พูดถึงหนึ่งในปัญหาผิวที่พบบ่อยที่สุดคงไม่พ้นปัญหาเรื่อง “สิวขึ้น” กับคำพูดว่า “หน้าสิว” ที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนเสียความั่นใจ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้แทบทุกคนและอาจมีลักษณะของสิวที่แตกต่างกันไป เมื่อร่างกายเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นแล้วเกิดสิว การดูแลสุขภาพเพื่อรักษาสิวและลดสิวจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญของวิธีรักษาสิว ไม่ว่าจะเป็น สิวเสี้ยนอุดตัน สิวอักเสบ ลดโอกาสการเกิดหลุมสิวหรือรอยสิวในภายหลังด้วย

 

สารบัญบทความ

สิว (Acne) คืออะไร

สิว ( Acne , Pimple) เป็นอาการทางผิวหนังที่เกิดจากการอุดตันหรือการติดเชื้อของต่อมไขมันในชั้นใต้ผิวหนังและเกิดเป็นตุ่มก้อนไขมัน สิวมีลักษณะเป็นตุ่มนูน เป็นก้อนไขมันอยู่ใต้ผิวหนัง มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ขึ้นอยู่กับสาเหตุการเกิดสิวนั้นๆ สิวบางชนิดก็อาจจะมีหัวสิวโผล่ขึ้นมาให้เห็นชัด แต่บางชนิดก็อาจจะเป็นสิวหัวปิด ไม่เห็นหัวสิว หัวสิวมีทั้งสีขาวและสีดำ อยู่ที่ไขมันนั้นได้ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศหรือไม่ สิวสามารถเกิดได้ทุกบริเวณของผิวหนังในร่างกาย แต่มักจะปรากฏมากในบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก เช่น ใบหน้า ลำคอ อก แผ่นหลังส่วนบน หัวไหล่ และมักจะพบมากในช่วงวัยรุ่น เพราะเป็นช่วงที่ฮอร์โมนในร่างกายยังไม่สมดุล มีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อย ๆ

หลังจากได้ทราบแล้วว่าสิวคืออะไร Bioderma ไปดูกันต่อว่าสิวเกิดจากอะไร เผื่อจะได้ขจัดปัญหาสิวไปได้ตั้งแต่ต้นเหตุ

สิวเกิดจากอะไร

สิวเกิดจากอะไรนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยปัจจัยการเกิดสิวมีหลากหลายและขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละบุคคล สาเหตุการเกิดสิวบางประการอาจไม่ได้ส่งผลให้เกิดสิวโดยตรง

โดยเราสามารถแบ่งสาเหตุของการเกิดสิวได้เป็นสองปัจจัย ดังนี้

1.ปัจจัยภายใน

  • กรรมพันธ์ุ
    การเกิดสิวสามารถเกิดจากกรรมพันธุ์ได้ หากคนในครอบครัวมีสภาพผิวที่เป็นสิวง่าย อาจส่งต่อถึงลูกทำให้ลูกมีโอกาสเกิดสิวมากกว่าปกติ
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
    การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนส่งผลต่อสภาพผิวและระบบในร่างกาย เช่นการกระตุ้นต่อมไขมันให้มีการผลิตไขมันออกมามากขึ้น จึงเป็นสาเหตุของสิวช่วงประจำเดือนที่ฮอร์โมนมักไม่คงที่นั่นเอง

  • ความเครียด
    ความเครียดสามารถส่งผลต่อฮอร์โมนและกระตุ้นให้ต่อมไขมันมีการผลิตไขมันออกมามากขึ้นได้ อาจทำให้เกิดสิวอุดตันได้ด้วย
  • พักผ่อนไม่เพียงพอ
    การพักผ่อนไม่เพียงพอ นอกจากจะส่งผลให้เกิดความเครียดแล้วยังทำให้ร่างกายไม่สามารถพักผ่อนฟื้นฟูได้เต็มที่ ส่งผลให้เกิดสิวและทำให้สิวหายได้ช้า ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยสิวตามมา

