอีใสมักจะเกิดเป็นลักษณะเริ่มต้นเป็นผื่นแดงก่อน จึงการมาเป็นตุ่มน้ำใส แล้วจึงเปลี่ยนเป็นตุ่มน้ำขุ่น ก่อนที่จะตกสะเก็ด แต่ในกรณีที่ตุ่มอีสุกอีใสนั้นได้รับการติดเชื้อแบคทีเรีย ตุ่มน้ำเหล่านั้นจะเกิดเป็นตุ่มหนองขึ้นมาแทน
  • โรคเพมฟิกัส (Pemphigus) เป็นอาการที่เริ่มจากมีอาการแผลถลอกที่ผิวหนัง ก่อนที่จะกลายเป็นตุ่มน้ำพองใสเกิดขึ้น อาจมีอาการปวดแสบร่วมด้วย หากมีการติดเชื้อแทรกเข้ามา จะทำให้กลายเป็นตุ่มหนอง หรือมีสะเก็ดน้ำเหลืองปกคลุมบริเวณนั้น และลุกลาม ควบคุมได้ยาก
  • โรคฝีดาษ (Smallpox) โรคผิวหนังจากเชื้อไวรัสวาริโอลา (Variola Virus) มักจะเกิดผื่นแดงเรียบขึ้นตามผิวหนัง แล้วจึงค่อย ๆ นูนขึ้นกลายเป็นตุ่มน้ำ และตุ่มหนอง ตามมาเป็นการตกสะเก็ด และเหลือทิ้งไว้เป็นรอยสิวแผลเป็นในที่สุด

สิวหัวหนองนั้นสามารถเกิดได้ทั่วทุกบริเวณตามผิวหนังในร่างกาย ไม่ใช่แค่เพียงบริเวณตามใบหน้าเท่า ตามบริเวณตามลำตัวก็สามารถพบสิวหัวหนองได้เช่นกัน 

บริเวณที่มักจะเป็นสิวหัวหนอง ได้แก่

  • สิวหัวหนองหน้าผาก สิวขึ้นหน้าผากเป็นสิวที่พบได้บ่อย เพราะเป็นบริเวณ T - Zone ส่วนหนึ่งของใบหน้าที่มีต่อมไขมัน (Sebum) อยู่มาก  ทำให้บริเวณนี้มีน้ำมันส่วนเกินมากง่ายต่อการเกิดสิว

  • สิวหัวหนองที่หัว สิวขึ้นหัวถึงแม้จะเป็นบริเวณที่มักจะไม่ค่อยพบสิวบ่อยนัก แต่บริเวณศีรษะถูกปกคลุมด้วยเส้นผมจำนวนมาก ทำให้มักจะเกิดความอับชื้นจากเหงื่อบริเวณนั้น ทำให้เกิดเป็นสิวหัวหนองที่หัวได้

  • สิวหัวหนองที่หน้าอก บริเวณหน้าอกเป็นอีกบริเวณที่มักเกิดความอับชื้นจากเสื้อผ้า รวมกับคราบไคล คราบน้ำมันส่วนเกิน ทำให้เกิดสิวอุดตันหัวหนองขึ้นมาได้

  • สิวหัวหนองที่คอ เพราะคอเป็นหนึ่งในบริเวณที่ถูกละเลยการทำความสะอาดอยู่บ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่เป็นบริเวณที่อยู่ติดกับไรผม ทำให้คราบเหงื่อ คราบความมันจากเส้นผมมาหมักหมมอยู่บริเวณนี้ได้ เกิดเป็นสิวขึ้นคอได้

  • สิวหัวหนองที่หลัง สิวที่หลังอีกหนึ่งบริเวณยอดฮิตที่มักพบสิวชนิดต่าง ๆ ไม่เพียงแต่สิวหัวหนองเท่านั้น เพราะเป็นบริเวณปิด อากาศไม่ถ่ายเทจากเสื้อผ้าที่ปกคลุมอยู่

  • สิวหัวหนองที่จมูก อีกหนึ่งในบริเวณ T - Zone ที่มีความมันอยู่มากนอกจากเป็นบริเวณที่รูขุมขนกว้าง ทำให้พบสิวเสี้ยนได้บ่อย แต่ก็สามารถเกิดสิวชนิดอื่นได้ด้วยเช่นกัน

  • สิวหัวหนองที่คาง สิวขึ้นคางส่วนหนึ่งของใบหน้าที่มักปรากฏสิวขึ้น เพราะเป็นบริเวณที่ใครหลาย ๆ คนมักจะสัมผัสอยู่บ่อย ๆ ทำให้เชื้อแบคทีเรีย สิ่งสกปรกที่มือไปตกค้างอยู่ในบริเวณนั้นได้

สิวหัวหนองที่แก้ม แม้บริเวณนี้จะไม่ใช่บริเวณ T- Zone ที่มีผิวมันมาก แต่ก็เป็นอีกบริเวณที่พบสิวได้จากการสัมผัสแก้มบ่อย ๆ ทำให้เกิดเป็นสิวหนองขึ้น