 

2.ปัจจัยภายนอก

  • สภาพอากาศ
    สภาพอากาศส่งผลกับสภาพของผิวด้วย เช่น อากาศร้อนส่งผลให้ผิวมีความแห้งและขาดน้ำ เกิดการผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมาปกป้องผิวทำให้เกิดการอุดตันได้ง่าย หรืออากาศหนาวส่งผลให้ผิวมีความแห้ง ขาดน้ำ ผิวมีความตึงเพราะความหนาวและระคายง่ายกว่าปกติ

  • การเจริญเติบโตของแบคทีเรียก่อให้เกิดสิวอักเสบ
    ผิวอาจได้รับแบคทีเรียจากภายนอกด้วย อย่างฝุ่นและมลพิษหรือการสัมผัสผิวหน้าอาจทำให้มีแบคทีเรียเข้าสู่รูขุมขนและเกิดการอักเสบใต้ชั้นผิวเป็นสิวอักเสบได้ เป็นสาเหตุว่าทำไมควรเลี่ยงการสัมผัสผิวหน้าหากยังไม่ได้ล้างมือให้สะอาด

  • เครื่องสำอางหรือสารเคมีตกค้างบนผิว
    เครื่องสำอาง ครีมกันแดด หรือสารเคมีต่างๆที่ตกค้างบนผิวสามารถก่อให้เกิดการอุดตันได้ หากมีสิ่งตกค้างบนผิวและอุดตันเป็นจำนวนมากอาจส่งผลให้สิวมีขนาดใหญ่ หายช้า หรือมีอาการอักเสบในภายหลังได้จากการระคายเคืองผิว

  • การรับประทานอาหารที่มีไขมันมากจนเกินไป
    การรับประทานอาหารที่มีไขมันมากจนเกินไป รวมถึงอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น แป้งและน้ำตาล เป็นอาหารสำหรับแบคทีเรียและกระตุ้นให้ผิวขับไขมันออกมาในรูปแบบของสิวได้

สิวมีหลายประเภทขึ้นกับลักษณะสิว และสาเหตุการสิวประเภทต่าง ๆ หากเรารู้ถึงลักษณะของสิวแต่ละประเภทเราก็จะสามารถรักษาสิว ลดสิวบนใบหน้าลงไปได้

โดยประเภทสิวขึ้นนั้นแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้

รักษาสิว ลดสิว สิวมีกี่ประเภท

สิวอุดตัน

สิวอุดตัน  (Comedones) เป็นผิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน สิวอุดตันอาจเกิดจากไขมัน เซลล์เยื่อบุผิวหนังที่ตายแล้วบนผิวชั้นนอก และสิ่งสกปรกต่างๆที่อาจตกค้างและอุดตันอยู่ในผิว สิ่งเหล่านี้ทำให้ไขมันที่ผิวผลิตไม่สามารถออกมาได้ ทำให้ผิวเป็นตุ่มนูน ขาดความเรียบเนียน อาจเกิดในรูปแบบของสิวหัวขาว หรือสิวหัวดำได้

โดยหัวใจหลักในการแก้ปัญหาสิวอุดตันนั้นก็คือ การรักษาความสะอาดบนผิวให้สะอาดหมดจด ไม่ให้มีสิ่งสกปรกตกค้างบนใบหน้า เพื่อสิ่งตกค้างเหล่านี้จะได้ไม่หลุดลอกไปรวมกับน้ำมันส่วนเกินบนผิวแล้วลงไปอุดตันในรูขุมขน เรามาดูกันว่าสิวอุดตันแต่ละประเภทนั้นมีอะไรบ้าง และมีความแตกต่างกันอย่างไร

 

  • สิวหัวขาว

สิวหัวขาว (Whiteheads) เป็นสิวอุดตันประเภทหนึ่ง ที่เกิดจากการอุดตันของเชื้อแบคทีเรียที่เข้าไปอุดตันในรูขุมขน แบบปิดทำให้หัวสิวไม่ได้ทำปฏิกิริยากับออกซิเจน ทำให้หัวสิวเป็นสีขาว

 

  • สิวหัวดำ

สิวหัวดำ (Blackheads) เป็นสิวอุดตันประเภทหนึ่ง เรียกได้อีกชื่อว่า สิวหัวเปิด มีลักษณะเป็นตุ่มนูน มักเป็นเม็ดเล็ก มีรูเปิดเห็นหัวสิวและมีจุดสีดำบริเวณตรงกลาง จุดดังกล่าวคือไขมันในผิวที่สัมผัสกับอากาศแล้วกลายเป็นสีดำ

 

  • สิวผด 

สิวผด  มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ แข็ง ๆ เหมือนผด มักเกิดจากเหงื่ออุดตัน สิวผด สิวหิน อาจทำให้ใบหน้าเห่อแดงเมื่อสัมผัสกับแสงแดดได้

 

  • สิวเสี้ยน

สิวเสี้ยน เป็นสิวอุดตันประเภทหนึ่งที่มีความคล้ายคล้ายกับสิวหัวดำ แต่จะมีขนอ่อน ๆ ออกมาจากรูขุมขนด้วย เพราะขนเหล่านี้ไม่ยอมหลุดร่วงไปตามขนปกติ ทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนได้

 

  • สิวเป็นไต

สิวเป็นไต เป็นสิวอุดตันไม่มีหัวชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะเป็นหัวแข็ง ๆ เป็นไตใต้ผิวหนัง ไม่มีอาการอักเสบ หรืออาการคันร่วม

 

สิวอักเสบ

สิวอักเสบ คือ สิวที่เกิดการอักเสบในผิวหนังบริเวณนั้น โดยสิวอักเสบมีลักษณะเป็นก้อนแข็ง สีแดง อาจจะเป็นได้ทั้งสิวอักเสบมีหัว หรือสิวอักเสบไม่มีหัวสิวก็ได้

สิวอักเสบส่วนใหญ่มักจะเกิดจากสิวทั่วไปที่ทำสัมผัสบ่อย ๆ ด้วยการ แคะ แกะ เกา เพื่อพยายามบีบหัวสิวออกมา แต่หารู้ไม่ว่าการสัมผัสกับสิวบ่อย ๆ อาจทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดการระคายเคือง และถูกรบกวนจึงอักเสบขึ้นมาได้ ดังนั้นวิธีการแก้สิวอักเสบง่าย ๆ คือการพยายามไม่เอามือของเราที่ผ่านการสัมผัสเชื้อแบคทีเรียมากมายไปสัมผัสกับสิว

 

  • สิวหัวหนอง

สิวหัวหนอง (Pustule) เป็นสิวอักเสบประเภทหนึ่ง มีลักษณะเป็นตุ่มแดงและมีอาการปวดบวมด้วย ซึ่งบนตุ่มจะมีลักษณะเป็นหัวหนองสีเหลือง มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียอื่นแทรกซ้อน

 

  • สิวหัวช้าง

สิวหัวช้าง เป็นสิวอักเสบประเภทหนึ่งที่ค่อนข้างรุนแรง มักเกิดในผู้ที่มีผิวมันมาก มีลักษณะคล้ายกับสิวหัวหนองที่มีอาการอักเสบเยอะกว่า สังเกตได้จากอาการปวดบวมแดง มีหนองเยอะ และมีเลือดเยอะ และหากดูแลรักษาไม่ดีมีแนวโน้มเป็นแผลทิ้งเป็นหลุมสิวได้

นอกจากนี้ยังมีสิวติดสาร หรือสิวสเตียรอยด์ที่จะมักถูกเข้าใจว่าเป็นสิว แต่แท้จริงแล้วสิวสเตียรอยด์ไม่ใช่สิว แต่เป็นปัญหาผิวที่มีลักษณะคล้ายผื่น มักเกิดเป็นปื้นรวมกันบนผิว มีความรู้สึกว่าผิวเป็นสิวหรือเป็นผดผื่นง่ายกว่าเดิม มีอาการแดงและคันร่วมด้วย มีปัญหาผิวอื่น ๆ อีก เช่น โรครูขุมขนอักเสบจากเชื้อรา ที่เป็นปัญหาของสิวยีสต์ (Malassezia)