สิวอักเสบหัวหนอง

วิธีรักษาสิวหัวหนอง

แม้สิวหัวหนองจะมีลักษณะที่ดูน่ากลัว เพราะมีเม็ดสิวที่โดดเด่น เห็นหัวสิวที่เป็นหนองสีขาวเหลืองชัดเจน และยังมีความรู้สึกเจ็บเมื่อสัมผัสโดนอีก ทำให้ใครหลาย ๆ คนไม่รู้จะทำอย่างไรถึงจะรักษาสิวหัวหนองได้ แต่แท้จริงสิวหัวหนองรักษาไม่ยากเลย สามารถทำการรักษาให้หายขาดได้

วิธีรักษาสิวหัวหนองมีหลากหลายวิธี ดังนี้

รักษาสิวหัวหนอง ด้วยยาทาเฉพาะที่

เริ่มต้นด้วยวิธีพื้นฐานในการรักษาสิวหัวหนอง ก็คือการใช้ยาทาภายนอกในการรักษาสิวหัวหนอง ถึงแม้จะเป็นยาที่ใช้บริเวณภายนอกร่างกาย แต่ก็ควรได้รับคำแนะนำในการใช้ยาจากเภสัชกรหรือแพทย์ผิวหนังก่อน เพื่อจะได้ใช้ยาในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองจนเกินไป

ตัวยาทาเฉพาะที่ที่ช่วยรักษาสิวหัวหนอง มีดังนี้

  • กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) หรือกรดเบต้าไฮดรอกซี (BHA) มีคุณสมบัติในการช่วยลดการอักเสบของผิว และฆ่าเชื้อแบคทีเรีย จึงลดแนวโน้มการเกิดสิวได้อย่างดี

  • เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) ยาทารักษาสิว มีสรรพคุณในการลดจำนวนเชื้อแบคทีเรียลง และขจัดน้ำมันบนผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าแห้งขึ้น ทำให้ยากต่อการเกิดการอุดตันในรูขุมขน

  • คลินดาไมซิน (Clindamycin) เป็นยาในกลุ่มยาปฏิชีวนะชนิดทา ที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียบนผิว ทำให้แนวโน้มในการเกิดสิวลดลง

  • เรตินอล (Retinol) หนึ่งในอนุพันธ์วิตามิน เอ มีฤทธิ์ในการช่วยลดความมันบนใบหน้า และยังช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ทำให้ช่วยไม่เกิดการอุดตันของสิวใหม่ และยังลดเลือนรอยสิวให้จางลงได้อีกด้วย

รักษาสิวหัวหนอง ด้วยยาชนิดรับประทาน 

หากเป็นสิวหัวหนองในระดับที่รุนแรงขึ้น ก็ทาเพียงตัวยาภายนอกอาจไม่เพียงพอ หากได้กับปรึกษาจากเภสัชกรหรือแพทย์ผิวหนังแล้ว อาจจะเลือกรับประทานเป็นกลุ่มยาดังต่อไปนี้

  • อะม็อกซีซิลลิน (Amoxicillin) หนึ่งในกลุ่มยาปฏิชีวนะกลุ่มเพนิซิลลิน (Penicillins) ซึ่งจะช่วยในการรักษาโรคที่มีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งสามารถช่วยลดการอักเสบ และฆ่าเชื้อให้กับสิว

  • ยาคุมกำเนิด (Oral contraceptive pill) นอกจากสรรพคุณในการช่วยคุมกำเนิดแล้ว ตัวยาคุมยังช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเพศหญิง ฮอรืโมนเอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ทำให้ฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรน (Testosterone) มีระดับลดลง ทำให้ยับยั้งการกระตุ้นต่อมไขมันใต้ผิวหนังให้ผลิตไขมันส่วนเกิน (Sebum) น้อยลง ลดความบนใบหน้า ทำให้ยากต่อการเกิดการอุดตัน

รักษาสิวหัวหนอง ด้วยโฟโตไดนามิก (Photodynamic Therapy หรือ PDT)

การเข้ารับบริการทำหัตถการกับแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้สิวหัวหนองรักษาหายขาดได้ หนึ่งในนั้นคือการเลือกทำการรักษาสิวด้วยโฟโตไดนามิก (Photodynamic Therapy หรือ PDT)

โฟโตไดนามิก (Photodynamic Therapy หรือ PDT) คือ การรักษาสิวด้วยการใช้แสงที่มีสารไวแสง (Photosensitizing agent) ร่วมกับการฉายแสงจากแหล่งกำเนิดแสง เช่น เครื่องมือเลเซอร์ต่าง ๆ โดยเมื่อแสงเหล่านี้เข้าไปทำปฏิกิริยาจากภายในผิว จะช่วยทำลายเซลล์ผิวที่ทำงานผิดปกติ และฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวได้

ไม่ว่าจะสิวอักเสบหัวหนอง สิวหัวช้างมีหนอง หรือสิวหนองไม่มีหัว ไม่ว่าจะเป็นสิวหัวหนองชนิดใดก็ตาม หากดูแลผิวตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ ก็สามารถช่วยป้องกันการเกิดสิวหัวหนองได้ทั้งนั้น โดยมีวิธีป้องกันดังต่อไปนี้

  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทของทอด ของมัน เพราะในอาหารประเภทที่ใช้น้ำมันนี้ ภายในล้วนมีกรดไขมันจากในน้ำมันพืช รวมไปถึงอาหารประเภทที่ใช้เนยก็เช่นกัน ซึ่งจะทำให้ร่างกายก่อการสร้างสารที่ทำให้เกิดการอักเสบภายในมากขึ้น

  • ดูแลรักษาความสะอาดของร่างกายให้สะอาด โดยเฉพาะผิวบริเวณใบหน้าที่มีความบอบบาง จำเป็นต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั้งคลีนซิ่ง เจลล้างหน้าที่ทำความสะอาดอย่างล้ำลึก แต่อ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิว ไม่สร้างความระคายเคืองให้กับผิวอักเสบเพิ่มขึ้น

  • ลดการสัมผัสใบหน้า เพื่อลดการที่สิ่งสกปรกจากมือต้องสัมผัสและตกค้างอยู่บนผิวหน้า เสี่ยงต่อการอุดตันในรูขุมขน รวมถึงการกดสิวหัวหนองหรือบีบสิวหัวหนองก็เช่นกัน แม้จะทำให้หัวสิวหลุดออกมาได้ แต่หากกดหรือบีบไม่ถูกวิธี หรือบีบหัวสิวออกมาได้ไม่หมด จะยิ่งทำให้ผิวบริเวณนั้นอักเสบยิ่งขึ้น หรืออาจจะทิ้งรอยช้ำ รอยแผลสิวเอาไว้อีกด้วย

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทั้งเซรั่ม ครีมบำรุงผิว หรือครีมกันแดด ที่มีเนื้อบางเบา และไม่ใช่เนื้อออยล์ เพื่อไม่ให้ผิวมีความมันบนใบหน้ามากขึ้น

สิวเป็นหนอง

แนะนำว่าไม่ควรบีบสิวหนองเอง เพราะเนื่องจากสิวหัวหนองเป็นสิวประเภทสิวอักเสบ หากทำการบีบสิวหนองอย่างไม่ถูกวิธี จะยิ่งทำสิวและผิวบริเวณรอบ ๆ เกิดอาการอักเสบมากขึ้น รู้สึกปวดได้มากขึ้น ดังนั้นหากต้องการบีบหรือกดสิวอักเสบหัวหนอง แนะนำให้พบแพทย์ผิวหนังเป็นคนทำให้หรือมีการฉีดสิวอักเสบร่วมด้วย เพื่อให้สิวยุบตัวเร็วขึ้น และลดการอักเสบในบริเวณดังกล่าว

โดยปกติทั่วไปแล้วสิวที่เป็นสิวอักเสบปกติทั่วไป หรือมีหัวเป็นสิวหนอง จะใช้เวลาประมาณ 4 - 6 สัปดาห์ สิวจึงจะค่อย ๆ ยุบตัว และเรียบเนียนกลับมาเป็นปกติ แต่อาจจะทิ้งปัญหารอยสิวเอาไว้ให้ต้องรักษาเพิ่มเติมแทน ดังนั้นผู้ที่เผชิญอยู่กับปัญหาสิวหัวหนอง จะต้องใช้ความอดทนในการรอให้สิวค่อย ๆ ยุบตัวลง

Bioderma Sebium Gel MoussantBioderma Sebium Gel Moussant เจลล้างหน้าเหมาะสำหรับผู้มีผิวแพ้ง่าย เป็นสิวง่าย ทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจด อ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิว มี Copper Zinc Complex ช่วยลดแบคทีเรียสาเหตุของปัญหาสิว พร้อมทั้งสารสกัดจากใบแปะก๊วย (Gingko Biloba Leaf Extract) ช่วยปลอบประโลม ลดการอักเสบของผิว

Bioderma ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีเบี่ยม

ทำความสะอาดและบำรุงผิว

ผิวผสมถึงผิวเป็นสิวง่าย

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีเบี่ยม (Sébium)

Bioderma ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีเบี่ยม

ผิวจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เนื่องจากผิวจะมีความหนามากขึ้น มันเงา เกิดสิวอักเสบเป็นจุดมากน้อยแตกต่างกันไป และบางครั้งก็ยังคงเป็นเช่นนั้นต่อเนื่องไปจนถึงวัยผู้ใหญ่อีกด้วย

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีเบี่ยม (Sébium) เป็นผลิตภัณฑ์ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อผิวมันและเป็นสิวง่ายโดยเฉพาะ
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีเบี่ยม (Sébium) มีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลผิวที่แพทย์ผิวหนังแนะนำโดยเฉพาะ ทั้งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าสำหรับผิวมัน อย่างเจลล้างหน้าและไมเซล่า วอเตอร์ มอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวเป็นสิวง่าย และอื่นๆ อีกมากมาย เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประจำวันให้ตัวคุณเลย!