และสิวที่เกิดจาก เนื้องอกของท่อเหงื่อหรือต่อมเหงื่อที่มักเกิดบริเวณโหนกแก้ม จมูก คือ สิวหิน นั่นเอง สามารถอ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ >> สิวหิน

บริเวณที่มักจะเกิดสิว

สิวแต่ละประเภทที่กล่าวมา มักจะเกิดในตำแหน่งหน้าซ้ำ ๆ เพราะในบางบริเวณนั้นเป็นบรเวณที่มีต่อมไขมันมาก อาจจะมีการผลิตน้ำมันส่วนเกินมากเกินไปจนเกิดการอุดตันในรูขุมขนได้ง่าย เหมือนกับบริเวณต่อไปนี้

  • สิวที่หลัง
  • สิวขึ้นคาง
  • สิวผดที่แก้ม
  • สิวขึ้นหน้าผาก
  • สิวที่คอ

ระดับความรุนแรงของการเป็นสิว

การรักษาสิวและดูแลสิวขึ้นอยู่กับชนิดของสิว รวมถึงระดับความรุนแรงของสิวด้วย

 

สิวในระดับรุนแรงน้อย

สิวในระดับรุนแรงน้อย เป็นสิวที่ยังไม่มีการอักเสบหรือมีการอักเสบค่อนข้างน้อย เบื้องต้นสามารถรักษาได้เองด้วยการทำความสะอาดผิวหน้าให้เรียบร้อย เช่น การใช้โฟมล้างหน้าที่เหมาะกับผิว ควบคู่กับการใช้สกินแคร์สำหรับการดูแลผิวเป็นสิว รวมถึงการใช้ยาแต้มสิว

 

สิวในระดับรุนแรงปานกลาง

สิวในระดับรุนแรงปานกลาง เป็นสิวที่มีการอักเสบมาก เช่นสิวนูนแดงมีอาการปวด และเกิดสิวในบริเวณเดิมซ้ำๆ สามารถดูแลสิวรุนแรงปานกลางได้ด้วยการทายาแต้มสิวและใช้สกินแคร์สำหรับผิวเป็นสิว รวมถึงการรักษาความสะอาดด้วย

 

สิวในระดับรุนแรงมาก

สิวในระดับรุนแรงมาก เป็นสิวที่มีอาการอักเสบมาก สังเกตได้จากความบวมแดงของสิว และมีหนองปนด้วย จะเห็นความรุนแรงของสิวได้จากการที่สิวมีการกระจายตัวเป็นวงกว้าง เช่น ทั่วบริเวณใบหน้า หากสิวมีอาการเห่อและรักษาเองได้ยากอาจปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อพิจารณาการรับประทานยาควบคู่ไปกับการใช้ยาแต้มสิว และการดูแลผิวหน้าด้วย

4 วิธีรักษาสิวที่ได้ผล

หากเป็นสิวรักษายังไง มีวิธีแก้สิวอย่างไร วันนี้ Bioderma จะมาแนะนำวิธีรักษาสิวด้วยวิธีต่าง ๆให้กับทุกคนได้ทราบกัน

 

การรักษาสิวด้วยยา

การรักษาสิวด้วยยารักษาสิวสามารถทำได้เพื่อเป็นการรักษาเบื้องต้น ยารักษาสิวสามารถหาซื้อได้ทั่วไป ส่วนมากมักมีส่วนประกอบของกรดต่างๆ เช่น

  • ซาลิไซลิคแอซิด 

เป็นกรดในกลุ่มเบต้า-ไฮดรอกซี (ฺBHA) ที่ช่วยขจัดผิวชั้นนอก และน้ำมันส่วนเกิน และสิ่งสกปรกออกไป เพื่อลดโอกาสการอุดตันของผิว ลดสิว  ขจัดปัญหารูขุมขนกว้าง และบรรเทารอยสิว

  • ไกลโคลิคแอซิด 

เป็นกรดผลไม้ (AHA) สามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกไป ไม่อุดตันรูขุมขนและเผยผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน เป็นสารรักษาสิวที่หน้าที่ดีอีกตัวหนึ่ง

  • อะซีลาอิคแอซิด 

เป็นกรดอินทรีย์ที่พบในตระกูลข้าว มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียต้นตอของสิว ช่วยแก้ปัญหาสิวได้

  • เบนซิลเพอร์ออกไซด์

เป็นกรดอีกชนิดที่มีสรรพคุณต้านเชื้อแบคทีเรีย และช่วยลดน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า แต่ผู้ที่มีผิวแห้ง และผิวขาดน้ำก็ควรต้องระวังในการใช้งาน เพราะอาจทำให้ผิวแห้งมากขึ้นได้

แต่ทั้งนี้ผู้ที่ผิวบอบบาง ต้องระวังในการใช้สารเหล่านี้ เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้ 

 

การกดสิว

การกดสิวเป็นวิธีการรักษาสิวที่หน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังเนื่องจากการกดสิวที่ผิดวิธีอาจทำให้หัวสิวจมลงไปในผิวลึกกว่าเดิมและเกิดการอักเสบได้ ดังนั้นการกดสิวจึงควรอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่รู้วิธีการกดสิวเท่านั้น ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง จนเกิดการอักเสบขึ้นมาได้ หรือ อาจจะทำให้เกิดรอยช้ำ รอยแผลจากสิวขึ้นมาได้

 

การเลเซอร์สิว

แม้ว่าการเลเซอร์สิวจะเป็นที่นิยมด้วยความรวดเร็วในการรักษสิว แต่ด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าวิธีอื่นๆและผลกระทบต่อผิวซึ่งอาจทำให้ผิวมีความบอบบาง ไวต่อแสง เสี่ยงต่อการเกิดฝ้ากระหากโดนแดด การเลเซอร์สิวจึงเป็นวิธีที่ควรศึกษาและปรึกษาแพทย์ก่อนการเข้ารับการรักษาสิ

 

การรักษาสิวด้วยวิธีอื่นๆ

และวิธีในการลดสิวมีอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น วิธีรักษาสิวด้วยฮอร์โมน หรือใช้การรับประทานยาคุมกำเนิด จะช่วยเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ที่มีหน้าที่กระตุ้นการผลิตไขมันซีบัมจากต่อมไขมันออกมา ทำให้ง่ายที่จะมีน้ำมันส่วนเกินอุดตันรูขุมขน จนเกิดเป็นสิวฮอร์โมนได้

15 วิธีลดสิว ดูแลผิวหน้าด้วยตนเอง

การดูแลผิวเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาสิวจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนทำได้ เพื่อดูแลทุกสภาพผิวและลดโอกาสการเกิดสิว เป็นการลดโอกาสการเกิดร่องรอยจากสิวในภายหลังได้ด้วย โดยสามารถดูแลผิวได้ด้วย 10 วิธี ดังนี้

  1. รักษาความสะอาดของผิวหน้าโดยการล้างหน้าทุกเช้าหลังตื่นนอน และตอนเย็นหลังออกข้างนอกหรือตอนอาบน้ำ
  2. ดูแลผิวหน้าด้วยความอ่อนโยน ใช้ทิชชู่หรือผ้าขนหนูที่มีความนุ่ม และเน้นวิธีการซับหน้าเบาๆมากกว่าการถูหน้า รวมถึงหลีกเลี่ยงการแกะหรือเกาผิว หรือการใช้สครับขัดผิวที่มีความหยาบเพราะอาจบาดผิวทำให้เป็นแผลหรืออักเสบเป็นสิวได้
  3. หากใช้เครื่องสำอาง ควรใช้คลีนซิ่งทำความสะอาดอย่างถี่ถ้วนเพื่อป้องกันไม่ให้มีสิ่งตกค้าง เกิดการอุดตันหรืออักเสบผิวมากกว่าเดิม หรืออาจจะใช้โทนเนอร์ร่วมด้วยหลังทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกที่อาจจะลงเหลืออยู่
  4. ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ เลี่ยงแนวโน้มผิวแห้งกร้าน
  5. พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเองได้อย่างเต็มที่ ช่วยรักษาสิวและลดแนวโน้มการเกิดสิวด้วย
  6. ทาสกินแคร์ เซรั่ม ครีมบำรุงผิวและยาทาสิวอย่างสม่ำเสมอเพื่อเป็นการดูแลผิวแต่พื้นฐาน ช่วยลดสิวในระยะยาวได้
  7. ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ สม่ำเสมอ เพื่อป้องกันผิวจากมลภาวะทางอากาศ แสงแดด แสงจากจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ในชีวิตประจำวัน
  8. พักผ่อนให้เพียงพอ สำหรับผู้ที่พักผ่อนเพียงพอจะเป็นการช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเองได้อย่างเต็มที่เป็นการลดแนวโน้มผิวเครียด ช่วยลดโอกาสการเกิดสิวได้
  9. การรักษาความสะอาดอยู่เสมอ อย่างการใช้เจลล้างหน้าที่ได้รับมาตรฐาน และการทำความสะอาดเครื่องสำอางให้ถี่ถ้วน โดยเฉพาะการใช้ครีมกันแดดที่หลายคนมักไม่ทราบว่าต้องใช้คลีนซิ่งเพื่อทำความสะอาดไม่ให้ตกค้างในรูขุมขน และเครื่องสำอางที่ใช้กับดวงตาอย่างอายไลน์เนอร์จะมีความติดทนมากเป็นพิเศษ ควรใช้คลีนซิ่งพิเศษสำหรับทำความสะอาดดวงตาโดยเฉพาะด้วย
  10. ไม่แกะ เกา บีบสิว เพราะอาจเป็นการทำร้ายผิวให้เกิดแผลหรือทิ้งร่องรอย
  11. ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิว เนื่องจากผลิตภัณฑ์ขัดผิวอย่างเม็ดสครับแม้จะมีความละเอียดแต่เมื่อเทียบกับรูขุมขนแล้วก็ยังมีขนาดใหญ่ อาจทำให้ผิวระคายเคือง กระตุ้นให้เกิดสิว หรือสิวอักเสบได้
  12. หากสิวหัวเปิดหรือเป็นแผล ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสิวโดยตรงเพราะอาจทำให้แบคทีเรียเข้าสู่ปากแผล เกิดหนองหรือการอักเสบได้
  13. การใช้เครื่องสำอางและสกินแคร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน เนื่องจากอาจไม่มีการรับประกันสุขอนามัยของผลิตภัณฑ์และอาจมีการใช้สารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวเป็นสาเหตุของสิว
  14. ปล่อยให้ผิวสัมผัสกับแสงแดด หรืออยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด นอกจากจะเสี่ยงการเกิดผดผื่น สิวเห่อ ผิวไหม้แดด หน้าหมองคล้ำ ยังเสี่ยงทำให้ผิวผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมาอุดตันรูขุมขนอีกด้วย
  15. การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าสำหรับผิวเป็นสิวจะช่วยลดการเกิดสิวได้และมีค่า pH 5.5 ที่ใกล้เคียงกับผิว ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำ มีมาตรฐานระดับโลกรองรับ ได้แก่

รักษาสิว ลดสิว ใช้ Bioderma Sebium H2O

  • Bioderma Sebium H2O เป็นคลีนซิ่งทำความสะอาดได้ล้ำลึกแต่อ่อนโยน เหมาะสำหรับผิวผสม-ผิวมัน เป็นสิวง่าย ใช้ได้ทุกเช้าและเย็นเพื่อทำความสะอาดใบหน้าและขจัดสิ่งสกปรกที่อาจอุดตันรูขุมขน ลดความมันส่วนเกินซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักในการเกิดสิวอีกด้วย

รักษาสิว ลดสิว ใช้ Bioderma Sebium Gel Moussant

 

  • Bioderma Sebium Gel Moussant เป็นเจลล้างหน้าที่พัฒนาสูตรมาพิเศษสำหรับผิวแพ้ง่ายและผิวเป็นสิวโดยเฉพาะ สามารถใช้ได้ทุกบริเวณที่มีสิว เช่นทั้งใบหน้าและแผ่นหลัง ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และมีค่า pH 5.5 ที่ใกล้เคียงกับผิว ทำให้ผิวยังกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ไม่แห้งตึง

รักษาสิว ลดสิว ใช้ Bioderma Sebium Lotion

 

  • ในส่วนของสกินแคร์บำรุงผิว แนะนำ Bioderma Sebium Lotion เป็นสกินแคร์ตัวแรก ด้วยเนื้อของน้ำตบบำรุงผิวที่สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว นอกจากจะมีส่วนผสมที่ช่วยลดสิวและปรับค่าสมดุลผิวได้แล้วยังเป็นการเตรียมผิวให้พร้อมรับสกินแคร์ตัวต่อไปอีกด้วย เช่น Bioderma Sebium Sensitive ครีมบำรุงผิวสำหรับผิวแพ้ง่าย เป็นสิวง่าย ผิวขาดน้ำ ช่วยให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น สามารถใช้ร่วมกับยารักษาสิวได้ หรือ Bioderma Sebium Pore Refiner ครีมบำรุงผิวหน้า สำหรับผิวมัน หรือผู้ที่มีปัญหา รูขุมขนกว้าง ช่วยลดความมันส่วนเกินและกระชับรูขุมขน โดยสกินแคร์ดังกล่าวช่วยลดสิวและลดการเกิดสิวในอนาคตได้

รักษาสิว ลดสิว ใช้ Bioderma Sebium Sensitive

รักษาสิว ลดสิว ใช้ Sebium Pore Refiner

สรุป

สิวเป็นปัญหาผิวที่เกิดได้จากปัจจัยทั้งภายในและภายนอก การรักษาสิวและลดสิวสามารถทำได้ด้วยตัวเองในเบื้องต้น หรือปรึกษาแพทย์หากพบว่าสิวมีอาการอักเสบหรือสิวเห่อและรักษาได้ยาก หนึ่งในวิธีสำคัญของการดูแลผิวเป็นสิวเพื่อลดโอกาสการเกิดสิวในอนาคตคือการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าและสกินแคร์ที่เข้ากับผิว เช่น ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Sebium ของ Bioderma ซึ่งมีตั้งแต่คลีนซิ่ง น้ำตบ จนถึงครีมทาผิวเพื่อดูแลผิวเป็นสิวได้อย่างตรงจุด เพื่อการลดสิวอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

Bioderma ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีเบี่ยม

ทำความสะอาดและบำรุงผิว

ผิวผสมถึงผิวเป็นสิวง่าย

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีเบี่ยม (Sébium)

Bioderma ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีเบี่ยม

ผิวจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เนื่องจากผิวจะมีความหนามากขึ้น มันเงา เกิดสิวอักเสบเป็นจุดมากน้อยแตกต่างกันไป และบางครั้งก็ยังคงเป็นเช่นนั้นต่อเนื่องไปจนถึงวัยผู้ใหญ่อีกด้วย

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีเบี่ยม (Sébium) เป็นผลิตภัณฑ์ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อผิวมันและเป็นสิวง่ายโดยเฉพาะ
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีเบี่ยม (Sébium) มีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลผิวที่แพทย์ผิวหนังแนะนำโดยเฉพาะ ทั้งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าสำหรับผิวมัน อย่างเจลล้างหน้าและไมเซล่า วอเตอร์ มอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวเป็นสิวง่าย และอื่นๆ อีกมากมาย เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประจำวันให้ตัวคุณเลย!